สหพัฒน์ประกาศนโยบายเสริม Logistics เตรียมขยาย e-Commerce

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

12380979_10153317018806020_477149445_o

บุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ สหพัฒน์ พร้อมด้วย ผาสุข รักษาวงศ์ และ เวทิต โชควัฒนา ผู้บริหารระดับสูง ได้ลงมาประกาศถึงทิศทางทำธุรกิจของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของไทยในปี 2559 ว่าจะเป็นไปอย่างไร

เริ่มต้นเรื่อง บุญชัย บอกชัดเจนว่า สหพัฒน์ปีนี้ จะเติบโตขึ้น 10% มีรายได้ 32,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าปี 58 คือจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจ และในปี 59 ทุกอย่างกำลังดีขึ้น ที่สำคัญจากการจัดกิจกรรมทางการตลาดตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา ส่งผลให้ 2 เดือนแรก คือ ม.ค. และ ก.พ. มียอดขายเติบโต 17% อีกทั้งมีสัญญาณบวกจากทั้งต่างประเทศ และภายในประเทศเอง แม้จะมีปัญหาภัยแล้ง แต่ บุญชัย เชื่อว่าคนไทยสามารถผ่านไปได้ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไทยประสบปัญหานี้

ถ้าจะมีสิ่งที่น่าห่วง กลับเป็นเรื่องของหนี้ครัวเรือนของไทย ที่ปัจจุบันสูงกว่า 80% ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ และเรื่องกู้เงินนอกระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหา เพราะคนไทยมีนิสัยใช้จ่ายเงินเกินตัว ถ้าไม่รีบจัดการแต่เนิ่นๆ อาจจะรุกลามใหญ่โตขึ้นได้

12873385_10153317018191020_1366562502_o

เสริมพลัง Logistics ปั้นยอดขายเติบโต 10%

หนึ่งในนโยบายสำคัญของสหพัฒน์ ที่จะมาช่วยเพิ่มยอดขาย สร้างรายได้ให้เติบโต 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ การพัฒนาระบบ Logistics ให้มีประสิทธิภาพและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยปีที่ผ่านมาได้เริ่มต้นการวางระบบใหม่ พัฒนาระบบไอทีให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่อง Logistics โดยเฉพาะ

ส่วนสำคัญคือ การทำ Logistics ไม่ได้ใช้เฉพาะสินค้าของสหพัฒน์เท่านั้น แต่รวมถึงสินค้าแบรนด์ต่างๆ ที่มาร่วมใช้บริการการกระจายสินค้า ซึ่งยังเปิดรับสินค้าและผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นๆ เข้ามาอีกเรื่อยๆ

โดยสหพัฒน์ ได้เตรียมขยายศูนย์กระจายสินค้าหลักทั่วประเทศ จากเดิมมีอยู่ที่ศรีราชา ล่าสุดได้ขยายมาที่กรุงเทพ อีก 2 เดือนจะขยายไปที่ขอนแก่น และมีแผนขยายไปเชียงใหม่ และนครราชสีมา ทั้งหมดจะทำให้สินค้าในเครือสหพัฒน์ และสินค้าแบรนด์อื่นที่มาใช้บริการ กระจายสินค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

ศูนย์หลักประมาณ 8 แห่งที่จะเปิดเพิ่ม ไม่ได้ใช้เงินลงทุนมากนัก เพราะเป็นพื้นที่ที่สหพัฒน์มีอยู่แล้ว และจะทำงานร่วมกับศูนย์กระจายสินค้าย่อยอีก 71 แห่ง ที่คอยทำงานร่วมกันหน่วยรถกว่า 240 คันในการส่งสินค้าไปในแต่ละจังหวัด และด้วยระบบไอที สหพัฒน์ จะรู้ได้ทันทีว่า พื้นที่ใดต้องการสินค้าใด ช่วยในการสต็อกสินค้าได้เป็นอย่างดี

บุญชัย บอกว่า สหพัฒน์ได้เจรจากับพันธมิตรด้าน Logistics หลายรายเพื่อเตรียมให้บริการ เพราะมีแบรนด์นอกเครือสหพัฒน์ที่มาใช้บริการการกระจายสินค้าของสหพัฒน์เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันมีสินค้านอกเครือประมาณ 20% ที่ใช้บริการ แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

12874176_10153317018116020_1219172302_o

e-Commerce คือ ช่องทางจำหน่ายในอนาคต

สำหรับแนวทางการทำตลาดออนไลน์ หรือ e-Commerce ปัจจุบันมีเว็บไซต์ www.sahapatdelivery.com จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภทในกลุ่ม FMCG ซึ่งถือว่าเริ่มดำเนินการมาได้ระยะเวลาหนึ่ง และกำลังพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ โดยปีที่ผ่านมามียอดรายได้กว่า 50 ล้านบาท และปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 100 ล้านบาท โดยสามารถสั่งทางเว็บไซต์หรือจะโทรสั่งทางโทรศัพท์ก็ได้

เวทิต ยอมรับว่าแม้การเติบโตของ e-Commerce จะรวดเร็ว แต่ด้วยมูลค่าแล้วยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดขายและรายได้ทั้งเครือสหพัฒน์ แต่เห็นว่าเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าที่สำคัญในอนาคต และสหพัฒน์ก็มีแนวทางในการพัฒนาอย่างชัดเจน ซึ่งการมีศูนย์กระจายสินค้าหลักและย่อยกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศแบบนี้ เมื่อมีการสั่งซื้อผ่าน e-Commerce เชื่อว่าจะมีการพัฒนาเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันในอนาคต

ค้าปลีกรายใหญ่อย่างสหพัฒน์ ส่งสัญญาณมาแล้วว่า บริษัทจะเติบโต แสดงว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวก นอกจากภาพรวมที่เติบโต 17% แล้ว ในแต่ละสินค้า เช่น มาม่าเติบโต 21% สินค้ากลุ่ม Lion เติบโตกว่า 10% น้ำตาลมิตรผลก็เติบโตเช่นกัน อย่างน้อยก็เป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในประเทศไทย

12516845_10153317018101020_859530935_o


  •  
  •  
  •  
  •  
  •