มาถึงตอนนี้ คำว่า Virtual Conference หรือ Hybrid Conference คงคุ้นหูผู้คนมากขึ้นแล้ว เพราะสถานการณ์โรคระบาดทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และการทำงานสู่รูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่นเดียวกับภาคธุรกิจที่ต้องปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่สะดุด แน่นอนว่า Tech Company ทั้งหลายจึงเร่งพัฒนา และนำเสนอโซลูชันต่างๆ เพื่อตอบรับกับความต้องการด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีสำหรับการจัดงานอีเวนต์ งานประชุม นิทรรศการ งานแสดงสินค้าในยุค new normal เชื่อว่าตอนนี้ไม่มีใครตั้งคำถาม…ว่าการจัดอีเวนต์แบบ Virtual หรือ Hybrid จำเป็นหรือไม่ แต่อาจมีบ้างที่สงสัยว่า สำคัญอย่างไร? ทำไมต้องตามเทรนด์นี้ให้ทัน ซึ่งประเด็นนี้คงต้องอธิบายว่า
การจัดแบบ Virtual นอกจากจะช่วยให้ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายที่มาจากการเช่าพื้นที่ และการก่อสร้างโครงสร้างต่างๆ แล้ว ผู้จัดงานยังสามารถเลือกรูปแบบฟีเจอร์ที่เหมาะสมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ร่วมงานได้ตามความต้องการของแต่ละธุรกิจ ผู้ร่วมงานก็สามารถเข้าร่วมงานได้จากทุกที่ ขณะที่การสื่อสารโต้ตอบระหว่างบุคคลยังคงมีอยู่ตามปกติทั้งยังเอื้อประโยชน์ต่อการเก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันการจัดอีเวนต์ Hybrid Conference คือ การผสานการจัดงานที่ผู้ร่วมงานได้พบปะกันจริงๆ (Live In-person Event) เข้ากับองค์ประกอบแบบเสมือนจริงของการจัดงานแบบออนไลน์ จึงเอื้อให้ผู้ที่อาจจะไม่พร้อมเข้าร่วมประชุม ณ สถานที่จัดงานเนื่องจากติดขัดเรื่องการเดินทางหรือเขตเวลา ยังสามารถมีส่วนร่วมในประชุมนั้นๆ ในรูปแบบออนไลน์ได้ด้วยเช่นกัน
มาตรฐานใหม่ ‘อีเวนต์’ กับโจทย์ Virtual – Hybrid Conference
เมื่อเทรนด์ของการจัดงานในปัจจุบันเปลี่ยนมาเช่นนี้ “เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) ในฐานะผู้ให้บริการ เทนเซ็นต์ คลาวด์ ระบบปฏิบัติการคลาวด์ระดับเวิลด์คลาส ก็ไม่รอช้า ออกมานำเสนอบริการ ‘Tencent Cloud Conference’ หรือ TCC โซลูชันเพื่อการจัดอีเวนต์ และการประชุมสัมมนาแบบครบวงจรให้ได้ทำความรู้จักกัน
มร. ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโซลูชันนี้ว่า “Tencent Cloud Conference (TCC) คือ โซลูชันการประชุมออนไลน์ประสิทธิภาพสูงผ่านระบบเทนเซ็นต์ คลาวด์ ช่วยให้การบริหารจัดการประชุมทั้งแบบ Virtual Conference และ Hybrid Conference มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการในขนาดงานที่หลากหลายตั้งแต่ระดับองค์กรไปจนถึงระดับนานาชาติ เพื่อสร้างโอกาส และผลักดันให้ธุรกิจหรือแผนงานต่างๆ สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด”
และหลังจากนี้เราก็จะได้เห็นการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาปรับใช้ร่วมกับการจัด Virtual และ Hybrid Conference เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ให้กับผู้ร่วมงาน เช่น การออกอากาศแบบอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive live broadcasts) การใช้เทคโนโลยีวีอาร์ (VR – Virtual Reality) เทคโนโลยีเออาร์ 2.5 มิติ (AR – Augmented Reality 2.5D) และการนำเสนอบูธแบบ 3 มิติ (3D Booth) รวมถึงระบบสำหรับอำนวยความสะดวกในการจับคู่ทางธุรกิจ และการทำอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น
‘Tencent Cloud Conference’ กับมาตรฐานระดับโลก
Tencent ประเทศไทย นำเสนอโซลูชัน Tencent Cloud Conference ด้วย มาตรฐานระดับโลกที่นำมาตอบโจทย์การจัด Virtual Conference หรือ Hybrid Conference ภายใต้ความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และประสิทธิภาพสูง จึงทำให้ใช้งานได้กับทุกองค์กร ทั้งยังเอื้อต่อการจัดงานได้ทุกระดับตั้งแต่ภายในองค์กรจนถึงระดับนานาชาติ
นอกจากนี้ Tencent Cloud Conference ยังมีจุดเด่นการปรับแต่งโซลูชันตามความต้องการ จากสถาปัตยกรรมโมดูลาร์ที่สร้างขึ้นจากบริการของ Tencent Cloud ที่ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ทั้งยังสามารถเข้าถึง และมีบริการรองรับทั่วโลกผ่านโครงสร้างพื้นฐานของ Tencent Cloud ทำให้สามารถรองรับงานประชุมเสมือนจริงประเภทต่างๆ ได้ตามต้องการจากการผสานใช้เทคโนโลยีเอไออัจฉริยะแบบ Built-in (Built-in AI Technology) ของเทนเซ็นต์ เช่น Face Recognition เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ทำให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนได้อย่างง่ายดาย เป็นต้น และยังมีฟีเจอร์เด่นที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น
- การถอดข้อความจากเสียง (Audio Transcription)
- นามบัตรอิเล็คทรอนิกส์ (Electronic Business Card)
- การแปลข้อความแบบเรียลไทม์ (Simultaneous Interpretation)
- การจัดศูนย์แสดงสินค้าเสมือนจริงแบบอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive Virtual Expo Hall)
- การจัดบูธและงานแสดงสินค้าเสมือนจริงพร้อมหน้าร้านอีคอมเมิร์ซ (Virtual Reality Booth and Expo with e-commerce storefront)
- การถ่ายทอดสดกิจกรรมต่างๆ เช่น การพรีเซ้นต์ผลงาน การอภิปราย หรือการแข่งขัน (Event Live Broadcasting)
- การเจรจาจับคู่ และการประชุมทางธุรกิจ (Business Matching and Meeting)
- การประชุมทางธุรกิจออนไลน์ (Online Business Meeting)
- การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจากการจัดงาน (Conference and Exhibition Data and Analytics)
- สามารถเข้าถึงได้ทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง iOS, Android, web และ WeChat Mini-Program
หากยังมีคำถามว่า ‘จะใช้ Cloud กับงาน Conference ในรูปแบบ Hybrid ได้อย่างไร’ คงต้องบอกว่าคำตอบของเรื่องนี้ คือ Tencent Cloud Conference สามารถรองรับการจัดงานแบบ Hybrid ได้หลากหลาย ทั้งงานประชุมทางธุรกิจ งานแสดงสินค้า ฟอรัมงานสัมมนา ไปจนถึงการบรรยายต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น เราขอตัวอย่างการใช้ Tencent Cloud Conference สนับสนุนการจัดงาน Hybrid trade expo ในยุค New Normal ให้คุณดู
Tencent Cloud Conference ช่วยสนับสนุนงานประชุมที่เกี่ยวกับการนำเข้า และส่งออกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟีเจอร์การแสดงผลิตภัณฑ์ผ่านการจัดแสดงสินค้าแบบออนไลน์ที่ประกอบด้วยข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และการสาธิตสินค้าแบบ 3 มิติ รวมถึงยังสามารถใช้ Event Live Broadcasting ในการถ่ายทอดสดกิจกรรมทางการตลาดสำหรับร้านค้า และองค์กรต่างๆ ตลอดจนเทคโนโลยี Business Matching and Meeting และ Virtual Reality Booth and Expo with e-commerce storefront ในการอำนวยความสะดวกในการจับคู่ทางธุรกิจ และการทำอีคอมเมิร์ซที่จะช่วยให้ผู้ร่วมงานสามารถเจรจาทางธุรกิจไปจนถึงการปิดการซื้อ-ขายสินค้าและบริการได้สะดวก และครบวงจรมากยิ่งขึ้น
การันตีด้วยชื่อ ‘Tencent’ ความเชี่ยวชาญพร้อมกับ Data Center
แน่นอนว่า Tencent Cloud Conference ให้บริการภายใต้ เทนเซ็นต์ ประเทศไทย มาพร้อมกับความเชี่ยวชาญ และความเข้าใจเชิงลึกในด้านการให้บริการแพลตฟอร์มขนาดใหญ่จากบริษัทแม่ ซึ่งพิสูจน์แล้วจากผู้ใช้งานกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วโลก ทั้งในเรื่องความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเทนเซ็นต์มอบบริการระบบปฏิบัติการคลาวด์ระดับเวิล์ดคลาสที่มีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และยืดหยุ่น สามารถปรับได้ตามความต้องการของลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม
ที่สำคัญ คือ การมีทีมสนับสนุนในประเทศไทยที่ทำให้สามารถให้บริการและคำปรึกษาแก่ลูกค้าในแต่ละประเทศ ทั้งยังมี Data Center ที่ตั้งอยู่ในประเทศ เพื่อให้การถ่ายโอนข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย สำหรับใครที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมของ Tencent Cloud Conference สามารถติดตามและสอบถามได้ที่ www.tencent.co.th
