พิษเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศส่งผลให้ โรงแรมเชนไทยต้องเร่งปรับกลยุทธ์ในการบริหารเพื่อให้ได้กำไรในปีหน้า
เซ็นทารา รุกธุรกิจรับบริหารโรงแรม ลดความเสี่ยง ตั้งเป้าโกยรายได้จากการรับบริหารแตะ 35% ใน 5 ปี ระบุ ตลาดลูกค้าโรงแรมระดับกลาง 3-4 ดาว โตรับภาวะเศรษฐกิจตก เล็งปั้นแบรนด์ใหม่ เจาะตลาดระดับกลาง พร้อมอัดงบ 7 พันล้านบาท ลงทุนปีหน้า ดันเป้ารายได้โต 12% ด้าน กลุ่มดุสิต เร่งเสริมบริการ ประคองตลาดในยุโรป
“เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ทุกภาคธุรกิจรวมถึงท่องเที่ยว ต่างชะลอตัวไปในทิศทางเดียวกัน คาดว่า ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี กว่าสถานการณืกลับสู่ปกติ ดังนั้น การรับบริหาร จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตเร็ว ไม่กระทบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นและมีความเสี่ยงน้อย ส่วนการลงมาจับตลาดโรงแรมระดับกลาง เพราะปัญหาหลักของผู้ประกอบการกลุ่มนี้ คือ แหล่งเงินกู้ เพราะ สถาบันการเงินจะเข้มงวดเรื่องการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น แต่เราจะใช้ชื่อเสียงของ เซ็นทรัลกรุ๊ป และ กลุ่มโรงแรมเซ็นทารา ช่วยการันตีให้”
เครือเซ็นทารา ตั้งเป้ามีรายได้จากการรับบริหารโรงแรมภายใน 2 ปี นับจากนี้ไว้ที่สัดส่วน 35% จาก 8 โรงแรม อีก 65% ยังเป็นรายได้จากการเป็นเจ้าของโรงแรม เน้นขยายงานออกไปรับบริหารโรงแรมในต่างประเทศ นำร่อง ร่วมลงทุน และรับบริหารโรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ ไอซ์แลนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่เกาะมัลดีฟส์ และ จะขยายไปที่ อินเดีย และ ตะวันออกกกลาง ซึ่งขณะนี้เจรจากับโรงแรมในดูไบ โดยรายได้รวมของเซ็นทาราใน 5 ปี จากนี้ไป 60% มาจากต่างประเทศและ 40% เป็นในประเทศ
กลยุทธ์ปีหน้า เน้นเพิ่มอินเซนทีฟแก่ตัวแทนจำหน่าย เพื่อจูงใจ แต่จะไม่ปรับลดราคาห้องพัก เพราะจะเสียโครงสร้างราคา ซึ่งไฮซีซันปีนี้ เซ็นทาราก็ยังขายห้องพักในราคาไฮซีซัน ขึ้นอยู่กับโลเกชัน และ ระดับแบรนด์ เช่น ภูเก็ต ขายเฉลี่ย 3,000 บาทต่อคืน,กระบี่ ขายเฉลี่ย 8,000 บาทต่อคือ และ สมุย/หัวหิน ขายเฉลี่ย 7,000 บาทต่อคือ โดยทุกโลเกชัน มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 80-90% ทำให้คาดว่าผลประกอบการปีนี้ของเซ็นทารากรุ๊ป จะเติบโต 14% ตามเป้าหมาย จากปีก่อนมีรายได้ที่ 3,500 ล้านบาท และปี 2552 ตั้งเป้าเติบโต 12% ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผน ปีหน้า จะมีโรงแรมที่ลงทุนสร้างเองอีก 2 แห่ง ใช้งบรวม 7,000 ล้านบาท
โรงแรมดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เร่งพัฒนาสิแบรนด์ดุสิตมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มบริการและโปรโมชัน และเตรียมเปิดตัว โรงแรมดุสิตธานี เลควิว ไคโร ประเทศอียิปต์ อย่างเป็นทางการ 1 ม.ค.2552 โดยโรงแรมดังกล่าวเป็นโรงแรมแห่งแรกในเครือ ที่ไปเปิดให้บริการในทวีปแอฟริกา เน้นเจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรป ที่เดินทางมาจาก ปารีส มิวนิก และ แฟรงก์เฟิร์ต คาดว่า จะได้รับการตอบรับดี อย่างไรก็ตาม ตลาดอังกฤษและประเทศอื่นในยุโรป มีอัตราการสำรองห้องพักโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต สูงถึง 40% จองยอดรวม แบ่งเป็นลูกค้าตลาดอังกฤษ 11% และประเทศอื่นในยุโรป 29% สร้างรายได้ให้กับเครือดุสิต 45% ของรายได้รวม
