ในยุคที่เทคโนโลยี 5G กลายมาเป็นตัวแปรที่สำคัญของโลกธุรกิจ ไม่ใช่แค่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเท่านั้น โดย 5G เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนาและตอบ need ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตามโลกที่หมุนเปลี่ยนไป ช่วยสร้างความแตกต่างจากเดิมในยุค 4G ที่อาจทำอะไรได้ไม่มากนักเพราะยังมีข้อจำกัดบางอย่างอยู่
ตอนนี้ทรูก้าวไปสู่ยุค 5G อย่างเต็มตัวแล้ว ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 33 ประเทศทั่วโลกที่ได้เปิดตัวเทคโนโลยีนี้ โดยระบบ 5G จะเข้าไปช่วยแก้ไขจุดบอดหลายๆ จุดจากเทคโนโลยี 4G ไม่ใช่แค่ส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว (Speed) แต่ยังลดอาการดีเลย์ของสัญญาณ (Latency) ได้จาก 10 ms เหลือแค่ 1 ms เท่านั้น ที่สำคัญยังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลายตัวในเวลาเดียวกัน ซึ่งได้ขยายระยะสัญญาณเชื่อมต่อจาก 0.1 mn/sq.km เป็น 1 mn/sq.km
‘True 5G’ เป็น player รายใหญ่ในไทยที่น่าจับตามองเพราะที่ผ่านมาซุ่มพัฒนาระบบ 5G มาตลอด จนก้าวขึ้นสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เน้นความ ‘ครบวงจร’ ตามวิสัยทัศน์ของ True 5G ที่เป็นมากกว่าสัญญาณมือถือ แต่เป็นสัญญาณเปลี่ยนประเทศ ที่มุ่งสร้างอัจฉริยภาพสู่โลกใหม่ที่ยั่งยืน
“True 5G เป็นโอเปอเรเตอร์รายเดียวในไทยที่มีคลื่นความถี่ครบที่สุดถึง 7 ย่านความถี่” ให้ลองจินตนาการดูว่า ยิ่งเรามีคลื่นความถี่ครอบคลุมมากเท่าไหร่ การ access ระบบอินเทอร์เน็ต ที่ส่งตรงไปถึงกลุ่มผู้บริโภค/ธุรกิจปลายทางจะยิ่งเพิ่มเสถียรภาพมากขึ้น งั้นลองมาดูรายละเอียดคร่าวๆ กันว่า True5G มีคลื่นความถี่ที่ครอบคลุมมากที่สุด มันเป็นยังไง
ในปัจจุบันนอกจาก Mid Band, 2600 MHz ที่เป็นคลื่นหลักในการให้บริการ 5G True ยังใช้เทคโนโลยี Massive MIMO ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่มความสามารถในการรองรับความจุมากขึ้นหลายเท่าตัว อีกทั้งยังป็นรายแรกในไทยที่ทดสอบใช้งานจริง ที่สำคัญคือ ความถี่ 2600 นี้สามารถใช้งานผสมผสานกับคลื่นเดิมที่มีอยู่ก่อนหน้าได้ดีด้วย สำหรับ Low Band ที่มีทั้งคลื่นความถี่ 700 MHz, 850 MHz และ 900 MHz ก็เพื่อให้เราสามารถใช้งานได้รอบด้านมากขึ้น เหมือนไปเพิ่มระยะทางการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ไกลขึ้น โดย True จะนำจุดเด่นนี้มาเสริมเข้ากับ คลื่นความถี่ 2600 ดังนั้น ไม่ว่าเราจะเล่นอินเทอร์เน็ตจากที่ไหนก็ตาม อาคารสูง, ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่บ้าน 2 ชั้นก็ใช้งานได้ลื่นไหล
และคลื่นความถี่ที่มีประโยชน์ต่อภาคธุรกิจที่สุด ก็คงต้องยกให้ ‘High Band mmWave, 26 GHz’ ซึ่ง True มีไว้สำหรับรองรับภาคธุรกิจโดยเฉพาะ เพราะสามารถใช้ติดต่อสื่อสารระหว่างกันแบบความเร็วสูงสุด เน้นความต้องการแบบเฉพาะด้านมากๆ หรือจำกัดในพื้นที่ที่เฉพาะเจาะจง อีกทั้งคลื่นความถี่นี้จะเชื่อมต่อเข้ากับโครงข่ายอัจฉริยะ (Network Slicing) ด้วยดังนั้น True จึงกล้ารับประกันคุณภาพของสัญญาณอินเทอร์เน็ตว่าจะไม่ทำให้ต้อง waste time & waste cost แน่นอน
นอกจากจะครบทั้งสัญญาณที่ให้บริการแล้ว ยังครอบคลุมบริการทั้ง 77 จังหวัดด้วย เรียกว่างานนี้ True ทุ่มแรงใจและทุ่มกำลังเงินไปไม่น้อยเลย ที่สำคัญ True ยังใช้เทคโนโลยี Dynamic Spectrum Sharing ด้วย หรือเข้าใจง่ายๆ ก็คือ True จะให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบผสมระหว่าง 4G และ 5G จากสถานีฐานเดียวกัน ไม่ต้องมานั่งแยกฐานบริการให้เสียเวลา
พาร์ทโซลูชั่นของ True5G ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะนอกจากความว๊าวเรื่องคลื่นความถี่แล้ว True5G ยังให้ความสำคัญไปที่ ‘Intelligence Network’ เพราะจะช่วยให้เทคโนโลยี 5G ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทั้งหมดแบบครบวงจร ไม่ใช่แค่ 5G network ที่สำคัญแต่ต้องมี Big Data และ AI เพื่อมาวิเคราะห์ความต้องการที่หลากหลายได้ด้วย โดย True ยังมีอีกหลายโซลูชั่นที่นำเข้ามาพัฒนาสู่ความ intelligence ให้สมบูรณ์แบบที่สุด อย่างการปรับเน็ตเวิร์ค 5G ที่มีพื้นที่ฐานมาจาก 5G SA technology ไม่ว่าจะเป็น Multi access Edge Computing (แพลตฟอร์มที่ช่วยให้การเชื่อมต่อโครงข่ายเสถียรภาพ) หรือ Network Slicing (โครงข่ายอัจฉริยะ) แล้วให้ทำงานร่วมกับ eco-system ที่เหลือทั้งหมด เช่น device ต่างๆ จนกลายมาเป็น smart things เช่น Telehealth, Smart Farm เป็นต้น
ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นแค่บางส่วนเท่านั้นที่หยิบยกขึ้นมาพูด เพื่อให้เห็นว่า True เหมาะสมที่จะครองเบอร์หนึ่งเรื่องความอัจฉริยะ และครบเครื่องด้านบริการจริงๆ นอกจากนี้ True5G ยังมุ่งมั่นกับเทคโนโลยี 5G ขนาดที่ว่า เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่กล้าเปลี่ยนอุปกรณ์สื่อสัญญาณ (Transmission System) ใหม่ทั้งหมดทั่วประเทศ แม้ว่าระบบในปัจจุบันก็รองรับ 5G อยู่แล้ว ซึ่งระดับผู้บริหารได้แย้มๆ ว่าในไตรมาส 1/2021 True พร้อมแล้วที่จะเปิดให้บริการ
ขณะที่โรดแมปของ True5G ได้ปักหมุด locations สำคัญๆ ที่ต้องการขยายจุดให้บริการ 5G เพื่อความครอบคลุมมากขึ้น เช่น ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล, โรงเรียน-มหาวิทยาลัย หรือ ตามจุดให้บริการคมนาคมขนส่งทั้งหมด เป็นต้น
เปิดอาณาจักร True 5G แบบ ‘ครบทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์’ มีอะไรบ้าง
ด้วยความที่ True ตั้งเป้ามีส่วนผลักดันให้ประเทศสามารถยกระดับความเป็นดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้น True จึงกระโดดเข้ามามีส่วนร่วมในการ transform ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างเช่น ธุรกิจค้าปลีก ซึ่ง True พัฒนา Robot ด้วยระบบ AI อัจฉริยะ และได้นำ Robot เข้าปฏิบัติการในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 โดยหุ่นยนต์ประจำการตัวนี้ เรียกว่า ‘True 5G Temi Thermal ScanBot’ มาช่วยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และ ‘True 5G PatrolBot’ ที่ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย และทำหน้าที่คอยเตือนผู้ที่เดินผ่านไปมาให้ใส่หน้ากาก
ด้านสุขภาพ (World of Health and wellness) ร่วมมือกับโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ทั้งเปิดตัว VHealth Application สำหรับคัดกรอง และให้คำปรึกษาของโรงพยาบาล และ จัดตั้งการแพทย์ฉุกเฉินวิถีใหม่ (ER New Normal) นำร่องโครงการตัวอย่างให้กับโรงพยาบาลแห่งอื่น
นอกจากนี้ เครือข่ายอัจฉริยะของ True 5G ยังช่วยเหลือการแพทย์ในด้านอื่นๆ ด้วย ได้แก่
- True 5G MedTech Ambulance: อุปกรณ์รถพยาบาลฉุกเฉินอัจฉริยะ ที่สามารถสื่อสารระหว่างโรงพยาบาลได้แบบ real-time
- True 5G Temi Connect & CareBot: หุ่นยนต์สื่อสารอัจฉริยะ ทำหน้าที่ประสานระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย เพื่อลดการสัมผัสโดยตรง
- AR Professional Consult Powered by True 5G: ระบบสื่อสารระยะไกลอัจฉริยะ เป็นการสื่อสารเสมือนจริง ช่วยให้แพทย์ฉุกเฉินและแพทย์เฉพาะทางสามารถสื่อสารกันได้
- True 5G Cell on Wheel Network: ติดตั้งรถ cell on wheel หลังจากที่ขยายเครือข่าย 5G รอบโรงพยาบาล ซึ่งจะเชื่อมต่อด้วยซิม True-5G ready และอุปกรณ์รับสัญญาณ CPE 5G
ความอัจฉริยะของ True 5G ยังไม่หมดแค่เรื่องสุขภาพ ยังมีอีกแพลตฟอร์ม ‘True Virtual World’ หรือ True VWORLD ก็ว้าวไม่น้อยเลย เสมือนเป็นผู้ช่วยบนโลกดิจิทัลที่ช่วยเชื่อมวิถีชีวิตให้เข้ากับดิจิทัลได้แบบสมูท โดย VWORLD มีทั้งหมด 3 V ด้วยกัน
‘True VROOM’ ห้องประชุมเสมือนจริงที่ True ให้ความสำคัญด้วยเพื่อมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปมากขึ้น นอกจากจะรองรับการประชุมได้ ยังพัฒนา VROOM มาเป็นพื้นที่จัดสำหรับงานอีเวนต์ใหญ่ๆ ได้อีกด้วย
‘True VLEARN’ เป็นการเรียนรู้แบบใหม่ที่ผู้เรียน-ผู้สอน สามารถโต้ตอบ พูดคุย หรือปรึกษากันได้เหมือนในห้องเรียนจริงๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สำหรับทบทวนบทเรียนย้อนหลัง และสมุดพกดิจิทัล เพื่อประเมินผู้เรียนผู้สอนผ่านออนไลน์ได้ด้วย
‘True VWORK’ เหมือนยกทั้งออฟฟิศมาไว้ที่บ้าน เพราะเราจะทำงานได้เหมือนเดิม พูดคุยกัน วางแผนงาน สั่งงาน หรือติดตามผลก็ง่ายๆ ผ่านแพลตฟอร์มนี้
True 5G เน้นประสบการณ์อัจฉริยะที่ Beyond กว่า
เมื่อ True 5G พร้อมพลิกโฉมไทยสู่ประเทศอัจฉริยะที่ยั่งยืน ดังนั้น สิ่งที่น่าสนใจและมัน beyond มากๆ จาก True 5G คือ ชีวิตอัจฉริยะที่เป็นจริงแล้ววันนี้ ซึ่งจัดเต็มทั้งอุปกรณ์อัจฉริยะ (Touch the beyond) มารองรับการใช้งานบนเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G ทั้งสมาร์ทโฟน & แท็บแล็ต, อุปกรณ์ VR และ อุปกรณ์แก็ดเจ็ต IoT ต่างๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับ True 5G ได้
True 5G ยังเน้นสร้าง “ประสบการณ์อัจฉริยะ’ ในรูปแบบ VR content เช่น รายการ Show Me The Money, บ้านผี 360 หรือ Dating with stars ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดทกับศิลปินในดวงใจจริงๆ เป็นต้น
แม้แต่ภาคการท่องเที่ยวที่เป็นอุตสาหกรรมหลักของไทย True 5G ร่วมพลิกโฉมด้วยการเปิดประสบการณ์ See the Unseen จากทุกมุมโลกและ ‘Amazing Thailand บนแว่น True 5G VR ใช้ตามองและให้ใจจินตนาการไปพร้อมๆ กันเหมือนกับว่าเรากำลังเดินทางท่องเที่ยวอยู่นั่นเอง
อีกหนึ่งความสนุกที่ True 5G อยากให้เราสัมผัสไปด้วยกัน ก็คือ AR content ซึ่งเป็นรายแรกที่ทำ เช่น ใช้แอพฯ True 5G AR สแกนป้ายหน้าร้านที่ร่วมรายการ เพื่อดูสิทธิพิเศษของเราและรับสิทธิผ่านรูปแบบ AR หรือจะถ่ายรูปกับคู่กับ H-MAN ผ่าน AR 3 มิติก็ได้
ขณะที่ Presenter คนใหม่ของ True 5G นั่นก็คือ ‘ไบร์ท’ เชื่อว่าเหตุผลของ True ไม่น่าจะแค่กระแสชื่นชอบที่กำลังดังเปรี้ยงเท่านั้น แต่ด้วยที่ ไบร์ท เป็นผู้นำคนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมทั้งความคิด ความสามารถ และประสบการณ์แบบรอบตัว สะท้อนภาพตรงกันกับจุดยืนของ True 5G ได้ดีในฐานะที่เป็นอัจฉริยะรอบด้าน ซึ่งความโดดเด่นทั้งหมดนี้ของ True 5G ผ่านพรีเซ็นเตอร์คนใหม่
ส่วน 2 ฮีโร่ที่อยู่ในทีม True5G มาก่อนหน้านี้ เรียกว่าศักยภาพไม่ธรรมดาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ‘ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต’ ซึ่งมาในคราบตัวแทนของมุมแรงบันดาลใจที่ไร้ขอบเขต ด้วยเทคโนโลยี 5G ของ True เสมือนกับเวทมนตร์ที่เสกให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้กลายเป็นจริง ทำให้ความฝันหรือ inspiration ของทุกคนอยู่ในโลกความจริง ก็เหมือนกัน magic contents by True ผ่านรูปแบบ AR และ VR นั่นเอง
สำหรับมุมประสบการณ์อัจฉริยะที่ช่วยให้ความรู้และการศึกษาไร้ข้อจำกัดเดิมๆ ซึ่งก็ได้ตัวแทนจาก ‘เฌอปราง อารีย์กุล’ มาช่วยฉายภาพความเป็น smart university และ infinite knowledge ได้เป็นอย่างดีตาม character ของคนรุ่นใหม่ที่ชอบการเรียนรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
แค่เห็น presenters ทั้ง 3 คน ก็เชื่อแล้วว่า True5G จะสามารถสร้างการรับรู้ความอัจฉริยะนี้ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยจริงๆ
อ่านมาถึงจุดนี้ทำให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าเทคโนโลยี 5G มันไม่ใช่แค่ความเร็วที่ทำให้เราดูสตรีมมิ่ง หรือ Youtube ได้เร็วขึ้น หรือช่วยให้เวลาที่เราดู Google Map แล้วความ flow ของอินเทอร์เน็ตจะทำให้แผนที่มัน real-time มากขึ้น แต่โครงข่าย 5G จะเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับภาคธุรกิจและในหลายอุตสาหกรรมด้วย ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้ของ True 5G สะท้อนจุดยืนเรื่อง ‘ชีวิตอัจฉริยะ’ ได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เก็บเงียบพัฒนาระบบ 5G มาพักใหญ่
ทีนี้ก็รู้แล้วว่าระบบ 5G แค่ทำให้อินเทอร์เน็ตเร็วขึ้นมันยังไม่พอ แต่ต้องต่อยอดไป sector อื่นๆ ด้วยไม่ว่าจะการศึกษา การแพทย์ หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ได้อย่างไม่สะดุดนั่นเอง
