โควิด-19 มาพร้อมวิกฤตและโอกาส ซึ่งต้องยอมรับว่าในช่วงที่เกิดโรคระบาดไปทั่วโลก ก็เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้เห็นปรากฏการณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบจะทุกวงการ โดยมีเทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์ในกิจกรรมต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะกิจกรรมที่ต้องรวมตัวกันมากๆ อาทิ การประชุมผ่าน VDO Conference การรับชมคอนเสิร์ตแบบเสมือนจริง Virtual Concert การสัมนาออนไลน์ Webinar หรือแม้แต่การรับชมแฟชั่นโชว์อย่าง Virtual Runway ก็เกิดขึ้นแล้วเช่นกัน
สำหรับกิจกรรมอื่นๆ เราอาจเห็นเทรนด์นี้มาสักพักแล้วในช่วงก่อนโควิด จึงอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่มากนัก แต่ในส่วนของ Virtual Runway ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ขยับมากที่สุดในหลายประเทศทั่วโลก อย่างฝั่งยุโรปก็มีหลายเวที อาทิ London Fashion Week (12-14 มิถุนายน), Milan Fashion Week (14-17 กรกฏาคม) เป็นต้น ส่วนในเอเชีย Shanghai Fashion Week ก็เป็นเวทีแรกที่เริ่มก่อนใครตั้งแต่ต้นมีนาคม ล่าสุดกับงาน ELLE Fashion Week ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี ปีนี้ก็ตัดสินใจใช้รูปแบบ Virtual Runway เช่นกัน
สำหรับ ELLE Fashion Week ในปีนี้ ใช้ชื่องานว่า ‘ELLE Digital Fashion Week 2020 Powered by Lazada’ ซึ่งนับได้ว่าเป็น Virtual Runway แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกิดขึ้นที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 2-4 ตุลาคมที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซปต์ ‘Front Row at Home’ เปิดประสบการณ์รันเวย์ในยุคดิจิทัลให้ทุกคนได้รับความรู้สึกราวกับเป็น ‘แอนนา วินทัวร์’ ที่สามารถรับชมแฟชั่นโชว์อย่างใกล้ชิดในรูปแบบ Live streaming ผ่าน LazLive ฟีเจอร์ไลฟ์สตรีมบนแอปพลิเคชั่นของ Lazada กับคอลเล็กชั่น Fall/Winter 2020 รวบรวมดีไซเนอร์ไทยแถวหน้าของวงการทั้ง 7 แบรนด์ ได้แก่ ASV, Issue, Kloset, Milin, Painkiller, T AND T และ Vickteerut
แต่มากไปกว่าการได้ประสบการณ์การรับชมแฟชั่นโชว์แบบ Virtual Runway ก็คือ ผู้ชมนอกจากจะได้รับชมแฟชั่นโชว์สวยๆ อัปเดทเทรนด์แฟชั่นแล้ว ยังสามารถกดช้อปปิ้งแบรนด์ดังไปพร้อมๆ กันได้ด้วย เพราะว่าปีนี้ ELLE ผนึกกำลังกับ Lazada มาร์เก็ตเพลสแถวหน้า ที่มี Innovation ด้าน e-commerce ใหม่ๆ อยู่เสมอ มาสร้างสรรค์กลยุทธ์สุดล้ำ Shoppertainment ในคอนเซปต์ See Now Buy Now only at Lazada ดังนั้น คนที่ดูอยู่แล้วชอบหรือถูกใจเสื้อผ้าชุดไหนจากแบรนด์ใด ก็สามารถกดสั่งซื้อได้ในทันทีผ่านมือถือ พร้อมแจกคูปองสุดพิเศษระหว่าง Livestreaming ด้วย
ผลปรากฏว่าหลังการ Livestreaming แฟชั่นโชว์แบบ Virtual Runway ครั้งนี้ มียอดผู้ชมสูงถึง 52,000 คน ผลักดันยอดขายให้กับแบรนด์ อาทิ ‘T AndT’ โตได้มากว่า 60 เท่า รวมถึงยอดขายอันดับสูงสุดตกเป็นของแบรนด์ ‘Vickteerut’ และสินค้าแฟชั่นกว่า 1,000 ชิ้น ถูกกดใส่รถเข็นในขณะกำลังรับชมไลฟ์ (See Now, Buy Now) ซึ่งถือเป็นการสร้าง New Experience ให้กับทั้งวงการแฟชั่น และวงการ E- Commerce ไทยด้วย
ธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า Lazada มุ่งมั่นสนับสนุนวงการแฟชั่นไทยและต่อยอดความสำเร็จของ Lazada Thai Designer Club ด้วยการสานต่อความร่วมมือใหม่ๆ อยู่เสมอ และเป็นอีกครั้งที่ลาซาด้าจับมือกับสมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์กรุงเทพฯ (Bangkok Fashion Society) หรือ BFS ร่วมเปิดตัวค็อลเล็กชั่น Autumn / Winter จาก 7 แบรนด์ดีไซเนอร์ชั้นนำของไทยที่วางจำหน่ายออนไลน์เอ็กซ์คลูซีฟที่เดียวในลาซาด้า ได้แก่ ASV, ISSUE, Kloset , Milin, PAINKILLER, T AND T และ Vickteerut นำเสนอแฟชั่นโชว์ในรูปแบบของ Virtual Runway ผ่าน LazLive พร้อมฟีเจอร์ ‘See Now Buy Now’ ให้ผู้ชมสามารถซื้อสินค้าได้ทันทีระหว่างที่ชมโชว์ ตอกย้ำกลยุทธ์ Shoppertainment ที่แข็งแกร่งของลาซาด้า ELLE Digital Fashion Week 2020 Powered by Lazada จึงถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่สนับสนุนให้แบรนด์ไทยเติบโตไปอีกขั้นบนแพลตฟอร์ม Lazada ด้วยการต่อยอดทำสิ่งใหม่ๆ ให้ทั้งลูกค้าและแบรนด์ได้รับประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดร่วมกัน
ด้าน ภูมิจิต พลางกูร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย จำกัด กล่าวว่า นิตยสาร ELLE มุ่งมั่นสนับสนุนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยมาโดยตลอด ELLE Fashion Week จึงเป็นเวทีให้ดีไซเนอร์ไทยได้แสดงศักยภาพและโชว์ผลงานสร้างสรรค์ยิ่งใหญ่เทียบเท่าระดับสากล โดยในปีนี้ ELLE Digital Fashion Week 2020 Powered by Lazada นำเสนอในรูปแบบ Virtual Runway เต็มรูปแบบ สร้างสรรค์แฟชั่นโชว์รูปแบบใหม่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน อีกทั้งเป็นการยกระดับและพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยไปอีกขั้นด้วย
เป็นอีกครั้งที่ Lazada ตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์ Shoppertainment ซึ่งถือเป็น trend-setter ที่จุดประกายสร้างสรรค์ไอเดียของการนำ E-Commerce + Entertainment มารวมกัน โดยเฉพาะฟังก์ชั่น LazLive ซึ่งกลายเป็นฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อทำให้การขายของและรีวิวสินค้าผ่านรูปแบบ Livestreaming สนุกขึ้นทั้งคนขายและคนซื้อ จนมาครั้งนี้ก็สร้างอีกหนึ่งปรากฏการณ์ความสำเร็จของการทำ Virtual Runway ที่เพิ่งจบไปอย่างงดงามครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดังนั้น มองว่า Shoppertainment น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่เปิดทางทำให้อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ มากขึ้นมากกว่าการแค่เลือกซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งในครั้งต่อๆ ไปน่าติดตามว่าด้วยวิสัยทัศน์ของ Lazada จะสร้างปรากฏการณ์อะไรใหม่ๆ ให้กับวงการอีคอมเมิร์ซอีกหรือไม่ ด้วยกลยุทธ์ Shoppertainment ซึ่งน่าจะมีอีกหลายแคมเปญรอเซอร์ไพรส์เราอย่างแน่นอน
