ชิเซโด้ ถอดแบรนด์ซีเอ อูโน่ เพียวแอนด์มาย ไวท์เทียร์ และทิส ที่ได้ร่วมทุนกับสหเอเซียแปซิฟิค กลับมาทำตลาดเอง เพื่อความคล่องตัวและไปในทิศทาง Japanese Maga Brand พร้อมกันนี้ได้นำแบรนด์ใหม่ “มาจอลิกา มาจอร์กา” จากญี่ปุ่น บุกตลาดแมสทีจ ชูกลยุทธ์ Stories Marketingใช้ธีมเรื่องราวความงามแห่งเทพนิยาย สร้างคาเร็กเตอร์ให้แต่ละคอลเลคชั่นแบรนด์ คาดรายได้ปีหน้าโต 11%
นายทัตสึโอะ ซึโด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิเซโด้(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ “Business Thai” ว่า ชิเซโด้มีการปรับแผนใหม่ โดยการถอดแบรนด์ ซีเอ อูโน่ เพียวแอนด์มาย ไวท์เทียร์ และทิส จากสหเอเซียแปซิฟิค เครือสหกรุ๊ป ที่ชิเซโด้ร่วมทุนด้วย นำกลับมาทำตลาดและสร้างแบรนด์เองทั้งหมด คงไว้แต่เพียงผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม ชิเซโด้ โปรเฟสชั่นนอล แบรนด์เดียวเท่านั้น ทั้งนี้ทางชิเซโด้บริษัทแม่ต้องการมาทำตลาดเองเพื่อความคล่องตัว และสร้างแบรนด์ไปในทิศทางเดียวกัน ในลักษณะ Japanese Maga Brand
ซีเอ จะเป็นแบรนด์แรกที่จะนำกลับมาทำตลาดก่อนในปีนี้ โดยเน้นการตลาดครบวงจร ทั้งกิจกรรม ณ จุดขาย โรดโชว์ จัดกิจกรรมในรูปแบบ Commando ที่ไปตามแหล่งออฟฟิศบิวดิ้ง ห้างสรรพสินค้า และสถาบันการศึกษาแบบจู่โจมเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมกับกิจกรรม ตลอดจนการใช้สื่อโทรทัศน์ วิทยุ และสิ่งพิมพ์สร้างการรับรู้แบรนด์อีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ยังได้นำแบรนด์น้องใหม่จากญี่ปุ่น ชื่อ มาจอลิกา มาจอร์กา เป็นกลุ่มเมคอัพที่ใช้สีสันแฟชั่นเป็นจุดเด่น ใช้ธีมเรื่องราวความงามแห่งเทพในนิยาย (Stories Marketing) มาสร้างคอลเล็คชั่นให้กับแบรนด์ โดยมีวางจำหน่ายในร้านวัตสันเท่านั้น ในลักษณะ Exclusive Brand ซึ่งคาดว่าจะขยายสาขา 60 แห่งภายในปี 2552 พร้อมกันนี้ยังได้ลงทุนต่อเนื่องราว 75 ล้านบาท สร้างแวร์เฮาส์ใหม่พื้นที่ 3 ไร่ บริเวณถนนบางนา-ตราด
นายทัตสึโอะ กล่าวถึงโครงสร้างบริษัทในปัจจุบันว่า ชิเซโด้ในไทยทำตลาดแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.แบรนด์ชิเซโด้ จับตลาดเพรสทีจ สร้างรายได้หลักให้บริษัทคือ 75% 2.กลุ่ม Non Brand ชิเซโด้ หรือมัลติแบรนด์ มีจำนวน 8 แบรนด์ เช่น อิปซ่า เอทูเซ่ นาร์ส เป็นต้น มีสัดส่วนรายได้ 25% 3. กลุ่มแมสทีจ ที่เพิ่งเริ่มต้นทำตลาดในไทย โดยเริ่มที่ 2 แบรนด์ก่อน คือ ซีเอและมาจอลิกา มาจอร์กา คาดรายได้ปีหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 11%
” ตลาดแมสทีจเป็นตลาดที่น่าสนใจ เป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน ซึ่งมีกำลังซื้อที่ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า 2550 ตลาดเครื่องสำอางกลุ่มแมสทีจมีมากกว่า 10,000 ล้านบาท และคาดว่าเพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาทในปี 2553 และคาดว่าปี 2556 จะเพิ่มเป็น 166,000 ล้านบาท” นายทัตสึโอะ กล่าวย้ำ
ต่อแนวทางการสร้างแบรนด์ Japanese Maga Brand รศ.ชื่นจิตต์ แจ้งเจนกิจ อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิเคราะห์ว่า ชิเซโด้ เป็นเครื่องสำอางจากญี่ปุ่นที่มีแบรนด์ไม่ต่ำกว่า 10 แบรนด์ในเมืองไทย จะใช้กลิ่นอายของ J Pop สร้างแบรนด์ ผ่านภาพยนตร์โฆษณาจากญี่ปุ่น ใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นดาราคนดังของญี่ปุ่น และกิจกรรมต่างๆ ก็จะยึดกระแส J Pop ที่มองแล้วมาถูกทาง เป็นการสร้าง Brand Identity และสร้างแบรนด์ไปในทิศทางเดียวกัน
Source: Business Thai