“บาร์บีคิวพลาซ่า” ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ พร้อมเปลี่ยนชื่อ คอปเปอร์เรทใหม่เป็น ฟู้ดแพชชั่น ชูวิสัยทัศน์องค์กรคนรุ่นใหม่ที่จะ ดูแลทุกคนให้มีความสุข โดยมีอาหารเป็นสื่อกลาง เดินหน้าสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจอาหารชั้นนำของประเทศไทย ต่อยอดธุรกิจด้วยกลยุทธ์เชิงรุกกับแผนการขยายธุรกิจแบบก้าวกระโดดผ่านแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า จุ่มแซ่บฮัท และฮ็อทสตาร์ พร้อมวางแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่เสริมพอร์ทความแข็งแกร่งของธุรกิจในปีนี้ ตั้งเป้าธุรกิจโตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 100% หรือเท่ากับ 6,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี
นางชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เปิดเผยว่า นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด ในปี 2530 ถือได้ว่าการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้เป็นปรากฏการณ์และก้าวที่สำคัญของบริษัทสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น ไม่ใช่เพียงเพื่อรองรับกลยุทธ์ธุรกิจในเชิงรุกสู่การขยายตัวในอนาคตที่ต้องการสร้างความเป็นเอกภาพให้แต่ละแบรนด์ได้มีความสามารถในการขยายการเติบโตได้เต็มศักยภาพ โดยมีทีมงานส่วนกลางคอยให้การสนับสนุน แต่สิ่งที่เป็นเป้าหมายสำคัญของการเปิดตัว ฟู้ดแพชชั่น คือ การสะท้อนความเชื่อและปรัญชาในการดำเนินธุรกิจที่แตกต่าง ที่มีจุดเริ่มต้นจากความรักในอาหารและความเชื่อในเรื่องของการดูแลให้ทุกคนมีความสุข ซึ่งทุกคนในที่นี้หมายถึง พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และสังคม โดยใช้อาหารเป็นสื่อกลาง สิ่งเหล่านี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะหลอมรวมองค์กรเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำของธุรกิจอาหารอย่างยั่งยืนในอนาคต
“การปรับโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ ได้มีการเปลี่ยนชื่อจาก บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด มาเป็น บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ที่จะสนับสนุนการทำงานของแต่ละแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทฯ พร้อมทั้งได้มีการแต่งตั้งผู้บริหารที่จะรับหน้าที่บริหารงานในแต่ละแบรนด์ ได้แก่ นางสาวบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ที่ได้รับแต่งตั้งขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดูแลแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า และ จุ่มแซ่บฮัท พร้อมด้วย นายชนินทร์ ชูพจน์เจริญ รับตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดูแลแบรนด์ฮ็อทสตาร์ พร้อมกันนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตัว แบรนด์ใหม่ในปีนี้อีก 1 แบรนด์เพื่อเสริมฐานความแข็งแกร่งและการเติบโตให้แก่ฟู้ดแพชชั่น โดยมีกลยุทธ์สำคัญคือการเติมเต็มความสุขและความต้องการในทุกมื้ออาหารให้กับคนไทย โดยเชื่อว่าภายหลังการปรับโครงสร้างองค์กรจะช่วยทำให้แต่ละแบรนด์สามารถขยายการเติบโตได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะส่งผลให้มีการเติบโตในภาพรวมเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 100% หรือ 6,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี (พ.ศ. 2561) และในปีนี้ได้เตรียมงบลงทุนในการขยายธุรกิจไว้ไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท” นางชาตยา กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อสร้างสรรค์การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ฟู้ดแพชชั่น ได้วางกลยุทธ์พื้นฐานในการดำเนินธุรกิจด้วย 4 แนวคิด ดังนี้
1) Business for People คือ บริหารธุรกิจด้วยแนวคิดองค์กรแห่งความสุข ที่ให้ความสำคัญกับ “คน” เริ่มต้นที่พนักงาน สู่ลูกค้า และสังคม เพื่อสร้างสรรค์วงจรแห่งความสุขที่ยั่งยืน
2) Do It with Passion and Pride คือ การสร้างความรักและความภาคภูมิใจในงานและหน้าที่ของพนักงานทุกระดับ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
3) Innovation for Customer Journey คือ การนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และสร้างความประทับใจในทุกๆ สัมผัสที่มีต่อแบรนด์ เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้าและแบรนด์ในระยะยาว
4) Speed to Market คือ ปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็นแบบ Dynamic Organization เพื่อความรวดเร็วและเป็นเอกภาพในการบริหารงานของแต่ละแบรนด์ ให้พร้อมเดินหน้าได้แบบเต็มกำลังและต่อเนื่อง เพื่อบรรลุทุกเป้าหมายที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ นางชาตยา ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงภาพรวมธุรกิจในปีที่ผ่านมาว่า “ในปี 2558 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายรวมได้กว่า 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 11% จากปี 2557 โดยหากเปรียบเทียบกับตลาดรวมพบว่ามีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 58% จากตลาดรวมปิ้งย่างที่มีมูลค่า 5,160 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการดำเนินแผนการตลาดเชิงรุก และความร่วมมือร่วมใจของทีมงานที่เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย และสำหรับแบรนด์ฮ็อทสตาร์ แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่แต่ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ดาวรุ่งที่กำลังมาแรงและโดดเด่นมากในการเป็นผู้นำรายแรกในตลาด Taiwanese snack ซึ่งจะเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องภายในปีนี้ ในขณะที่แผนการขยายสาขาในต่างประเทศซึ่งเป็นการร่วมทุนแบบ Joint Venture ปัจจุบัน มีร้านบาร์บีคิวพลาซ่าในมาเลเซีย 16 สาขา และที่อินโดนีเซีย 2 สาขา โดยกลยุทธ์สำคัญยังคงโฟกัสในเรื่องของการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานของสาขาที่มีอยู่ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ส่วนประเทศอื่นๆ กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา”
สำหรับ แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าและจุ่มแซ่บฮัท นำทีมโดย นางสาวบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เผยว่า ภายหลังจากการปรับโครงสร้างองค์กรแน่นอนว่าทั้งแบรนด์ บาร์บีคิวพลาซ่าและจุ่มแซ่บฮัท จะต้องมีการปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายของฟู้ดแพชชั่นในทุกด้าน โดยแผนธุรกิจในอนาคตของแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าจะยังคงเน้นการขยายธุรกิจควบคู่ไปกับการเดินหน้าบริหารแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเป็นแบรนด์ที่คนรักมากที่สุด มากกว่าแบรนด์ที่มียอดขายมากที่สุด ในขณะที่จุ่มแซ่บฮัท ถือเป็นอีกแบรนด์ที่สร้างยอดขายได้โดดเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งแม้จะยังไม่เห็นการขยายสาขาของจุ่มแซ่บฮัทในปีนี้ แต่จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจุ่มแซ่บฮัทภายในปีนี้แน่นอน
“ในปี 2559 บาร์บีคิวพลาซ่า จะยังคงเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดในแนว Content Marketing ซึ่งถือเป็นแนวทางการตลาดที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่าง และสร้างสรรค์ของแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าที่สามารถทำได้อย่างโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงให้กับลูกค้าทั่วประเทศโดยมีเป้าหมายจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 20 สาขาในปีนี้ พร้อมด้วยการยกระดับความสุขของพนักงานให้เป็นตัวแทนของแบรนด์ในการส่งต่อความสุขสู่ลูกค้าและสังคม ควบคู่ไปกับด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ของแบรนด์ในด้านต่างๆ และยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาฐานสมาชิกปัจจุบันที่มีสูงถึง 580,000 คน พร้อมตั้งเป้าเพิ่มฐานสมาชิกเป็น 780,000 คน ในปี 2559 รวมถึงการทำโปรโมชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของบาร์บีคิวพลาซ่า โดยในปี้นี้ตั้งเป้ายอดขายโตไม่น้อยกว่า 15%” นางสาวบุณย์ญานุช กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับ แบรนด์ฮ็อทสตาร์ นำทีมโดย นายชนินทร์ ชูพจน์เจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ ไก่ทอดฮ็อทสตาร์ ไก่ทอดชิ้นใหญ่ไซส์ XXL ขนาดใหญ่เท่าหน้า ที่ถูกแชร์และพูดถึงในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดกระแสการต่อคิวอย่างล้นหลาม ได้เผยภาพรวมธุรกิจของแบรนด์ฮ็อทสตาร์ในปีที่ผ่านมาและเป้าหมายธุรกิจในปีนี้ว่า “ยอดขายของแบรนด์ฮ็อทสตาร์ในปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าสามารถทำยอดขายได้โตเกินเป้าที่ตั้งไว้ คิดเป็น 300% โดยมียอดขายรวมกว่า 33 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จของสินค้าและการเปิดตัวสินค้าที่มีความแปลกใหม่ รวมไปถึงการเป็นผู้นำรายแรกในตลาด Taiwanese snack กับไลฟสไตล์การบริโภคของทานเล่นสไตล์ไต้หวันในมื้อตามใจปากที่ถูกอกถูกใจคนไทย โดยกลยุทธ์สำคัญในปีนี้ของฮ็อทสตาร์จะเดินหน้าสู่การสร้าง Product Champion ที่เป็นหนึ่งในใจของคนไทยเมื่อนึกถึงของทานเล่นสไตล์ไต้หวันที่รสชาติถูกปากคนไทย พร้อมการตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ไต้หวันในทุกสัมผัส เพื่อการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งในอนาคต รวมไปถึงการเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มอีก 5-10 สาขาในปีนี้ ซึ่งจะเน้นพื้นที่ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น โดยตั้งเป้าการเติบโตไม่น้อยกว่า 100% พร้อมเปิดตัวเมนูใหม่ภายใต้แบรนด์ฮ็อทสตาร์ เพื่อนำเสนอความแปลกใหม่ของอาหารว่างสไตล์ไต้หวันที่ไม่เคยมีในเมืองไทย โดยปัจจุบันสินค้าในแบรนด์ฮ็อทสตาร์ประกอบด้วย ไก่ทอดชิ้นใหญ่ไซส์ XXL ปลาหมึกทอด และอีกหลากหลายเมนูทานเล่นพร้อมเครื่องดื่มในสไตล์ไต้หวันอีกหลากหลายรายการ โดยเมนูไก่ทอดถือเป็นเมนูยอดนิยมที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 30-40% จากยอดขายรวม” นายชนินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าสัดส่วนรายได้ของแบรนด์ต่างๆ ภายใต้ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด จะแบ่งเป็นรายได้จากแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าและจุ่มแซ่บฮัท 80% ฮ็อทสตาร์และแบรนด์ใหม่ 20% ภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นผลจากการขยายการเติบโตของธุรกิจในทุกแบรนด์และการเปิดตัวของแบรนด์ใหม่ในอนาคต