จากแนวโน้มปัจจุบันที่มีการคาดการณ์ว่า สังคมสูงวัยจะเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้นและจะเป็นกลุ่มคนที่ต้องได้รับการดูแลจากลูกหลาน แน่นอนว่าสังคมไทยยึดถือความกตัญญูกตเวทีเป็นสิ่งสำคัญและเป็นหลักของการเป็นคนดีในสังคม ซึ่งเมื่อครั้งยังเด็กพ่อแม่เฝ้าทะนุถนอมดูแลเป็นอย่างดี จวบจนเมื่อท่านชราภาพลูกหลานจึงต้องกลับมาดูแลพ่อแม่เมื่อยามแก่เฒ่าเป็นอย่างดีเช่นกัน
จากข้อมูลชี้ว่าประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมสูงวัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 โดยมีสัดส่วนผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี นั่นหมายความว่าจะมีผู้สูงอายุที่พร้อมร่วมกิจกรรมต่างๆ กับลูกหลานโดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งหลายท่านอาจจะตรากตรำทำงานมากว่าค่อนชีวิตโดยมีโอกาสได้เที่ยวน้อยครั้ง และเป็นหน้าที่ของลูกหลานที่จะพาพ่อแม่เที่ยวในยามแก่ชรา
แต่ด้วยความชราที่มาคู่กับโรค โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับข้อต่อต่างๆ ทำให้การเดินทางไม่สะดวกแล้วพลอยจะทำให้ผู้สูงอายุขยาดกับการเดินทางจึงเลือกที่จะอยู่บ้านเพราะไม่อยากเป็นภาระให้ลูกหลาน ครั้นจะให้ลูกหลานมาเสียเงินทองมากมายกับการติดตั้งรถวิลแชร์ในรถยนต์ ก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก กรุงศรี ออโต้ มองเห็นถึงปัญหาและความต้องการของผู้บริโภคตรงนี้ จึงเกิดแนวคิดเปิดสินเชื่อแนวใหม่ “วัยชิลล์ วีลแชร์” สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่มาพร้อมเก้าอี้รถเข็นสำหรับผู้สูงอายุและผู้ทุพพลภาพ เพื่อให้ครอบครัวสามารถเดินทางท่องเที่ยวร่วมกันได้อย่างสนุกสนานและอบอุ่น ผู้สูงอายุหรือผู้ทุพพลภาพเองก็จะรู้สึกเหมือนได้กลับไปใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม ปัญหาโรคซึมเศร้าที่ต้องอยู่ติดบ้านก็จะหมดไปเช่นกัน
แล้ววิลแชร์จะมากับสินเชื่อรถได้อย่างไร
ความพิเศษของสินเชื่อนี้คือการผ่อนชำระค่างวดรถยนต์และเก้าอี้รถเข็นสำหรับผู้สูงอายุ รวมไปถึงอุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ ไว้กับค่างวดรถยนต์ในบิลใบเดียว ด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) ช่วยให้ลูกหลานผ่อนชำระได้อย่างสะดวกสบายไม่ยุ่งยากในการผ่อนจ่ายหลายทาง ที่สำคัญสินเชื่อ “วัยชิลล์ วีลแชร์” ยังสามารถใช้ได้กับสินเชื่อรถใหม่ สินเชื่อรถมือสองและสินเชื่อคาร์ฟอร์แคชอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจสามารถขอสินเชื่อ “วัยชิลล์ วีลแชร์” เพื่อเช่าซื้อรถยนต์ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง พร้อมอุปกรณ์เก้าอี้รถเข็นและอุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ ได้ที่ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ทั่วประเทศที่เข้าร่วมรายการ เพื่อให้ความสุขในการท่องเที่ยวของครอบครัวยังคงราบรื่นทุกเส้นทาง ไม่สะดุดเพียงเพราะความชราที่เข้ามากร้ำกราย
แคมเปญการตลาด สะท้อนสังคม เมื่อผู้สูงอายุถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง
สำหรับการทำการตลาด กรุงศรี ออโต้ เลือกที่จะส่งโฆษณาสะท้อนสังคมและอารมณ์ลูกหลาน ในแบบที่เมื่อได้ชมแล้ว คุณอาจจะต้องสะอึกอยู่ในใจ เมื่อเหล่าผู้สูงอายุถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง รอคอยการกลับมาเยี่ยมเยียนของลูกหลานแต่ก็เหมือนจะไร้วี่แวว พร้อมด้วยเพลง “ขีดเส้นใต้” ที่ต้นฉบับจะสะท้อนอารมณ์ไม่สมหวังกับความรัก แต่ในโฆษณาชิ้นนี้ดูสะเทือนใจยิ่งกว่า สะท้อนความรู้สึกของผู้สูงอายุที่เหงา อ้างว้าง รอให้ลูกหลานมาอยู่ใกล้เพื่อให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง
httpv://youtu.be/hCgp5S9pk2E
โดยตอนท้ายของภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ปรากฎลูกหลานที่มารับพาผู้สูงอายุไปเที่ยว โดยที่ผู้สูงอายุเข้าใจว่าเป็นความยุ่งยากของลูกหลาย แต่ด้วยสินเชื่อ “วัยชิลล์ วีลแชร์” ที่ช่วยติดตั้งระบบวีลแชร์ไว้ในรถ ทำให้ผู้สูงอายุสามารถเดินทางไปเที่ยวได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องลงจากรถวีลแชร์ และทำให้ครอบครัวกลับมามีความสุขอีกครั้ง พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า “ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ได้ออกไปเที่ยวเพียง 4 ครั้งต่อปี” หมายความว่าการพาผู้สูงอายุออกไปเที่ยวกับครอบครัว คือการสร้างความสัมพันธ์ให้สถาบันครอบครัวมีความอบอุ่นแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และยังได้สร้างความทรงจำ และประสบการณ์อันลึกซึ้งของครอบครัวได้อีกด้วย
พร้อมกันนี้ กรุงศรี ออโต้ ยังได้พาย้อนรำลึกกับภาพความทรงจำอันอบอุ่นที่ผู้สูงวัยมีต่อลูก แม้วันเวลาจะผ่านไปนานหลาย 10 ปีแต่ความรักและสายใยระหว่างพ่อ แม่และลูกยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย ผ่านการถ่ายภาพแบบ Family Reshoot ของ 4 เซเล็บคนดังอย่าง หน่อง ธนา ฉัตรบริรักษ์, หญิง รฐา โพธิ์งาม, โค้ดดี้ อรรถพล โพธิ์หาญรัตนกุล และ แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ ที่สะท้อนให้รำลึกถึงพระคุณบุพการีที่ต้องได้รับการดูแลจากลูกหลานเมื่อยามชราและหาโอกาสพาท่านออกไปท่องเที่ยว พร้อมกับออกแคมเปญชักชวนให้ลูก ๆ หลาน ๆ พาพวกท่านไปท่องเที่ยวพร้อมถ่ายภาพเลียนแบบอดีตในสไตล์ Family Reshoot เพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นและอบอุ่นในช่วงวันหยุดยาวปลายปีที่จะถึงนี้
