หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เราคงนึกภาพการจ่ายเงิน QR Code ไม่ออก แต่ในวันที่โลกหมุนเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 เราก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเรื่อง e-Payment หรือระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน และช่วยให้การชำระเงินต่างๆ เป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว
ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมกับสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการชำระเงินและผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรระดับสากล พัฒนามาตรฐาน Thai QR Code Payment ที่ได้มาตรฐานสากลเพื่อใช้ในประเทศ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากบริการพร้อมเพย์ ทำให้ลูกค้าใช้ Mobile application ของธนาคารสแกน QR Code ที่ร้านค้าเพื่อชำระเงินได้ทันที
โดย ธนาคารกรุงไทย เป็น 1 ใน 5 ธนาคารแรกที่ธปท. อนุมัติให้บริการ QR Code ได้ทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารสนับสนุนโครงการ National e-Payment ของรัฐบาล ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อาทิ ระบบรับและโอนเงินพร้อมเพย์ ผ่านหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ การขยายการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ เปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มเป็นแบบบัตรเดบิตที่มีชิปการ์ดเพื่อความปลอดภัย และติดตั้งเครื่อง EDC ทั่วประเทศเพื่อรองรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
“สะดวก–ง่าย–ปลอดภัย” หัวใจสำคัญในการดึงดูดผู้ใช้
งานนี้ธนาคารกรุงไทยจึงได้เปิดตัว KRUNGTHAI QR Code ชูจุดเด่นสะดวก ใช้ง่าย และปลอดภัย เพียง 3 สเต็ปง่ายๆ ผ่าน KTB netbank 1. สแกน QR Code ที่ร้านค้า 2. ระบุจำนวนเงิน และ 3. ใส่ PIN 6 หลักก็ชำระค่าสินค้าได้ทันที ด้วยความง่ายนี้เอง จึงเป็นแรงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้ QR Code ในการชำระเงินมากขึ้น เพราะไม่ต้องพกเงินสด และเลือกได้ว่าต้องการชำระเงินผ่านบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต และในอนาคตอันใกล้ ธนาคารจะยกระดับประสบการณ์ของผู้ซื้อผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” แค่ Tap and Go หรือแตะเพื่อจ่าย โดยการนำเอา Fingerprint มาใช้เพื่อยืนยันการชำระเงิน
ตอบโจทย์ผู้ขาย ไม่ต้องหาเงินทอน รับจ่าย ง่ายติ๊ดเดียว
ทางฝั่งผู้ขายก็สะดวกไม่แพ้ผู้ซื้อ ธนาคารได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น “เป๋าตุง กรุงไทย” เพื่อรองรับการชำระเงินด้วย QR CODE แค่สมัครแล้วดาวน์โหลด ก็สามารถรับชำระเงินค่าสินค้าได้จากบัญชีทุกธนาคาร ทุกครั้งที่มีลูกค้ามาสแกนจ่าย เงินจะโอนเข้าบัญชีร้านค้าทันทีพร้อมมีการแจ้งเตือนบนหน้าจอทุกครั้ง ไม่ต้องพกเงินสด ไม่ต้องหาเงินทอน รับจ่าย ง่ายติ๊ดเดียว และเพิ่มความสะดวกมากขึ้นโดยตั้งค่าการจ่ายเงินโดยไม่ต้องใช้ PIN และรหัส OTP ได้อีกด้วย
สำหรับร้านค้าที่มีหลายสาขา และต้องการใช้ QR Code แยกแต่ละสาขา สามารถสร้าง QR Code ได้สูงสุดถึง 20 QR รวมทั้งเลือกแบบผูกบัญชีเดียวหรือมากกว่า 1 บัญชีได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเพิ่มลูกเล่นให้เลือกตั้งชื่อเล่นใน KTB netbank ได้ เพื่อให้โชว์บนแอปฯ ของร้านค้า อำนวยความสะดวกในการตรวจสอบได้ง่ายขึ้นว่าลูกค้าชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
อีกหนึ่งปรากฎการณ์ที่น่าสนใจ ธนาคารกรุงไทยได้เปิดตัว แอปฯ “เป๋าตุงเติมบุญ” เพื่อเป็นช่องทางบริจาคเงินและทำบุญ ช่วยอำนวยความสะดวกในการรับเงินบริจาคเข้าบัญชีวัดทันที สามารถรับเงินบริจาคได้ทุกธนาคาร เพียงผู้ทำบุญสแกน QR Code ของวัด ระบุจำนวนเงิน และ PIN เพื่อยืนยันการทำรายการ ทางเจ้าของบัญชีจะได้รับการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีเงินบริจาคเข้า ขณะนี้ธนาคารได้ติดตั้งแอปฯ เป๋าตุงเติมบุญ ในการทอดกฐินที่วัดน้อยนพคุณ วัดครึ่งใต้ (ไร่เชิงตะวัน) จ.เชียงราย และวัดพระมหาธาตุแหลมสัก จ.กระบี่ และล่าสุดได้นำร่องออกใบอนุโมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่ จังหวัดพิษณุโลก) ผ่านทางอีเมล ในโครงการ e-Donation ร่วมกับกรมสรรพากร โดยในอนาคตผู้บริจาคเงินยังจะสามารถหักลดหย่อนภาษีจากการบริจาคเงินได้อัตโนมัติ ตามความสมัครใจผู้บริจาคได้อีกด้วย
KRUNGTHAI QR Code ใช้ได้แล้วทุกภาคในประเทศ
โดยปัจจัยที่จะทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้ QR Code มากขึ้น อันดับแรกต้องสร้างความคุ้นเคย สบายใจ ปลอดภัยจนกล้าใช้ และบอกต่อไปยังคนอื่นๆ ธนาคารจึงได้ลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อขยายบริการ KRUNGTHAI QR Code ไปยังจุดยุทธศาสตร์สำคัญทุกภูมิภาค อาทิ ร้านค้าและศูนย์อาหารในหน่วยงานราชการและกระทรวง วัด มหาวิทยาลัย ตลาดสดและถนนคนเดิน ตลาด อ.ต.ก. ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ตลาดสามชุก จ.สุพรรณบุรี ตลาดกรุงศรี จ.พระนครศรีอยุธยา ตลาดเซฟวัน จ.นครราชสีมา สามแยกอู่เรือ ถนนต่อเรือ จ.พังงา ตลาดตองแปด จ.ขอนแก่น ถนนคนเดินกระบี่ จ.กระบี่ ตลาดกิมหยง จ.สงขลา และในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น และจะขยายไปทุกจังหวัดเพื่อให้ทุกจังหวัดมีสังคมไร้เงินสด
ภายในปี 2561 ธนาคารกรุงไทยตั้งเป้าหมายขยายฐานร้านค้าที่ติดตั้ง QR Code ไว้ที่ 500,000 ราย ปัจจุบันมีร้านค้าสมัครใช้บริการเฉลี่ยวันละ 300-500 ราย ซึ่งธนาคารใช้จุดแข็งในการเป็นธนาคารของรัฐ มุ่งขยายฐานลูกค้าผ่านหน่วยงานรัฐ และกลุ่มฐานรากที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน และอยู่ระหว่างนำ “คิวอาร์โค้ดบัตรเดบิต” เข้าไปทดสอบในแซนด์บอกซ์ของ ธปท. เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
