เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า อีกไม่กี่ปีนับจากนี้อุตสาหกรรมกำลังจะพัฒนาไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีทางด้านอินเทอร์เน็ตในยุค Internet of Things (IoT) โดยเฉพาะการใช้ระบบคลาวด์ (Cloud) เข้ามามีส่วนสำคัญ ซึ่งระบบดังกล่าวคือการขับเคลื่อนยานยนต์แบบไร้คนขับ แน่นอนว่าปัจจุบันหลายค่ายต่างพยายามหาเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่แบบไร้คนขับมีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน แต่อีกส่วนที่สำคัญคือเรื่องของปริมาณข้อมูลที่เกิดจากการขับขี่ด้วยระบบไร้คนขับ
TOYOTA Motors จึงร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ด้านไอทีอย่าง Intel Corp. และเหล่าบริษัทพันธมิตรจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งด้านเทคโนโลยีและด้านรถยนต์ อาทิเช่น Ericsson, Denso Corp. ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น และ NTT DoCoMo Inc. ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่จากญี่ปุ่น เป็นต้น เพื่อร่วมสร้างระบบสำหรับการจัดเก็บและบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ที่ใช้ในรถยนต์ เรียกการรวมตัวครั้งนี้ว่า “Automotive Edge Computing Consortium”
การร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะใช้ข้อมูลเพื่อสนับสนุนระบบที่จะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต อาทิเช่น ระบบการขับขี่อัจฉริยะ, การใช้แผนที่ผ่านระบบ GPS ในรูปแบบเรียลไทม์และการช่วยเหลือด้านการขับขี่บนพื้นฐานระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง เนื่องจากรถยนต์ที่มีการติดตั้งระบบการขับขี่อัตโนมัติจะก่อให้เกิดการสร้างข้อมูลใหม่อยู่ใหม่ๆ ซึ่งมีจำนวนมากมายมหาศาล
มีการคาดการณ์กันว่า ปริมาณข้อมูลที่เกิดขึ้นจากระบบการขับขี่อัตโนมัติในยานพาหนะและระบบคลาวด์ คอมพิวติ้งคาดว่าจะมีข้อมูลมากถึง 10 exabyte (1 exabyte = 1,000 petabyte , 1 petabyte = 1,000 terabyte) ต่อเดือนประมาณช่วงปี 2025 เมื่อเทียบกับการใช้ข้อมูลในปัจุบันจะมีความแตกต่างกันมากถึง 10,000 เท่า
Source: Reuters
