ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำคอนเทนต์มาร์เกตติงยังเป็นของใหม่ที่ต้องลองผิดลองถูกกันอีกเยอะ ก่อนหน้านี้เราเสนอวิธีการจัดการคอนเทนต์มาร์เกตติ้งของคุณมาหลายครั้งแต่ก็ยังมีทริคยิบย่อยที่ต้องปรับเปลี่ยนอีกมากมาย ลองอ่านกลยุทธ์การบริหารคอนเทนต์มาร์เกตติงทั้ง 7 ข้อนี้เพิ่มเติมดูสิ เผื่อคุณจะได้ไอเดียอะไรดีๆ เพิ่มเติม
-
เขียนคำจำกัดความตัวตนของคุณให้ละเอียด
คำบรรยายของคุณจะเป็นตัวสะท้อนว่าสินค้าหรือบริการของคุณเหมาะกับลูกค้ากลุ่มไหน นอกจากนี้คุณยังสามารถเปลี่ยนคำบรรยายให้แตกต่างกันเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่มีบุคลิกภาพ ความต้องการ และปัญหาไม่เหมือนกัน
การกำหนดคำจำกัดความแบรนด์จะทำให้คุณชัดเจนว่าจะใช้ content strategy แบบไหน ซึ่งทำให้บทสนทนาของคุณ ลักษณะการโพสต์แตกต่างกันไป ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าลูกค้าที่เข้ามาพบคุณคือกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการคุณ ซึ่งจะเพิ่มยอด engagement และสร้าง loyal audience ได้อีกทางหนึ่ง
-
คิดซะว่าคอนเทนต์มาร์เกตติงคือการลงทุนอย่างหนึ่ง
แน่นอนว่าหากตัดเรื่องพนักงาน ค่าจ้าง และค่าอื่นๆ ออก การทำการตลาดบนโซเชียลเนคเวิร์กและอีกหลายๆ ช่องทางก็ฟรี ฟรี และฟรี ด้วยความฟรีตรงนี้ทำให้หลายครั้งซีอีโอของบริษัทรู้สึกว่ามันเป็นช่องทางที่ไม่จริงจัง เรียกว่ามีๆ ก็ทำไปอย่าให้น้อยหน้าแบรนด์อื่น การเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ว่าการทำคอนเทนต์มาร์เกตติงก็เป็นการลงทุนชนิดหนึ่งซึ่งมีต้นทุนต่ำ แต่เป็นการลงทุนแบบมาราธอน คุณไม่สามารถมองเห็นความสำเร็จได้ภายในข้ามคืน ดังนั้น จงรอสัก 6-9 เดือนเพื่อประเมินผลว่าสิ่งที่คุณทำลงไปได้ผลหรือไม่ หากไม่ผลเราค่อยมาปรับเปลี่ยนกัน
-
ให้ทุกคนในองค์กรมีส่วนร่วมได้
หนทางหนึ่งที่จะทำให้คอนเทนต์มาร์เกตติงประสบความสำเร็จคือความร่วมมือจากคนทั้งองค์กร เนื่องจากคุณไม่สามารถผลิตคอนเทนต์ที่โดนใจผู้บริโภคโดยไม่ถามความเห็นจากคนอื่นเลยได้ ขณะเดียวกันเรื่องราวของชีวิตคุณก็มีไม่มากพอ ดังนั้น จงสร้าง “วัฒนธรรมแห่งการบอกเล่า” บอกทุกคนในองค์กรให้รู้ว่าคุณกำลังทำอะไร มีโปรโมชั่น และสินค้าแบบไหน เผื่อคนอื่นจะมีไอเดียดีๆ มาแนะนำคุณได้
-
คอนเทนต์ไม่จำเป็นต้องมาจากการเขียนก็ได้
เวลาพูดคำว่าคอนเทนต์มาร์เกตติงเรามักจะคิดถึงการเขียน แต่จริงๆ แล้วหากคุณไม่ถนัดเขียนก็สามารถโพสต์วีดีโอ ไฟล์เสียง หรือภาพสวยๆ แทนได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การผสมผสานสื่อหลายๆ แบบจะทำให้คอนเทนต์ของคุณได้ผลมากที่สุด
-
คุณภาพเหนือปริมาณ
คอนเทนต์ที่ดีไม่จำเป็นต้องเยอะ แต่ต้องอ่านแล้วมีคุณค่าและจุดประกายผู้อ่าน อย่างไรก็ตาม คุณก็ควรโพสต์เนื้อหาไม่น้อยเกินไปด้วยเพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกว่าคุณอัพเดทเสมอ ในขั้นแรก ผมแนะนำให้คุณโพสต์กระทู้เนื้อหาดีๆ ราว 3 โพสต์ต่อวัน รวมเป็น 700 ตัวอักษรต่อหนึ่งสัปดาห์ หากคุณสามารถโพสต์ได้เยอะกว่านั้นก็เยี่ยมไปเลย แต่อย่าลืมว่าผู้อ่านบางคนเพื่อนน้อย กระทู้ของคุณอาจไป flood เขาได้
-
การเขียนเป็นการชนะศึกเพียงครึ่งเดียว
การเขียนคอนเทนต์เป็นความยากครึ่งนึง แต่อีกครึ่งคือการโปรโมทคอนเทนต์ของคุณออกไป อย่าลืมใช้เวลา 25-33% ของเวลาทั้งหมดเพื่อโปรโมทคอนเทนต์ของคุณเองล่ะ
-
นำไปใช้ซ้ำ
มาร์เกตเตอร์ที่ดีเมื่อมีคอนเทนต์ชั้นเยี่ยมอยู่ในมือแล้ว เขาก็สามารถนำมันไปใช้บน platform อื่นๆ ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ อย่างเช่น หากทีมของคุณสร้าง presentation ขึ้น ก็อาจนำเนื้อหาไปสรุปเป็น infographic เผยแพร่ทางอินเตอร์เนต และอาจถ่ายคลิปวีดีโอแล้วนำไปลงใน YouTube ให้กลายเป็นไวรัล ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะเนื้อหาด้วย
