5 กลยุทธ์จับใจ ชาว ‘Gen X ผู้ถูกลืม’ ท่ามกลางโลกที่วิ่งตามแต่ ‘Gen Z’ ทั้งที่ข้อจำกัดมากมาย

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ปี 2025 เป็นปีที่ปัจจัยลบดาหน้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาษีทรัมป์ ไปจนถึงสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ชัดเจนว่าฉุดเม็ดเงินการลงทุนในโฆษณา และสื่อการตลาดอย่างไม่ต้องสงสัย 

แต่ MI GROUP ประเมินคาดการณ์การลงทุนโฆษณา และสื่อการตลาดจบสิ้นปี 2025 ยังโตได้ถึง +4.5% ปิดที่ 92,048 ล้านบาท เพราะสื่อดิจิทัล โซเชียล ทวีความแข็งแกร่งสู่ +15% ขึ้นแท่นสื่อแข็งแกร่งอันดับ 1 เป็นปีที่สอง มูลค่ารวมแตะ 38,938 ล้านบาท ทั้งยังมีสื่อนอกบ้าน (OOH) โต +10% สวนทางสื่อดั้งเดิมที่ถดถอยต่อเนื่อง 

แม้ตัวเลขจะเป็นบวก แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะปัจจัยลบไม่ได้หายไปไหน แบรนด์ธุรกิจจึงระวังการใช้เงินมากขึ้น การสื่อสารแบรนด์ในระดับแมสอาจกลายเป็นความเสี่ยงที่มากเกินไป โดยทาง MI GROUP ชวนมองถึงโอกาสทางการตลาดในชาว ‘Gen X ผู้ถูกลืม’ ที่มีทั้งเงิน และเวลา ทั้งยังเข้าถึงโลกออนไลน์ได้แล้ว ในขณะที่  Gen Z มีข้อจำกัดมากมาย ทั้งอำนาจซื้อที่ไม่สูง เปลี่ยนใจง่าย ไม่ผูกพันกับแบรนด์ และ Conversion จาต่ำกว่าที่คาดหวังในหลายอุตสาหกรรม

 

‘กำลังซื้อพร้อม ความคาดหวังชัด’ โอกาสที่ธุรกิจต้องรู้ เพื่อเข้าหากลุ่มนี้


ชาว Gen X ให้คุณค่ากับคุณภาพ ความคุ้มค่า และบริการที่ไว้ใจได้ มากกว่า ‘ความหวือหวา’ ระยะสั้น ผลสำรวจเชิงอุตสาหกรรมแฟชั่น–ลักชัวรีชี้ว่า Gen X มีสถานะการเงินแข็งแรง เป็นทั้ง high earners และผู้ซื้อสินค้าระดับพรีเมียม ที่นิยมคอนเทนต์เชิงความหมาย มากกว่าการตลาดแบบฉาบฉวย

สำหรับพฤติกรรมการซื้อของ เช่นเดียวกับกลุ่มวัยรุ่น ชาว Gen X ไม่น้อยรู้สึก ‘สบายใจ’ กับการซื้อสินค้าบนโซเชียล ทั้งยังมีหลายคนใช้เป็นช่องทางหลักไปแล้ว โดยมีความเฉลี่ยอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง 

อีกหนึ่งความเชื่อมโยงที่ Gen X และ Gen Z มีเหมือนกัน คือ ‘Loyalty ที่ไม่แน่นอน’ ชาว Gen Z ขึ้นชื่อเรื่องความไม่ภักดีกับใครเลย และพร้อมเปลี่ยนเสมอ แต่ชาว Gen X นั้น แม้จะพร้อมเปลี่ยนแบรนด์ แต่ก็เมื่อเจอแบรนด์ที่ใช่กับตัวเองจริงๆ ชอบหรือรักจริงๆ เมื่อนั้นกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะยึดติดกับแบรนด์เดิมๆ ที่เชื่อถือสูงกว่าชาว Gen Z 

 

5 ข้อจับใจ Gen X ที่แบรนด์ต้องรู้ 

 

1. เน้นคุณภาพ ไม่อวดเกินจริง

 

กลุ่มนี้ “ซื้อของเป็น” ให้ความสำคัญกับคุณภาพ บริการ และประสบการณ์หลังการขายมากกว่าการตลาดแบบ hype
– เนื้อหาต้องชัดเจน รีวิวจริง คำแนะนำเชิงลึก—not just a hook

 

เล่าเรื่องที่พิสูจน์ได้ด้วยคุณภาพจริง รีวิวจากผู้ใช้จริง และหลักฐานการใช้งานระยะยาว มากกว่าฮุคสั้น ๆ เพื่อกระตุ้นคลิก แนวทางนี้สอดรับกับภาพรวมที่ว่า Gen X เป็น ‘นักวิจัยก่อนซื้อ’ และให้คุณค่ากับงานฝีมือ ความทนทาน และบริการที่มีความหมาย

 

2. ประสบการณ์ไร้รอยต่อ—ออนไลน์/ออฟไลน์

 

– ช่องทาง Social Shopping คือหัวใจ แบรนด์ต้องปลดล็อกเส้นทาง “เห็น–เชื่อ–ซื้อ–รับของ” ให้จบในคลิกเดียว หรือเชื่อมต่อกับหน้าร้านได้ทันที
– ฟีเจอร์ Personalization, การนัดรับ–นัดลอง–บริการหลังการขาย ต้องตอบโจทย์ “คนวัยทำงานที่อยากควบคุมทุกดีเทล”

 

3. Loyalty Program ที่ให้คุณค่าจริง

 

– Gen Horizon ชอบสิทธิพิเศษที่จับต้องได้ เช่น บริการด่วน การันตีระยะยาว งานสมาชิก/อีเวนต์เฉพาะกลุ่ม มากกว่าคะแนนลอย ๆ
– สร้างโปรแกรมที่ผูกใจเขา ไม่ใช่แค่ล่อซื้อซ้ำ

 

4. ใช้ครีเอเตอร์/อินฟลูเอนเซอร์อย่าง “ที่ปรึกษา” ไม่ใช่แค่กระแส

 

คอนเทนต์ต้องเน้นข้อมูลจริง เปรียบเทียบตัวเลือก แชร์ประสบการณ์ใช้งานจริง ให้ “เหตุผลที่จะเชื่อ”
– เลือกคนที่กลุ่มเป้าหมายมองว่าเป็น “peer advisor” มากกว่าคนดังแบบไร้เหตุผล

 

5. วัดผลที่รายได้จริง–อัตราซื้อซ้ำ

 

โฟกัส conversion บน social, average order value และการซื้อซ้ำจากกลุ่ม Gen Horizon
– ให้ทีมวิเคราะห์ข้อมูล customer journey สำหรับกลุ่ม 35–55 ปีอย่างละเอียด

 

ท่ามกลางกระแสตลาดที่มุ่งไล่ล่ากลุ่ม Gen Z อย่างไม่หยุดยั้ง ยังมีกลุ่มลูกค้าที่แบรนด์ส่วนใหญ่ละสายตาไปโดยไม่รู้ตัว นั่นคือ Gen Horizon กลุ่มคนที่ถือพลังซื้อไว้เต็มมือ คล่องแคล่วกับเทคโนโลยี แต่จะมอบความภักดีให้แบรนด์ที่เข้าใจความต้องการของตัวเองจริงๆ เท่านั้น


  •  
  •  
  •  
  •  
  •