ปฏิเสธไม่ได้ถึงความร้อนแรงของการทำ Fandom Marketing ที่สร้างความสำเร็จมาแล้วในหลายแคมเปญ ซึ่งแบรนด์ในปัจจุบันก็ทำการตลาดผ่านกลยุทธ์นี้กันมากขึ้น ทาง The 1 Insight เปิดผลวิเคราะห์กลุ่มพฤติกรรมแฟนด้อม 3 ช่วงวัย เผย Fandom Shoppers ใช้จ่ายหนัก เติบโตกว่า 2 เท่าตัวในช่วงแคมเปญ ชี้ภาพรวม Fandom Marketing ยังคงมาแรง! แนะแบรนด์คว้าโอกาสสร้าง Big Impact เพิ่มแรงส่งสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ พร้อมดึงดูดลูกค้าเก่าให้กลับมาใช้จ่ายมากขึ้น พร้อมเผย 5 อันดับแบรนด์ยอดขายสูงสุดจากหลากหมวดสินค้าจากงาน “The 1 Day วัน The 1 แห่งชาติ 2024” เทศกาลช้อปพร้อมประสบการณ์พิเศษครั้งใหญ่แห่งปีจากกลุ่มเซ็นทรัล
จากความสำเร็จของงาน “The 1 Day วัน The 1 แห่งชาติ 2024” ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กลายเป็นกระแสในสื่อต่างๆ ไปจนถึงโลกโซเชียล รวมถึงขึ้นเทรนด์โลกอันดับ 1 ในแพล็ตฟอร์ม X ในด้านตัวเลขธุรกิจ The 1 Day 2024 มีผู้เข้าร่วมถึง 2 ล้านคน สร้างยอดขายเติบโตจาก The 1 Day ปี 2019 กว่า 2.5 เท่า โดยสมาชิก The 1 ที่มียอดซื้อสะสมสูงสุดถึง 20 ล้านบาทในช่วงช้อปเพียง 7 วัน รวมทั้งหมดมีจำนวนสิทธิ์ที่ร่วมช้อปเพื่อเข้าร่วมลุ้นเข้างาน Meet & Greet กว่า 200,000 สิทธิ์
จึงเห็นได้ชัดว่า Fandom Marketing หรือการทำงานร่วมกับศิลปินเพื่อผลในทางการตลาดนั้นไม่ได้จำกัดเพียงเรื่องของการสร้างการรับรู้ (Awareness) แต่ยังส่งผลดีต่อธุรกิจในภาพรวมได้อย่างแท้จริง
3 กลุ่ม Fandom Shoppers
เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายในรายละเอียด The 1 Insight ยังพบ 3 กลุ่มช่วงวัยของ “Fandom Shoppers” หรือ “นักช้อปชาวด้อม” ที่มีความแตกต่างที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของแรงจูงใจ กำลังซื้อและพฤติกรรมการใช้จ่ายต่างๆ ดังนี้
#ทีมแม่ #ทีมมัมหมี
ทีมแม่ หรือ ทีมมัมหมี รักศิลปินเหมือนลูก พร้อมเปย์เต็มที่ อยากได้อะไรแค่บอกคุณแม่! อยู่ในกลุ่ม Gen X และ Baby Boomers (อายุมากกว่า 45 ปี) ส่วนใหญ่ค่อนข้างมีฐานะ อยู่ในระดับ Privilege และ Affluent
มีการใช้จ่ายรวมเป็นสัดส่วน 35% จากยอดใช้จ่ายทั้งหมดในช่วง The 1 Day 2024 โดยใช้จ่ายต่อคนสูงถึง 70,000 – 100,000 บาท สินค้าขายดีสูงสุดคือ แบรนด์ลักชัวรี่และแฟชั่น อาทิ เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า
#ทีมแฟน #ทีมหวานใจ
ทีมแฟน หรือ ทีมหวานใจ แฟนคลับยุคแรก โตมาพร้อมอปป้า เมื่อก่อนเปย์ด้วยใจ ปัจจุบันมีรายได้พร้อมทุ่ม! อยู่ในกลุ่ม Gen Y (อายุระหว่าง 25 – 44 ปี) ส่วนใหญ่อยู่ในสถานะ Affluent และ Upper Mass
ใช้จ่ายรวมเป็นสัดส่วน 60% จากยอดใช้จ่ายทั้งหมดในช่วง The 1 Day 2024 โดยเฉลี่ยประมาณ 50,000 – 70,000 บาทต่อคน สินค้าขายดีสูงสุดคือ หมวดบิวตี้ อาทิ สกินแคร์ น้ำหอม เครื่องสำอาง
#ทีมน้องสาว
ทีมน้องสาว แฟนคลับรุ่นใหม่ มีศิลปินให้เลือกเปย์มากมาย จ่ายได้ตามกำลังทรัพย์ เป็นกลุ่ม Gen Z (อายุ น้อยกว่า 24 ปี) ใช้จ่ายรวมเป็นสัดส่วน 5% จากยอดใช้จ่ายทั้งหมดในช่วง The 1 Day 2024 โดยเฉลี่ยประมาณ 20,000 – 40,000 บาทต่อคน สินค้าขายดีสูงสุดคือ หมวดแกดเจ็ต อาทิ สมาร์ทโฟน แทบเล็ต สมาร์ทวอทช์
5 แบรนด์สินค้าขายดี ในแต่ละหมวด
นอกจากนี้ ยังได้เผย 5 อันดับแบรนด์ขายดีสูงสุดจากทุกหมวดในช่วง The 1 Day 2024 ดังนี้
- หมวดบิวตี้ ได้แก่ Shiseido, Dior Beauty, Nars, Chanel Beauty, Estèe Lauder
- หมวดแฟชั่น ได้แก่ Crocs, Muji, Niyom Jeans, Skechers, Wacoal
- หมวดสินค้าสำหรับเด็ก ได้แก่ Lego, Sanrio, Camera, Nike, MamyPoko
- หมวดสินค้ากีฬา ได้แก่ Adidas, Nike, Fila, Skechers, Yonex
- หมวดอุปกรณ์เครื่องเขียน ได้แก่ One, Muji, Double A, Pentel, Casio
- หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ My Choice, Tops, Meiji, Singha, Nescafé
- หมวดแกดเจ็ต ได้แก่ Apple, Samsung, Dyson, Epson, Sony
- หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ได้แก่ Samsung, TCL, LG, Toshiba, Electrolux
- หมวดอุปกรณ์ก่อสร้าง ได้แก่ Kassa, Giant Kingkong, TOA, โรงใหญ่, TPI
- หมวดยานยนต์ ได้แก่ Michelin, Bridgestone, Liqui Moly, Goodyear, Yokohama