Google ชี้ 4 ธุรกิจออนไลน์ที่เติบโตสูงสุด จับตา e-Commerce และ Ride Hailing

  • 296
  •  
  •  
  •  
  •  

Google Report

เป็นที่ทราบกันดีว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการใช้งานอินเตอร์เน็ตสูง โดยมีผู้ใช้งานสูงถึง 360 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้นถึง 100 ล้านคนเมื่อเทียบกับปี 2015 โดยเฉพาะประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตถึง 47 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2015 ถึง 9 ล้านคน และประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีการใช้อินเตอร์เน็ตมากที่สุดเฉลี่ย 5.13 ชั่วโมง ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกจะอยู่ที่ 3.13 ชั่วโมง

จากผลการสำรวจที่จัดทำขึ้นโดย Google และ Temasek พร้อมพันธมิตรรายใหม่อย่าง Bain&Company พบว่า มูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) โดยรวมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แตะ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะพุ่งสูงถึง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025 ขณะที่มูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยแตพที่ระดับ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีโอกาสแตะระดับ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ในปี 2025 เช่นกัน

Internet User

สำหรับปัจจัยการใช้งานอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการสื่อสาร ทั้งในรูปแบบ Chat และ Social Media, เรื่องของความบันเทิง โดยเฉพาะวิดีโอสั้นที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง, เรื่องของการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามข่าวสารหรือการค้นหาข้อมูล และการซื้อขายสินค้าและบริการจากโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น e-Commerce, Delivery, OTA เป็นต้น

 

ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโต

การสำรวจในครั้งนี้จะเน้นไปที่ 4 ส่วนที่สำคัญของภูมิภาคนี้ ประกอบไปด้วย e-Commerce, Online Media, Ride Hailing และ Travel ผลการสำรวจชี้ว่า e-Commerce เป็นส่วนที่มีการเติบโตสูงสุดในภูมิภาค โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 150 ล้านคน โดยเมื่อ 4 ปีที่แล้วมีผู้ใช้งานเพียง 49 ล้านคนเท่านั้นหรือเติบโตกว่า 62% ส่วนหนึ่งเกิดมาจากธุรกิจ Logistics ที่มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการ โดยเฉพาะแคมเปญการจัดส่งแบบ Same Day (วันเดียวถึง)

Online Business

 

ขณะที่ Ride Hailing ก็มีสัดส่วนที่เติบโตสูงขึ้นในภูมิภาค โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานถึง 40 ล้านคน จากที่ในปี 2015 มีผู้ใช้เพียง 8 ล้านคนเท่านั้นหรือเติบโตกว่า 45% นั่นเป็นเพราะการขยายรูปแบบการให้บริการที่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงเรียกรถเท่านั้น แต่ยังขยายการให้บริการไปถึงการรับส่งพัสดุ โดยเฉพาะอย่างการให้บริการ Food Delivery ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้เกิดการเติบโตขึ้นอย่างมาก

Business Online Growth

ประสบการณ์ที่ดี ยังเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ทั้ง e-Commerce และ Ride Hailing เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อมีประสบการณ์ที่ดีบวกกับความคุ้มค่าแล้ว พฤติกรรมการใช้งานก็จะเปลี่ยนแปลงไปตาม เช่น ในอดีตมักจะซื้อสินค้ากลุ่มอิเลคทรอนิกส์ แต่ปัจจุบันสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันก็ยังต้องซื้อผ่าน e-Commerce หรืออย่าง Ride Hailing ที่ในอดีตคนที่ต้องเดินทางเท่านั้นจึงจะใช้บริการ แต่ปัจจุบันสามารถใช้ได้สะดวก แม้ไม่ต้องการเรียกรถ เช่น การสั่งอาหาร เป็นต้น

 

นอกเมืองหลวงมีโอกาสเติบโตมากกว่า

จากผลสำรวจพบว่า ประชากรที่อาศัยอยู่ใน 7 เมืองใหญ่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีสัดส่วนเพียง 15% ของประชากรทั้งหมดในภูมิภาค แต่มีสัดส่วนถึง 50% ของยอดรวมเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเห็นได้จากยอดสินค้าในตะกร้าเฉลี่ยต่อคนต่อปี ที่ผู้คนในเมืองใหญ่ทั่วภูมิภาคมีสัดส่วนมากกว่าคนนอกเมืองถึง 6 เท่า โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีมากกว่า 4 เท่าในปี 2025

Beyond Metro

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลายธุรกิจมักจะเริ่มต้นจากเมืองใหญ่ก่อน เช่น กรุงเทพฯ จาการ์ตา กัวลาลัมเปอร์ เป็นต้น นั่นจึงทำให้เกิดช่องว่างของตลาดนอกเมืองใหญ่ คาดว่าในปี 2025 ผู้คนที่อยู่นอกเมืองใหญ่จะสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของ e-Commerce, Ride Hailing, Delivery

ขณะที่สัดส่วนของการเติบโตเศรษฐกิจดิจิทัล ไทยเติบโต 29% ในตลาดเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นอันดับ 2 รองจากอินโดนีเซีย

 

ปัจจัยที่ e-Commerce เติบโตอย่างมาก

e-Commerce มีอัตราเติบโตเฉลี่ยสูงมากกว่าทุกอุตสาหกรรมทั้งในภูมิภาคและในประเทศไทย โดยเติบโตเฉลี่ยปีละ 54% สาเหตุที่ทำให้ e-Commerce เติบโตอย่างมากมีด้วยกันถึง 5 เหตุผล ทั้งการจัดช้อปปิ้งออนไลน์เฟสติวัลที่ใหญ่ขึ้นและบ่อยขึ้น ช่วยให้ผู้บริโภคติดตามและช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น โดยเฉพาะคูปองและเวาเชอร์ รวมไปถึงการสร้างความบันเทิงภายในแอปฯ e-Commerce ไม่ว่าจะเป็นการ Live โดย Influencer หรือการเล่นเกม เพื่อดึงให้ผู้บริโภคใช้เวลาในแอปฯ นานขึ้นและสร้างโอกาสให้เกิดการซื้อขายได้

Shopping Online Festival

เมื่อในตลาดมีผู้เล่นมากขึ้น ผู้บริโภคก็จะต้องการสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น ผู้ขายเองก็มีการปรับตัวด้วยการพัฒนาการขายและสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้นด้วย หลังจากที่ระบบการขายปรับปรุงแล้วผู้บริโภคก็จะคาดหวังถึงการส่งสินค้าที่รวดเร็ว ระบบขนส่งที่มีการปรับตัวจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ e-Commerce เติบโต เมื่อลูกค้าใช้งานแอปฯ มากขึ้น แอปฯ ก็จะเสนอบริการพิเศษเพื่อเสริมศักยภาพการขายให้กับผู้ขาย

 

Ride Hailing ไม่ได้มีไว้แค่เรียกรถเท่านั้น

สำหรับมูลค่าตลาด Ride Hailing ในประเทศไทยอยู่ที่ 1.3 พันล้านอดลลาร์สหรัฐฯ เติบโต 36% แต่เเดิมธุรกิจนี้จะเน้นไปที่การเรียกรถเพื่อการเดินทาง แต่ในปัจจุบันการให้บริการผ่าน Ride Hailing ครอบคลุมหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในเรื่องของ Food Delivery และการบริการด้านการเงิน และต้องยอมรับว่า Food Delivery กลายเป็นจุดสำคัญในการยกระดับให้กับ Ride Hailing ปัจจุบันทุกคนสามารถใช้งานได้สะดวก โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการจราจร

Ride Hailing
credit:Hafiz Johari / Shutterstock.com

การใช้รหัสโปรโมทก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Ride Hailing เติบโตขึ้น โดยช่วยให้ผู้ที่ไม่เคยใช้เกิดการทดลองใช้ รวมไปถึงผู้ที่ใช้อยู่แล้วช่วยให้เกิดการใช้มากขึ้น รวมไปถึงการหาโปรแกรมใหม่เพื่อให้เกิดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การขยายบริการไปสู่บริการด้านการเงินช่วยให้เกิดการใช้งานที่ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคเกิดความสะดวกมากขึ้น

 

ออนไลน์มีเดียและการท่องเที่ยวยังคงโต

ในส่วนของออนไลน์มีเดียระดับภูมิภาคมีอัตราการเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต โดยเติบโตปีละ 39% ซึ่งเติบโตในส่วนของ Game Online และ Video Streaming ซึ่งเมื่อดูจำนวนสมาชิก Video Streaming มีการเติบโตถึง 28 เท่าในการค้นหาแบรนด์ต่างๆ เช่น Joox Netflix รวมไปถึงการซื้อของในแอปฯ อย่างเกมออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น

Growth 5 Years

นอกจากนี้การ Live และวิดีโอสั้นมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเข้ามาของแอปฯ อย่าง Weibo, TikTok ซึ่งช่วยให้เกิดการเข้ามารับชม ขณะที่ผู้ผลิตคอนเท้นต์ในแต่ละประเทศต่างก็พัฒนาการสร้างคอนเท้นต์ให้มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยมีความแข็งแกร่งด้านการผลิตคอนเท้นต์

และกลุ่มการท่องเที่ยวออนไลน์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดและอิ่มตัวมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการจองที่พักและสายการบิน มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โตที่ 17% ปัจจัยที่สำคัญจะพบว่า โรงแรมราคาถูกเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันการเติบโตของตลาด และการขยายตัวของกลุ่ม OTA ที่ช่วยให้การท่องเที่ยวสะดวกมากยิ่งขึ้น

Online Travel Agency

รวมไปถึงการสร้างแพ็คเกจการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับการท่องเที่ยว และการสร้างพันธมิตรที่ช่วยให้การท่องเที่ยวสะดวกสบายมากขึ้น อย่างการร่วมกับกลุ่มธุรกิจ Ride Hailing

 

แนวโน้มของแพลตฟอร์มในภูมิภาคนี้

หลายบริษัทมองว่า “เวลาเป็นเงินเป็นทอง” นั่นจึงทำให้เกิดการพัฒนาแอปฯ เพื่อให้ผู้บริโภคใช้เวลากับแอปฯ นานขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ Live Streaming หรือการสร้างระบบ Interactive เพราะเมื่อใช้เวลาบนแอปฯ นานเท่าไหร่ก็จะมีโอกาสในการสร้างการขายได้มากขึ้น กลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้การเติบโตของแอปฯ เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น จะเห็นว่า คนที่ซื้อสินค้าออนไลน์ไม่จำเป้นต้องใช้เวลาในแอปฯ เป็นเวลานาน ซึ่งพฤติกรรมการใช้แอปฯ เป็นเวลานาน เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศที่พัฒนาแล้วจะเน้นความง่ายในการใช้งานเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกสินค้าได้เร็วที่สุด

Time Spending in App

จากผลสำรวจการใช้งานของแอปฯ ต่างๆ ในภูมิภภาคนี้ พบว่าผู้บริโภคใช้งานแพลตฟอร์มใดเป็นเวลานานเท่าไหร่ ก็จะใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มนั้นมากขึ้น การทำให้ผู้บริโภคอยู๋บนแพลตฟอร์มนานๆ จำเป็นต้องมีการให้บริการที่ครอบคลุมหลากหลายมากขึ้น เช่น Ride Hailing นอกจากจะสามารถเรียกรถเพื่อเดินทางได้แล้ว ยังสามารถเรียกใช้งาน Food Delivery ได้ด้วย รวมไปถึงการให้บริการทางด้านการเงินที่เสริมเข้ามา รวมไปถึงการเป็นจุดที่ใช้ในการโฆษณา และเป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการด้านการท่องเที่ยว

หรือ e-Commerce ที่จะต้องมีเรื่องของ Streaming จากเหล่า Influencer แล้ว ยังต้องมีเกมออนไลน์ให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกบนแพลตฟอร์ม รวมถึงการเป็นแหล่งรวมข่าวสินค้าหลากหลายประเภท พร้อมทั้งรูปแบบบริการทางการเงินที่สะดวก และเป็นช่องทางในการโฆษณาสินค้าที่น่าสนใจ เพื่อช่วยให้เกิดความสะดวกสบาย คุ้มค่าในการใช้จ่าย

 

โดยสรุปธุรกิจออนไลน์ในภูมิภาค

6 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจออนไลน์ในภูมิภาคนี้เติบโต ประกอบไปด้วย การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายได้ รูปแบบการชำระเงินที่ในภูมิภาคมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มสูงขึ้น และระบบ Logistics ที่มีการพัฒนารูปแบบบริการ จนสามารถรับส่งสินค้าได้ภายในวันเดียวเท่านั้น

Key Factor Growth

ขณะที่อีก 2 ปัจจัยคือเรื่องของทรัพยากรบุคคลมีแนวโน้มที่จะมีการกลับมาช่วยพัฒนาประเทศของกลุ่มคนที่ไปเรียนรู้ในต่างประเทศ ซึ่งมีคนกลุ่มนี้กลับมาพัฒนาก็จะก่อให้เกิดปัจจัยต่อมาคือการลงทุน โดยเฉพาะการที่มี Unicorn จะช่วยให้เกิดการลงทุนในตลาดมากขึ้นและช่วยพัฒนารูปแบบแอปฯ และมีส่วนช่วยให้เกิดการขยายตัวของอุตสาหกรรม

สำหรับประเทศไทยทั้ง 2 ปัจจัยถือเป็นจุดอ่อนที่ต้องพัฒนา โดยเฉพาะเรื่องของการเสริมสร้างความรู้บุคลากร ที่คนไทยจำเป็นจะต้องมีการ Upskill ในเรื่องของเทคโนโลยีดิจิทัล อีกทั้งประเทศไทยยังขาด Unicorn ทำให้ขาดเงินลงทุนในกลุ่ม Startup

โดยสรุปแล้ว ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีตลาดเศรษฐกิจดิจิทัลใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค ด้วยมูลค่าตลาดในไทยกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลจะอยู่ในกลุ่มนอกเมืองใหญ่เป็นหลัก และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการขยายตัวตลาดในอนาคต


  • 296
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา
CLOSE
CLOSE