โฆษณารูปแบบใด สร้างการจดจำแบรนด์กับผู้บริโภคไทยได้ดีสุด

ภาคต่อจาก แบรนด์ไทยจาก 5 กลุ่มสินค้าที่สร้างการรับรู้โฆษณาได้มากที่สุดในเดือน ก.ค. 2556 โดย มายด์แชร์ (Mindshare) และ มิลวาร์ด บราวน์ (Millward Brown) ได้สำรวจความความเห็นผู้บริโภคแบบออนไลน์เกี่ยวกับกิจกรรมการตลาดและการรับรู้โฆษณา โดยครั้งนี้เป็นการสำรวจแบบออนไลน์ในช่วง 1 – 10 สิงหาคม 2556 ซึ่งมีผู้

ประสบการณ์กับ Non-conventional advertising

Top 3 ของการโฆษณาแบบ non-conventional ที่ผู้คนได้เคยพบเห็นคือ Sponsorship ในรายการทีวี, ออนไลน์ไวรัลวีดีโอที่บ่งบอกยี่ห้อสินค้า (Branded online viral video) และ การ Tie-in สินค้า (Product placement) ในรายการทีวี และจากสำรวจพบว่าคนต่างจังหวัด (ขอนแก่น เชียงใหม่) เคยพบ เคยเห็นมีประสบการณ์กับออนไลน์ไวรัลวีดีโอแบบที่บอกยีห้อสินค้าในสัดส่วนทีสูง และเป็นกลุ่มอายุ 18-24 ปี

 

ความชอบ (Likeability )

โดยรวมจะเห็นว่าคนชอบการโฆษณาแบบที่เป็นหนังสั้นออนไลน์แล้วมีการ tied-in สินค้ามากที่สุด โดยกลุ่มคนอายุน้อยและกลุ่มคนต่างจังหวัดยังให้คะแนนสูงในเรื่องของความชอบกับทุกๆ รูปแบบการโฆษณาแบบ non-conventional

Top 5 ของรูปแบบการโฆษณาที่ทำให้จดจำแบรนด์ได้ง่าย (mean score เต็ม 10)

• 1. Sponsorship in TV program (7.9)
• 2. Online viral video clip (Branded) (7.8)
• 3. Celebrity with product ad in Instagram (7.7)
• 4. Online short film with product tied-in (7.6)
• 5. Troop event on street/DJ mention on radio (7.4)

สร้างความสนใจให้แบรนด์/สินค้า

• 1. Celebrity with product ad in Instagram (7.5)
• 2. Online viral video clip (Branded) (7.5)
• 3. Sponsorship in TV program (7.5)
• 4. Online short film with product tied-in (7.4)
• 5. Troop event on street/DJ mention on radio (7.3)

มีแนวโน้มที่คนจะแชร์/บอกต่อ ให้กับเพื่อน/คนรู้จัก

• 1. Online viral video clip (Branded) (7.3)
• 2. Celebrity with product ad in Instagram (7.3)
• 3. Online short film with product tied-in (7.3)
• 4. Sponsorship in TV program (7.3)
• 5. Troop event on street/DJ mention on radio (6.9)

ในขณะที่การ sponsorship ในรายการทีวีจะติด top 5 ในทุกๆ แง่มุม แต่การโฆษณาแบบ non-conventional ทางออนไลน์นั้นก็ติด top 5 ในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างในในประเด็นของการสร้างความผูกพันกับสินค้าและการแชร์/บอกต่อ สิ่งนี้เป็นการยืนยันมุมมองของเราที่ว่าการสื่อสารกับผู้บริโภคนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เพียงแค่ traditional media ที่เป็น spot โฆษณาที่ทีวี หรือ สื่อสิงพิมพ์  แต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว

 

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก
มายด์แชร์ (Mindshare) และ มิลวาร์ด บราวน์ (Millward Brown)

Image credit: http://www.businesslearningsolutions.es/2013/03/getting-started-with-personal-branding/