ทำความรู้จักตำแหน่ง “Chief AI Officer” (CAIO) C-level ใหม่ในยุค “AI Revolution” สำคัญกับองค์กรอย่างไร ?

  • 48
  •  
  •  
  •  
  •  

Chief-AI-Officer (CAIO)

ในอดีตตำแหน่งงานบริหารระดับ C-level หรือ C-suite หลักๆ ที่คุ้นเคยกัน เช่น CEO (Chief Executive Office), CFO (Chief Financial Office), COO (Chief Operating Officer), CMO (Chief Marketing Officer), CIO (Chief Information Officer), CTO (Chief Technology Officer)

ต่อมาด้วยโมเดลธุรกิจที่แตกแขนงมากขึ้น ซับซ้อนขึ้น การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ และบริบทสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดตำแหน่ง C-level ใหม่ในองค์กรต่างๆ เพื่อรองรับยุคสมัยใหม่ และมีมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในสายงานนั้นๆ มาบริหารโดยเฉพาะ เช่น CDO (Chief Data Officer), CAO (Chief Analytics Officer), CXO (Chief Experience Officer), CGO (Chief Green Officer) เป็นต้น

ขณะที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในยุค AI ปฏิวัติการดำเนินธุรกิจ และแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คน จะเริ่มเห็นองค์กรต้องการทรานส์ฟอร์มสู่ยุค AI อย่างองค์กรขนาดใหญ่หลายราย วางเป้าหมายเป็น AI-First Organization หรือAI-First Companyคือ องค์กรมีวิสัยทัศน์ นโยบายและเป้าหมายด้าน AI ชัดเจน ในการพัฒนาและนำ AI ประเภทต่างๆ เข้ามาใช้ในกระบวนการธุรกิจ และนำเสนอผ่านผลิตภัณฑ์-บริการแก่ลูกค้า เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ – การทำงานของพนักงาน ลดต้นทุนการดำเนินงาน สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ตลอดจนแสวงหาโอกาสใหม่จากธุรกิจแห่งอนาคตที่มี AI เป็นหัวใจหลัก

ดังนั้นเพื่อรับมือความท้าทาย ความเสี่ยงใหม่ และโอกาสในยุค AI ทำให้เกิดตำแหน่ง C-level ใหม่ นั่นคือ “Chief AI Officer” (CAIO) หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้าน AI มีขอบข่ายหน้าที่ความรับผิดชอบด้าน AI ขององค์กรโดยเฉพาะ

Chief-AI-Officer (CAIO)

 

ทำความรู้จักตำแหน่ง “Chief AI Officer” (CAIO)

พลังของ AI ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยี หรือเครื่องมือทางการตลาดเท่านั้น แต่เมื่อนำมา integrate กับการทำงาน หรือการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมนำมาซึ่งโมเดลธุรกิจใหม่ที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

แต่ขณะเดียวกันความก้าวล้ำของ AI ก็เกิดความเสี่ยงใหม่ด้วยเช่นกัน เช่น ด้านความปลอดภัยจากการใช้ AI, การป้องกันจากการถูกปลอมแปลงโดย AI, กฎหมายที่เกี่ยวกับ AI อีกทั้งยังมีความซับซ้อนเชิงเทคนิค

ด้วยเหตุนี้เอง ตำแหน่งChief AI Officer” (CAIO) คือ หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงขององค์กรที่รับผิดชอบดูแลและขับเคลื่อนเกี่ยวกับ AI ทั้งภาพรวมในองค์กร ตั้งแต่การกำหนดวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ มีประสบการณ์ ความรู้ความเข้าใจ AI และความซับซ้อนทางเทคนิคอย่างแท้จริง รวมทั้งยังมีหน้าที่สื่อสารกับคนในองค์กรให้รับรู้ถึงนโยบาย AI และส่งเสริมทักษะบุคลากรในการใช้ AI ไปจนถึงศึกษาและเข้าใจหลักจริยะรรม กฎหมาย หรือกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับ AI

Chief-AI-Officer (CAIO)

 

บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของ “Chief AI Officer” (CAIO)

บทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบของChief AI Officer” (CAIO) ประกอบด้วย 5 ด้านหลักๆ คือ

1. กำหนดวิสัยทัศน์ และกลยุทธ์ด้าน AI ให้สอดคล้องกับเป้าหมายหลักขององค์กร

ถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบพื้นฐานของ CAIO ไม่ใช่แค่การพัฒนา หรือพิจารณาเลือกใช้ AI ตัวใดในองค์กรเท่านั้น แต่ต้องเริ่มต้นจากการกำหนดวิสัยทัศน์ และกลยุทธ์ด้าน AI เพื่อทำให้ทั้งองค์กรเดินไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งมีเป้าหมายชัดเจน เพื่อให้แน่ใจได้ว่าองค์กรจะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เต็มที่จากการนำ AI มาใช้ในกระบวนการธุรกิจต่างๆ

2. ส่งเสริมทักษะบุคลากร ลงมือปฏิบัติ พร้อมขยายโอกาสธุรกิจใหม่จาก AI

วิสัยทัศน์และกลยุทธ์คือรากฐาน แต่ความท้าทายที่แท้จริงอยู่ที่การนำกลยุทธ์ไปลงมือทำจริง เพราะความที่องค์กร ประกอบด้วยคนหลากหลายแผนก ยิ่งองค์กรขนาดใหญ่มีบุคลากร และแผนกต่างๆ มากมาย

ดังนั้นหน้าที่ของ CAIO ต้องทำให้บุคลากรในแผนกต่างๆ ขององค์กร เข้าใจและเห็นความสำคัญของศักยภาพ AI ขณะเดียวกันต้องแน่ใจได้ว่าทักษะของบุคลากรมีความพร้อมที่จะดำเนินการตามกลยุทธ์ AI ที่วางไว้ ซึ่งหากพบว่ายังมีส่วนไหนขาด หรือไม่พร้อม ต้องส่งเสริมพัฒนาทักษะใหม่แก่พนักงาน เพื่อให้มนุษย์ และ AI ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้หน้าที่ของ CAIO ยังต้องวาง Roadmap สำหรับต่อยอดขยายผลการใช้ AI และค้นหาโอกาสในการขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ด้วย AI

Chief-AI-Officer (CAIO)

3. เข้าใจหลักจริยธรรม และกฎหมายเกี่ยวกับ AI

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI ถือเป็นดาบสองคมเช่นกัน เพราะในขณะที่ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์งานที่ดียิ่งขึ้นให้กับมนุษย์ แต่อีกด้านหนึ่งก็ถือเป็นความเสี่ยงเช่นกัน เพราะอาจขัดกับจริยธรรม ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือกฎหมาย กระทบต่อสิทธิความเป็นส่วนตัว ซึ่งปัจจุบันในหลายประเทศ และระดับองค์กรมีการตระหนักถึงความเสี่ยง และความปลอดภัยจากการใช้ AI

อย่างสหภาพยุโรป ได้ออกกฎหมายการควบคุม AI หรือ EU AI Act นับเป็นกฎหมายเกี่ยวกับ AI เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าในการพัฒนาและใช้ AI จะเป็นไปในทางสร้างคุณประโยชน์ และป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

เพราะฉะนั้น CAIO จึงต้องเข้าใจหลักจริยธรรม และการปฏิบัติภายใต้กฎหมาย หรือกฎระเบียบข้อบังคับ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าการนำ AI มาใช้กับธุรกิจ หรือองค์กรจะไม่ไปละเมิดกฎหมาย ลิขสิทธิ์ สิทธิส่วนบุคคล และจริยธรรมใดๆ พร้อมทั้งต้องศึกษาและอัปเดตข้อกฎหมาย หรือข้อกำหนดต่างๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนตามบริบท หรือสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

Chief-AI-Officer (CAIO)

4. สื่อสารกับ Stakeholders

CAIO มีหน้าที่สื่อสารวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ การพัฒนา หรือใช้ AI ขององค์กรให้กับ Stakeholders ทั้งหมด ตั้งแต่ระดับผู้บริหาร ถึงระดับปฏิบัติการ ให้รับรู้ เข้าใจในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนบริหารจัดการความกังวลที่เกี่ยวกับ AI โดยอธิบายให้เข้าใจง่าย และสื่อสารถึงประโยชน์ที่จะได้รับอย่างเป็นรูปธรรม

5. เรียนรู้และอัปเดตเทรนด์ AI ไม่สิ้นสุด

โลกของ AI เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งใหม่ในวันนี้ อาจล้าสมัยในวันข้างหน้า เพราะฉะนั้น CAIO ต้องเรียนรู้และอัปเดตความเป็นไปของ AI อย่างไม่สิ้นสุด ด้วยการติดตามข้อมูลข่าวสาร ศึกษา ค้นคว้า ศึกษา AI ใหม่ๆ  เพื่อก้าวทันแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ท่ามกลางยุคสมัยที่กำลังถูกปฏิวัติด้วย AI เชื่อว่าเวลานี้ หลายองค์กรเตรียมความพร้อมรับมือทั้งความท้าทาย และแสวงหาโอกาสใหม่ที่จะเกิดขึ้น นี่จึงทำให้บทบาทของ Chief AI Officer เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งระดับ C-suite ยุคใหม่ที่มีแนวโน้มสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ และเป้าหมายด้าน AI อย่างชัดเจน

Chief-AI-Officer (CAIO)

 

 

Source: 1, 2


  • 48
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ