อย่า่งที่ทราบกันว่า Huawei ตกเป็นเป้าโจมตีของสหรัฐฯ ในสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ถึงขนาดที่บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายแห่งประกาศตัดสัมพันธ์ตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะ Google ที่ประกาศอย่างชัดเจนเรื่องการตัดสัมพันธ์ จนนำไปสู่การพัฒนาระบบปฏิบัติการของ Huawei ในชื่อ HarmonyOS ที่คาดว่าจะใช้เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น
นอกจากนี้การตัดสัมพันธ์ดังกล่าวยังส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่ง Huawei ถือเป็นแบรนด์ที่เติบโตค่อนข้างแรง จากผู้เล่นในอันดับ 3 ของโลก ขยับขึ้นมาใกล้เคียงเบอร์ 2 ในตลาดและมีแนวโน้มที่จะคว่ำเบอร์หนึ่งอย่าง Samsung ได้ไม่ยากนัก แม้ว่า Samsung จะพยายามหนีด้วยการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ อย่าง Samsung Fold ที่หน้าจอสามารถพับได้
โดยล่าสุด Huawei ก็มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่หน้าจอพับได้เช่นกันในรุ่น Huawei Mate X ซึ่งกว้างถึง 14.6 เซนติเมตร (5.8 นิ้ว) โดยเปิดขายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้นด้วยราคา 16,999 หยวน หรือ 2,422 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสามารถขายหมดภานใน 1 ชั่วโมงหลังเริ่มขาย สำหรับ Mate X จะใช้ชิปเซ็ต Kirin 980 และ Balong 5000 ของ Huawei แทนการใช้ชิปจาก Qualcomm ที่ปฏิเสธความสัมพันธ์กับ Huawei
โดย Mate X จะยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Android ในเวอร์ชั่น Open Source แต่หากรัฐบาลสหรัฐฯ ออกนโยบายที่มีผลบังคับไปถึงการห้ามใช้งานระบบปฏิบัติการ Android ในเวอร์ชั่น Open Source Huawei ก็พร้อมปรับระบบไปใช้งาน HarmonyOS ได้ทันที ส่งผลให้ปัจจุบันไม่มีแอปฯ บริการจาก Google เช่น Google Map, Google Play เป็นต้น และทำให้เครื่อง Mate X มีแอปฯ ที่เป็นภาษาจีนแทบจะ 100% ซึ่ง Huawei ยังไม่มีท่าทีที่จะนำ Huawei Mate X วางขายนอกประเทศจีน
แม้จะถูกโจมตีจากรัฐบาลสหรัฐฯ แต่จากรายงานยอดขายช่วง 9 เดือนของปี 2019 พบว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 24.4% คิดเป็นมูลค่าเป็น 6.1 แสนล้านหยวนหรือราว 8.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่ายอดขายหลังเดือนกรกฎาคมที่เกิดปัญหาจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ Huawei ก็ยังจ่าบโบนัสให้กับพนักงานในการพัฒนาชิปเซ็ตกว่า 90,000 คน รวมเป็นเงิน 2 พันล้านหยวน หรือราว 285 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยรับมือสถานการณ์ที่ผ่านมา
ขณะที่พนักงานอื่นๆ อีกกว่า 180,000 คนจะได้รับเงินโบนัสอย่างน้อยหนึ่งเดือน
Source: Japan Today
