อุปกรณ์ที่มี AI รองรับช่วยให้มนุษย์ฉลาดขึนได้อย่างไร

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

ใครที่มีหูฟัง Apple’s Airpod อาจจะรู้ว่ามันไม่ใช่แค่หูฟังไร้สายบลูทูธธรรมดา แต่ตัว Airpod มีเซนเซอร์ Biometrics คอยเก็บข้อมูลของคนใช้ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิร่างกายของคนใช้ อัตราการเต้นของหัวใจ และการเคลื่อนไหวในจังหวะต่างๆ หรือใครมี Google Pixel Bud มันก็จะเก็บข้อมูลการใช้งาน ส่งต่อให้ Google Assistant และให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวันได้

อุปกรณ์พวกนี้เราเรียกมันว่า “Intelligence Amplification” แปลตรงตัวคือเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้มนุษย์ฉลาดขึ้น

Intelligence Amplification ยังมีข้อเสียอยู่

ข้อเสียที่ว่านั่นคือมันเป็นจุดสังเกตให้คนอื่นเห็นได้ง่ายเกินไป ลองนึกถึง Airpod ออกมาใหม่ๆก็ได้ คนอาจจะมองว่ามันตลกดี แต่ที่เห็นชัดกว่าคือ Voice Assistant การใช้เสียงสั่งการลงไปที่อุปกรณ์นั้น บางครั้งเราต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการพูดสำเนียงให้อุปกรณ์ที่มี AI รองรับให้เข้าใจ หรือต้องพูดให้ดังมากพอกว่ามันจะรู้เรื่องว่าเราพูดอะไร โดยเฉพาะในยุคสังคมก้มหน้าดูหน้าจอมือถือกันเป็นเรื่องปรกติ

ฉะนั้นถ้าเราสั่งการผ่านเสียงโดยไม่ดูมือถือ คนอื่นอาจจะมองว่าเราประหลาดก็ได้ ทั้งๆที่ตัวอุปกรณ์ถูกออกแบบให้เราจัดการงานต่างๆผ่านเสียงได้ โดยไม่จำเป็นต้องดูหน้าจอมือถือแม้แต่น้อย

คำถามคือแล้วเราจะใช้อุปกรณ์ที่ว่าได้อย่างไรให้คนไม่รู้สึกว่าเราประหลาด เป็นเรื่องปรกติ?

 

อนาคตที่ Intelligence Amplification เป็นเรื่องปรกติ

โปรเจก AlterEgo ของ MIT ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สั่งการอุปกรณ์ตัวอื่นๆได้เพียงแค่ “ตั้งใจคิด” เท่านั้น โดยไม่ต้องส่งเสียงหรือขยับร่างกายเลย ซึ่งการคิดแต่ละครั้งจะส่งสัญญาณจากสมองของคนคิดสั่งการ และสัญญาณที่ว่าจะถูกแปลเป็นคำสั่งป้อนไปหาอุปกรณ์อื่นๆ

พูดง่ายๆคือปฎิสัมพันธ์กับอุปกรณ์เกิดขึ้นภายในตัวผู้ใช้งานเอง ไม่มีใครสังเกตเห็น

ซึ่งหัวหน้าโปรเจคได้ให้ความเห็นน่าสนใจว่า “การพูดนั้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ใครก็มีโอกาสได้ยิน แต่อย่างน้อยเราก็ควบคุมการพูดของเราได้ แต่การคิดนั้นมันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีใครร็ว่าเราคิดอะไรก็จริง แต่เรากลับควบคุมความคิดของเราไม่ได้ อุปกรณ์ในโปรเจคนี้จะทำให้การพูดและการคิดนั้นมันเหมือนกันมากขึ้น” AI ที่ติดตั้งในอุปกรณ์นั้นสามารถเข้าถึงความคิดของผู้ใช้งานได้ ในขณะเดียวกันเราสามารถจัดการข้อมูลส่วนตัวมีมีความอ่อนไหวได้ด้วย

 

 

นี่คือโอกาสของคนที่พัฒนาอุปกรณ์ในอนาคตเพื่อให้ Personalized Experience กับผู้ใช้งาน ต่อไปเราอาจจะได้ใช้อุปกรณ์ที่ทำให้เราฉลาดขึ้นจนไม่สะดุดตาใครเหมือนเป็นเรื่องปรกติ การพัฒนาอุปกรณ์แบบนี้ คนเก่งเทคโนโลยี วิศวะฯคอม IT อย่างเดียวคงไม่พอ ต้องอาศัยคนเก่งจากสาขาวิชาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง ภาษา หรือแม้แต่กฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะอุปกรณ์ที่เข้าไปลึกถึงระดับความคิดของคนต้องเกี่ยวกับประเด็นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ธุรกิจที่คิดจะหาประโยชน์จากอุปกรณ์อย่าง AlterEgo ต้องคิดถึงเรื่องของความโปร่งใสและความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคด้วย

 

แหล่งอ้างอิงส่วนหนึ่งจาก How wearable AI will amplify human intelligence โดย Lauren Golembiewski จาก The Year in Tech 2021: Harvard Business Review


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th