การลงทุนด้านอนาคตของลูกหลานถือเป็นการลงทุนเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน นั่นจึงทำให้ กลุ่มสยามกลการ ตัดสินใจลงทุนในการเปิด โรงเรียนนานาชาติ Highgate แห่งแรกนอกสหราชอาณาจักร ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ใจกลางพื้นที่ EEC เป็นการต่อยอดจากธุรกิจโรงเรียนที่สยามกลการมีอยู่แล้ว เพื่อให้พอร์ตธุรกิจด้านการศึกษาภายใต้วิสัยทัศน์ที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นเกิดความยั่งยืน สยามกลการจึงได้จับมือกับโรงเรียนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 460 ปี เพื่อเข้ามาเจาะตลาดการศึกษาในประเทศไทย
ครั้งแรกในรอบ 460 ปีสู่ประเทศไทย
Highgate เป็นหนึ่งในโรงเรียนชั้นนำที่เก่าแก่และได้รับการยอมรับมากที่สุดในอังกฤษ การมาเปิดตัวในประเทศไทยถือเป็นการตัดสินใจออกนอกประเทศครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโรงเรียน นั่นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตลาดการศึกษาของประเทศไทย แต่จริงๆ แล้วยังมีเหตุผลเชิงกลยุทธ์ที่น่าสนใจยิ่งกว่าแค่เรื่องโอกาสทางการตลาด
เหตุผลแรกที่ผู้บริหาร Highgate เน้นย้ำคือ การมองหาพันธมิตรที่เหมาะสมที่สุด โดยความร่วมมือนี้ไม่ใช่แค่การขายไลเซนส์แล้วจบไป แต่ต้องเป็นการร่วมมือกันอย่างแท้จริง โดย Highgate ที่สหราชอาณาจักรจะเข้ามามีบทบาทสำคัญตั้งแต่การวางนโยบาย, หลักสูตร, การคัดเลือกบุคลากรครูอย่างเข้มข้น, ไปจนถึงการส่งผู้บริหารระดับสูงอย่าง Head Master มานั่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนในไทยด้วย ซึ่งสยามกลการก็ผ่านการพิจารณาในส่วนนี้
นอกจากนี้ Highgate ยังเลือกตั้งโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีแทนที่อยู่ในกรุงเทพฯ นั่นเพราะการแข่งขันในกรุงเทพฯ ค่อนข้างดุเดือด ในขณะที่ชลบุรีอยู่ในพื้นที่ EEC ซึ่งมีนักธุรกิจจากหลายชาติเข้ามาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ส่งผลให้โรงเรียนนานาชาติเริ่มเข้ามาแต่ยังไม่มีมาก ยังมีโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่พาครอบครัวมาด้วยและคนไทยที่อาศัยในพื้นที่ แถมยังได้สภาพแวดล้องใกล้ชิดธรรมชาติ
ที่สำคัญด้วยวัฒนธรรมไทยที่ให้ความสำคัญกับความนอบน้อมและความสัมพันธ์ที่ดี ใกล้เคียงกับค่านิยมของโรงเรียนในระบบอังกฤษดั้งเดิมที่เน้นเรื่องระเบียบวินัยและความเคารพซึ่งกันและกัน ความเข้ากันได้ทางวัฒนธรรมนี้ยิ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยการทำงานร่วมกันระหว่าง Highgate และ สยามกลการราบรื่นใกล้ชิดยิ่งขึ้น
ต่อยอดธุรกิจอย่างยั่งยืนสู่โรงเรียนนานาชาติ
แม้ว่าการเปิดโรงเรียนนานาชาติของสยามกลการ อาจดูเป็นการสวนกระแสกับยุคที่ประเทศไทยเข้าสู่ Aging เต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอัตราการเกิดของประชากรไทยลดลงอย่างชัดเจน และแนวคิดการไม่มีลูกก็ชัดเจนมากขึ้นเช่นกัน แต่จากวิสัยทัศน์ของ คุณธันยพร พรประภา ตั้งคารวคุณ ประธานคณะกรรมการโรงเรียน โรงเรียนนานาชาติไฮเกต ประเทศไทย ที่จริงๆ แล้วมีแนวคิดการเปิดโรงเรียนมาเกือบสิบปี แต่ติดปัญห่วงโควิดทำให้ต้องพับโครงการไป
โดยแนวคิดการตั้งโรงเรียน ต้องย้อนกลับไปที่ ดร.ถาวร พรประภา ผู้ก่อตั้งกลุ่มสยามกลการที่มองว่า การศึกษาคือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด โดยแนวคิดดังกล่าวถูกส่งต่อมายังทายาทรุ่นต่อๆ มา กลายเป็น DNA ขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต การสร้างโรงเรียนนานาชาติจึงเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งและเป็นมรดกที่สร้างความยั่งยืนให้กับสังคม
การเปิดโรงเรียนนานาชาติไฮเกตเป็นการต่อยอดธุรกิจด้านการศึกษาของสยามกลการ โดยสยามกลการเป็นผู้บริหารโรงเรียนดนตรีสยามกลการ ที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 60 ปี นั่นทำให้สยามกลการมีความเข้าใจในระบบการบริหารจัดการสถาบันการศึกษา และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Highgate UK มองเห็นศักยภาพและเลือกที่จะจับมือด้วย ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สยามกลการมองหาพันธมิตรในการเปิดโรงเรียนที่ต้องมีวิสัยทัศน์และค่านิยมตรงกัน
นอกจากความเชี่ยวชาญที่สยามกลการมีประสบการณ์ในตลาดการศึกษาแล้ว สยามกลการยังมองเห็นเทรนด์ที่ผู้ปกครองยุคใหม่มีแนวโน้มที่จะลงทุนกับการศึกษาของลูกอย่างเต็มที่มากขึ้น โดยไม่ได้มองหาแค่โรงเรียน แต่กำลังมองหาการศึกษาและอนาคตที่เด็กจะได้รับอย่างรอบด้าน ทำให้ตลาดโรงเรียนนานาชาติระดับพรีเมียมจึงยังมีช่องว่างให้เติบโต โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีคุณภาพชัดเจน
ชูกลยุทธ์ความคุ้มค่าในมาตรฐานระดับโลก
เมื่อมองดูตลาดโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย ความท้าทาย (Challenge) ของตลาดโรงเรียนนานาชาติ คือ ความคาดหวังของผู้ปกครองในความคุ้มค่าที่ต้องเสียเงินไป ซึ่งโดยเฉลี่ยค่าเทอมต่อปีของ โรงเรียนนานาชาติ Highgate จะอยู่ที่ 5 แสนบาทไปจนถึง 1 ล้านบาท ซึ่งความคุ้มค่าแรกที่ผู้ปกครองจะเห็นเป็นสิ่งแรกจากโรงเรียนการให้ความสำคัญชนิดที่ “ครูคือหัวใจ”
โดยโรงเรียนจะคัดเลือกครูที่ไม่ได้มองหาแค่ความเก่งทางด้านวิชาการ แต่ต้องเป็นครูที่มีพลังบวก มีความเข้าใจในพัฒนาการของเด็ก และมีความกระตือรือร้น โดยจะจะมีทีมคัดเลือกบุคลากรครูโดยตรงจาก Highgate UK ภายใต้กฎการคัดสรรที่มีมาอย่างยาวนาน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตของเด็กในโรงดรียนนานาชาติ ไฮเกต
นอกจากครูที่ดีแล้ว การให้เด็กได้ใช้ชีวิตที่ถูกต้องถือเป็นความสำคัญลำดับต้นๆ เพราะโลกในปัจจุบันเร่งให้เด็กโตเร็วเกินไป โรงเรียนนานาชาติ Highgate จึงเน้นความสำคัญในการปกป้องวัยเด็ก โดยเฉพาะรากฐานสำคัญของการพัฒนาสมอง อารมณ์ และมิตรภาพที่มั่นคง ด้วยการสร้างสมดุลระหว่างความเป็นเลิศทางวิชาการ กับการดูแลชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของนักเรียน
เดินหน้าสร้างความพร้อมการศึกษา
นอกจากการให้ความสำคัญกับเรื่องของครูผู้สอนและการใช้ชีวิตของนักเรียน โรงเรียนนานาชาติ Highgate ยังมีแนวคิดสามเหลี่ยมแห่งความสำเร็จ (School-Parent-Child Triangle) ซึ่งเป็นรูปแบบความร่วมมือแบบ “3 เหลี่ยม” ที่ประกอบด้วย โรงเรียน ผู้ปกครองและตัวเด็ก โดยจะแบ่งหน้าที่การดูแลและจะผสานความร่วมมือกัน โดยโรงเรียนทำหน้าที่ให้ความรู้ทางวิชาการและเข้าใจเด็ก ผู้ปกครองให้การสนับสนุนด้านความรักและความเข้าใจ และเปิดโอกาสให้ตัวเด็กสามารถสื่อสารได้อย่างเปิดเผยกับทั้งสองฝ่าย
แนวคิดนี้สะท้อนถึงการศึกษาในยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และเพื่อให้โรงเรียนนานาชาติ Highgate เป็นพื้นที่ที่มีพร้อมสำหรับการเรียนรู้ จึงได้เตรียมงบลงทุนมหาศาล เพื่อนำมาพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก, สปอร์ตฮอลล์ขนาดใหญ่, หอประชุม 450 ที่นั่ง, อาคารปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยเฉพาะ (STEM building) และพื้นที่สำหรับศิลปะและดนตรีอีกมากมาย ภายใต้มาตรฐานระดับโลกบนพื้นที่กว่า 70 ไร่
หากมองภาพรวมแล้วจะเห็นได้ชัดเจนว่า โรงเรียนนานาชาติ Highgate เตรียมเจาะกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจที่จะเข้ามาทำธุรกิจในพื้นที่ EEC เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ รวมไปถึงกลุ่มผู้ปกครองที่ต้องการให้เด็กได้รับการศึกษาในมาตรฐานสากล เนื่องจากอยู่ใกล้กับ กทม. ยิ่งในอนาคตมีแผนที่จะขยายไปสู่การสอนในระดับชั้นมัธยมและการเป็นโรงเรียนประจำน่าจะกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของผู้ปกครอง
ดังนั้นการร่วมมือกันระหว่างสยามกลการและ Highgate School จึงไม่ใช่แค่การเปิดโรงเรียนนานาชาติแห่งใหม่ แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศทางการศึกษาที่หยั่งรากลึกจากปรัชญาของผู้ก่อตั้งและประวัติศาสตร์อันยาวนานของสถาบันการศึกษาชั้นนำ เป็นการเดินกลยุทธ์ที่มองไปยังโอกาสในระยะยาวของตลาดการศึกษาระดับพรีเมียมที่ยังคงเติบโต
