ในยุคที่ความยั่งยืนและการลดต้นทุนเป็นโจทย์ใหญ่ของทุกธุรกิจ หลายบริษัทอยากเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด แต่ก็ต้องเบรกตัวโก่งเมื่อเห็นตัวเลขเงินลงทุนมหาศาล แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนบอกว่า คุณสามารถติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่โรงงานได้เลย โดยไม่ต้องลงทุนเองแม้แต่บาทเดียว?
เรื่องนี้เป็นไปได้ และในบทความนี้ Marketing Oops! จะพาไปเจาะลึกโมเดลธุรกิจที่เรียกว่า B.O.O.T (Build-Own-Operate-Transfer) จาก GreenYellow (กรีน เยลโล่) บริษัทโซลูชันพลังงานยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศส ที่กำลังเข้ามาปลดล็อกให้ธุรกิจไทยเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดได้แบบ ‘Zero Capital’ ได้จริงๆ
GreenYellow คือใคร?
GreenYellow คือผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ณ ประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันดำเนินงานใน 16 ประเทศ 4 ทวีปทั่วโลก โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียมาตั้งแต่ปี 2017 โดยบริการ GreenYellow ครอบคลุมโซลูชันพลังงานครบวงจร 4 เสาหลักก็คือ
- Solar PPA หรือการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ครบวงจร
- Energy Efficiency การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในระบบต่างๆ เช่น ระบบทำความเย็น ความร้อน เป็นธุรกิจที่เติบโตแบบสุดๆ โดย GreenYellow ตั้งเป้าการเติบโตในปีนี้ถึง 600%
- Energy Storage (BESS) ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่
- Mobility โครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charger)
เจาะลึกโมเดล B.O.O.T ลงทุน 0 บาท ทำได้อย่างไร?
สิ่งที่ทำให้ GreenYellow แตกต่างออกจากบริษัทบริหารจัดการพลังงานสะอาดทั่วไปก็ คือโมเดลธุรกิจที่เรียกว่า B.O.O.T (Build-Own-Operate-Transfer) กลยุทธ์ที่เข้ามาทลายกำแพงเรื่องเงินลงทุนให้กับภาคธุรกิจได้เป็นอย่างดีโดยมีขั้นตอนก็คือ
- Build : GreenYellow จะเป็นผู้ลงทุนออกแบบและติดตั้งระบบพลังงานสะอาดให้ทั้งหมด 100% ไม่ว่าจะเป็นโซลาร์บนหลังคา (Rooftop Solar), โซลาร์บนหลังคาที่จอดรถ (Solar Carport), โซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ไปจนถึงฟาร์มโซลาร์ (Solar Farm) ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเงินลงทุนเริ่มแรกเลย (Zero CAPEX)
- Own : GreenYellow จะเป็นเจ้าของและบริหารจัดการทรัพย์สินทั้งหมดตลอดอายุสัญญา
- Operate : GreenYellow จะดูแลการทำงานและบำรุงรักษาระบบทั้งหมดให้มีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดอายุสัญญา 15-20 ปี โดยที่ลูกค้าไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการใดๆ (Zero OPEX) ลูกค้ามีหน้าที่เพียงแค่ซื้อไฟฟ้าที่ผลิตได้ในราคาที่ถูกกว่าค่าไฟปกติ 30-50% เท่านั้น
- Transfer : เมื่อสิ้นสุดสัญญา GreenYellow จะส่งมอบทรัพย์สินหรือระบบโซลาร์เซลล์ทั้งหมดให้ลูกค้าเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ต่อไปโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
เบื้องหลังความแข็งแกร่งที่ทำให้ GreenYellow สามารถเสนอโมเดลลงทุน 0 บาทได้ คือการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นที่เป็นบริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Ardian, Tikehau Capital และ bpifrance ทำให้บริษัทมีความพร้อมด้านเงินทุนอย่างมหาศาลในการเข้าไปลงทุนโครงการพลังงานสะอาดให้กับลูกค้าได้ทันที
GreenYellow มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งแล้วหรืออยู่ระหว่างก่อสร้างกว่า 1,700 แห่ง คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวมสูงถึง 1.74 กิกะวัตต์ (GWp) ขณะที่ในภูมิภาคเอเชีย บริษัทได้ลงทุนไปแล้วกว่า 11,000 ล้านบาท โดยครึ่งหนึ่งของงบลงทุนนี้ถูกใช้ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตติดตั้งสะสมที่เซ็นสัญญากับลูกค้าแล้วกว่า 80 ราย 210 เมกะวัตต์ (MWp)
เรียกได้ว่าธุรกิจแค่เปิดพื้นที่ให้ ที่เหลือ GreenYellow จัดการให้ทั้งหมด ผลลัพธ์คือได้ใช้พลังงานสะอาด ลดต้นทุนค่าไฟ และลดการปล่อยคาร์บอนได้ทันทีเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายความยั่งยืนได้เร็วขึ้น และเงินที่สามารถประหยัดไปได้นั้นก็สามารถนำเงินทุนและทรัพยากรบุคคลไปโฟกัสกับธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ได้มากขึ้นนั่นเอง
คุณจีรภา คงสว่างวงศา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจและการตลาด บริษัท กรีน เยลโล่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องพลังงานสะอาดเอาไว้ว่า
“ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและต้นทุนพลังงานที่ผันผวน การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับองค์กรที่มีวิสัยทัศน์และต้องการก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน GreenYellow เล็งเห็นถึงโอกาสและความท้าทายเหล่านี้ จึงพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด”
ในไทยมีบริษัทไหนใช้บริการ GreenYellow บ้าง
บริการของ GreenYellow มีองค์กรชั้นนำในประเทศไทยใช้งานอยู่หลายบริษัท และก็ให้ผลลัพธ์ในการลดต้นทุนได้จริงยกตัวอย่างเช่น
- Makro: หนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่เลือกใช้โมเดล B.O.O.T โดย GreenYellow เข้าไปติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้ถึง 30 MWp สามารถช่วยผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 43.5 GWh และลดการปล่อย CO2 ได้มากถึง 22,000 ตันต่อปี ทำให้ Makro สามารถนำเงินทุนไปขยายสาขาต่อยอดธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่
- Nestlé: บริษัทระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ได้ติดตั้งระบบโซลาร์กับ GreenYellow ขนาดรวม 5 MWp ช่วยผลิตพลังงานสะอาดได้ 7,467 MWh ต่อปี และลดการปล่อย CO2 ได้ถึง 3,316 ตันต่อปี
- การบินไทย: สายการบินแห่งชาติที่กำลังฟื้นฟูผลประกอบการ ก็เลือกจับมือกับ GreenYellow ในการลดต้นทุนด้านพลังงาน โดยติดตั้งโซลาร์บนหลังคาและที่จอดรถ (Rooftop & Carport) ขนาด 0.99 MWp ช่วยลดการปล่อย CO2 ได้ 613 ตันต่อปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผลประกอบการดีขึ้น
- Unilever: อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปขนาด 0.99 MWp สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 1,529 MWh ต่อปี และลดการปล่อยคาร์บอนได้ 613 ตันต่อปี
- Central Food Wholesales (Go Wholesale): ธุรกิจค้าส่งในเครือเซ็นทรัลที่กำลังเติบโต ก็ได้วางแผนพลังงานสำหรับสาขาใหม่ๆ โดยติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปขนาด 0.8 MWp ช่วยลดการปล่อย CO2 ได้ 560 ตันต่อปี
- กลุ่มธุรกิจโรงแรม (FICO Group): ตัวอย่างของบริการด้าน Energy Efficiency ที่ไม่ได้มีแค่โซลาร์ แต่เป็นการเข้าไปปรับปรุงระบบทำความเย็น (Chiller Plant Retrofit) ให้กับโรงแรมในเครือ เช่น Hilton, Four Points, Holiday Inn, Marriott ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 7.35 GWh ต่อปี และลดการปล่อย CO2 ได้มากถึง 2,717 ตันต่อปี
ทิศทางในอนาคต
คุณจีรภาระบุว่า ทิศทางในอนาคต GreenYellow ตั้งเป้าเติบโต 25% ในปี 68 โดยวางกลยุทธ์เจาะ 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่:
- กลุ่มลูกค้าเอกชน (Private Consumption): ฐานลูกค้าเดิมที่แข็งแกร่งและจะขยายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
- การควบรวมและซื้อกิจการ (M&A): เข้าซื้อโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมเพื่อนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพ
- กลุ่มสาธารณูปโภคและภาครัฐ (Utilities & Government): ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง เช่น โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และโครงการภาครัฐต่างๆ
การมาของ GreenYellow และโมเดล Zero Capital Energy Transition ถือเป็นการปลดล็อกครั้งสำคัญ ที่ทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดไม่ใช่เรื่องขององค์กรใหญ่ที่มีทุนหนาอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจสามารถเข้าถึงได้ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน
