ช่อง 5 ยอมรับกระแสคอนเทนท์ข่าวมีการแข่งขันสูง จึงเตรียมวางระบบ Digital News Room แถมยังมั่นใจฐานผู้ชมจะเพิ่ม 20%
พลโท กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับกลยุทธ์รายการข่าของสถานี ว่าท่ามกลางภาวะการแข่งขันด้านรายการข่าวที่รุนแรง เข้มข้น
โดยผลการสำรวจความนิยมรายการข่าวของ ททบ.5 ไตรมาสแรกปีนี้ ปรากฏว่ามีฐานผู้ชมที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งในเขตเมืองและส่วนภูมิภาคเฉลี่ยประมาณ 20% จึงนับว่าผู้ชมให้ความสนใจและตอบรับทิศทางข่าวอย่างน่าพอใจ
หลังจากที่ช่อง 5 ได้ปรับปรุงระบบเทคโนโลยีเสริมศักยภาพด้วยระบบเวอร์ชวล สตูดิโอ และวิดีโอวอล รวมทั้งเพิ่มบุคลากรหน้าใหม่จากโครงการ “เจ็นไฟว์ อคาเดมี่” ทั้ง 6 คน ในรายการข่าววาไรตี้ บุษบาบานเช้า และเริ่มอ่านข่าวสั้นต้นชั่วโมงด้วย เป็นผลให้ขยายกลุ่มผู้ชมเยาวชนและสตรีมากขึ้น ทุกช่วงเวลาข่าวของ ททบ.5 ที่มี 7 ชั่วโมงต่อวัน
สำหรับแผนงานเชิงรุกด้านรายการข่าวในไตรมาสที่ 2 ผู้อำนวยการ ททบ.5 ยืนยันความพร้อมตามแผนงานเดิมที่จะจัดทำระบบ “Digital News Room” ให้เต็มรูปแบบ เพื่อเชื่อมโยงกับระบบห้องส่ง Video Wall และ Virtual
โดยจะมีการวางระบบฐานข้อมูลออนไลน์ จากห้องสมุดข่าว ระบบ E-Libery ที่รวบรวมสคริปต์-ภาพข่าว และข้อมูลสำคัญ เพื่อให้พร้อมต่อการตัดต่อและรายงานข่าวสดๆ อย่างทันต่อสถานการณ์ด้วยฐานข้อมูลและภาพข่าวที่ครบครัน
โดยมั่นใจว่าจะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ในปีนี้ ซึ่งระบบดังกล่าวจะทัดเทียมกับสถานีโทรทัศน์ระดับโลก เช่น CNN, BBC และ NHK
ขณะนี้ฝ่ายข่าว ททบ.5 กำลังฝึกอบรมบุคลาการในฝ่ายข่าวเทคนิคและฝ่ายรายการ เพื่อตอบรับการขยายตัวระบบดังกล่าว ล่าสุดได้มีการเปิดรับพนักงานสร้างสรรค์กราฟฟิคมืออาชีพ อีก 3 อัตรา เพื่อมาร่วมออกแบบและผลิตรายการข่าวโฉมใหม่แล้ว
“นโยบาย ช่อง 5 ไม่เน้นการแข่งขัน เพราะเราเป็นทีวีบริการสาธารณะเพื่อความมั่นคง โดยเราให้ความสำคัญในการควบคุมเนื้อหาข่าวให้ถูกต้อง เป็นธรรมและสร้างสรรค์ เนื่องจากสถานการณ์ความสับสนและความขัดแย้งในปัจจุบัน ทำให้สื่อต้องระมัดระวังการทำงาน สิ่งที่นำเสนออกไปควรมี เฉพาะข้อเท็จจริง และข้อมูลในทุก ๆ มิติ โดยปราศจากการวิพากษ์วิจารณ์ ชี้นำ หรือแสดงความคิดเห็น โดยผู้ดำเนินรายการข่าว ยกเว้นเป็นนักวิชาการหรือแขกรับเชิญ ผู้ให้สัมภาษณ์ในรายการมีสิทธิออกความคิดเห็นได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบกติกาที่ไม่ไปหมิ่นประมาทหรือละเมิดผู้อื่น” ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก กล่าว
Source: กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์