Nielsen รายงานตัวเลขการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อ 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.2552) พบว่า ภาพรวมมีอัตราการลดลง 5.11% มีมูลค่า 41,936 ล้านบาท โดยสื่อหลักอยู่ในสภาพติดลบทุกสื่อ ประกอบด้วย สื่อโทรทัศน์ลดลง 1.61% มูลค่า 24,885 ล้านบาท วิทยุลดลง 13.47% มูลค่า 2,838 ล้านบาท หนังสือพิมพ์ ลดลง 14.62% ลดลง 6,388 ล้านบาท นิตยสาร ลดลง 14.81% มูลค่า 2,416 ล้านบาท ป้ายโฆษณา ลดลง 7.53% มูลค่า 1,990 ล้านบาท
ส่วนสื่อที่ยังมีอัตราการเติบโต คือ สื่อโฆษณานอกบ้าน ในกลุ่มโรงภาพยนตร์ เติบโต 3.26% มูลค่า 2,029 ล้านบาท สื่อเคลื่อนที่ เติบโต 29.65% มูลค่า 892 ล้านบาท สื่อ ณ จุดขาย หรือ อินสโตร์ เติบโต 0.25% มูลค่า 403 ล้านบาท และสื่ออินเทอร์เน็ต เติบโต 9.09% มูลค่า 96 ล้านบาท
สุภาณี เดชาบูรณานนท์ จาก Group M Media Agency บอกว่า อุตสาหกรรมโฆษณาในช่วงครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยลบจากปัญหาการเมือง ราคาน้ำมัน และภาวะเศรษฐกิจซบเซา ดังนั้นหากผู้ประกอบการเห็นว่าผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ ก็จะหันมาใช้กลยุทธ์ระยะสั้น เน้นโปรโมชั่นสร้างยอดขาย และลดการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อหลัก ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้อาจจะอยู่ในสภาพติดลบประมาณ 8% จากเดิมที่ประเมินว่าจะติดลบ 6%
ในช่วงครึ่งปีแรกพบว่า กลุ่มเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ รถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์ ใช้งบประมาณผ่านสื่อลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สื่อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ซึ่งเป็นสื่อหลักของการใช้งบประมาณในกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบตามไปด้วย
นอกจากนี้ การขยายตัวของธุรกิจทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ได้กลายเป็นสื่อทางเลือกใหม่ของสินค้าและบริการใช้งบโฆษณาอีกด้วย เนื่องจากมีราคาถูกกว่าสื่อแมส และเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มได้ดี คาดว่าปีนี้จะมีเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดังกล่าวประมาณ 800-1,000 ล้านบาท
Nielsen ได้รายงานบริษัทที่ใช้งบโฆษณาสูงสุด 5 อันดับแรกในช่วงครึ่งปี คือ
- 1) ยูนิลีเวอร์ มูลค่า 2,319 ล้านบาท ลดลง 26 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
- 2) ไบเออร์สดอร์ฟ มูลค่า 993 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 410 ล้านบาท
- 3) ลอรีอัล มูลค่า 802 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199 ล้านบาท
- 4) พีแอนด์จี มูลค่า 691 ล้านบาท ลดลง 10 ล้านบาท
- 5) เอไอเอส มูลค่า 652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52 ล้านบาท
Source: กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์