ในชั่วโมงเร่งด่วนทุกวันนี้ หากลองมองไปรอบๆ และสังเกตดูสักนิดจะเห็นว่ามีอะไรเปลี่ยนไปในทางลบๆ มากขึ้น ไม่ใช่แค่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ เมืองศิวิไลที่การจราจรติดขัดตลอดเวลา แต่มันกำลังลุกลามไปทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปัญหารถติดซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจังหวัดเชียงใหม่ หรือเมืองรองแห่งอื่นๆ จนสุดท้ายกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดวิกฤตควันฝุ่นพิษปกคลุมไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เบียดเบียนอากาศบริสุทธิ์จนทำให้เราหายใจได้ไม่เต็มปอด
ที่ผ่านมากิจกรรมต่างๆ ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมักจะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นกิจกรรมเด่นขององค์กรขนาดใหญ่เสมอ เพื่อร่วมกันรณรงค์รับผิดชอบต่อสังคม หรือที่เราเรียกกันว่า CSR แต่สำหรับ ‘แสนสิริ’ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยหัวใจรักษ์โลก กับแคมเปญโลกสีเขียวที่ทำมาอย่างยาวนานและค่อนข้างจริงจัง ไม่ใช่แค่ทฤษฎี CSR ที่ทำประเดี๋ยวประด๋าว แต่เป็นความรักษ์โลกที่หยั่งลึกจนกลายเป็นแนวคิดปฏิบัติของแสนสิริ และทำกันมายาวนานกว่า 35 ปีแล้ว นั่นคือ มุ่งมั่นที่จะรักษาคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติไว้คงเดิม และเชื่อว่ามนุษย์กับธรรมชาตินั้นต้องคู่กันเสมอ
โดย DNA ความรักษ์โลกของแสนสิริ มีความน่าสนใจตรงที่มีจุดยืนที่แสดงถึงการใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและพื้นที่สีเขียวอย่างสม่ำเสมอ จนได้มีการประกาศโครงการยั่งยืนที่ชื่อว่า ‘Sansiri Green Mission’ โรดแมปเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืน ซึ่งตั้งใจลดการใช้พลังงานและปล่อยของเสียลงให้ได้ปีละมากกว่า 10% ในทุกโครงการอย่างต่อเนื่องนาน 3 ปี ผ่าน 3 คำแนวทางหลัก ที่แสนสิริได้เปลี่ยนและลงมือทำแล้ว คือ TREE เก็บ เลือก ปลูก รักษา ต้นไม้เดิม และสร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อชุมชนรอบข้าง, ENERGY ลดการใช้พลังงาน พร้อมทดแทนด้วยพลังงานสะอาด และ RECYCLE ลดการใช้ขยะพร้อมนำกลับมาใช้ใหม่ และเลือกใช้วัสดุทดแทน
ไม่เพียงเท่านี้ แสนสิริ ยังได้ส่งต่อแนวคิดเหล่านี้ผ่านเป็น Sansiri Tree Story’ ผ่าน 4 กระบวนการใส่ใจต้นไม้ ‘เก็บ เลือก ปลูก รักษา’ เพื่อให้เราทุกคนเห็นถึงคุณค่าของต้นไม้ที่มีต่อชุมชน และออก ‘คู่มือดูแลต้นไม้’ สำหรับกลุ่มนิติบุคคลในแต่ละโครงการ และลูกบ้านทุกคนเพื่อร่วมกันดูแลต้นไม้ในโครงการได้อย่างถูกต้อง นับว่าเป็นการส่งต่อความมีสำนึกคิดและการรักษ์โลกจากรุ่นสู่รู่นได้เป็นอย่างดี
เราลองมาดู Green Roadmap ที่น่าสนใจของแสนสิริในช่วงที่ผ่านๆ มาว่ามีอะไรบ้าง?
- ‘Sansiri Green Mission’ คำมั่นแรกที่ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2018 ย้ำจุดยืนของแสนสิริว่า ไม่เคยหยุดสร้างมาตรฐานใหม่ สำหรับการรักษาโลกใบเดิมให้สดใสและน่าอยู่เช่นเคย โดยมีภารกิจสำคัญหลายประการ เช่น นโนบายลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยของเสียในทุกๆ โครงการของแสนสิริ ให้ได้ปีละมากกว่า 10% อย่างต่อเนื่อง
- ‘Sansiri Tree Story’ อย่างที่เกริ่นไปแล้วข้างบนว่าเป็นการต่อยอด mission รักษ์โลกให้ strong ขึ้น ด้วยการบอกต่อเรื่องราวดีๆ ส่งต่อความใส่ใจ และร่วมกันเห็นคุณค่าของต้นไม้ที่มีต่อชุมชน ผ่าน 4 กรบวนการใส่ใจต้นไม้
- ‘Sansiri Backyard’ ในเมื่อเราทุกคนยังเชื่อมั่นเหมือนกันว่าธรรมชาติมีส่วนบำบัดความเครียดได้ ดังนั้น แสนสิริ จึงทดลองแปลงโฉมพื้นที่ว่างในโครงการ T77 และหัวหิน เปลี่ยนให้เป็นพื้นที่สำหรับสวนผักออร์แกนิกที่ลูกบ้านในโครงการสามารถทานได้ ไม่ว่าจะเป็น ผักบุ้ง, กะเพรา, กรีนโอ๊ค, กวางตุ้ง, อัญชัญ, แตงกวา, ตะไคร้, โหระพา, ต้นหอม และ ผักสลัด เป็นต้น
- แสนสิริ ปลูกฝังแนวคิดสีเขียวภายในองค์กร ซึ่งน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นแรกๆ โดยมีการรณรงค์ให้พนักงานปลูกต้นไม้เล็กๆ บนโต๊ะทำงาน เพื่อสร้าง community concept คือ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถใกล้ชิดกับธรรมชาติได้
- ภารกิจอื่นๆ ที่support แนวคิดรักษ์โลกของแสนสิริ ที่ผ่านมามีการประกาศใช้นโยบายการลดการก่อขยะ และงดการใช้พลาสติกอย่างเด็ดขาด (Zero Waste) ภายในองค์กรด้วย
จนมาถึงโปรเจคล่าสุดที่แสนสิริได้ขยายสเกล ‘แหล่งโอโซน’ คนเมืองให้ใหญ่ขึ้น ด้วยการเชิญชวนทุกคนให้มาปลูกต้นไม้ให้ถึงแสนต้น ภายใต้ชื่อแคมเปญ ‘Sansiri Tree Day’ ปลูก “หนึ่ง” ให้ถึง “แสน” เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งตั้งเป้ารณรงค์ที่ 1 แสนต้นภายในบ้านหรือพื้นที่รอบตัว ซึ่งเทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยมากถึง 1,000 ตัน/ปีแล้ว
โดยนายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันว่า “กำลังเข้าสู่วิกฤตที่รอไม่ได้แล้ว และจะยิ่งแต่ทวีความรุนแรง หากไม่เกิดการเริ่มต้นลงมือทำจริงที่ตัวเรา โดยแสนสิริจะเดินหน้าสานต่อ Sansiri Green Mission ต้อนรับการเปลี่ยนแปลงสู่ทศวรรษใหม่ จึงขอเชิญชวนลูกบ้านและคนไทยมาเพิ่มพื้นที่สีเขียวรอบตัว ด้วยการปลูกต้นไม้คนละต้นในบ้านของคุณ กับแคมเปญประจำปี Sansiri Tree Day ที่จะจัดขึ้นในทุกอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมกราคม โดยจะเริ่มปีนี้เป็นปีแรก รวมพลังปลูก “หนึ่ง” ให้ถึง “แสน” เพื่อช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยมากถึง 1,000 ตัน/ปี ลดอุณหภูมิโลก-ฝุ่นควัน และสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเพื่ออนาคตและประชาคมโลกอย่างยั่งยืน”
เส้นทางการพัฒนาสู่โลกสีเขียวของ ‘แสนสิริ’ น่าจะพูดได้เต็มปากว่าไม่ใช่การ CSR อย่างที่เราเข้าใจกันมาตลอด แต่มันคือ ธรรมเนียมปฏิบัติจากรุ่นสู่รุ่นของคนในองค์กรที่เกิดขึ้นมานาน จนกลายมาเป็น DNA ฝังลึกแล้ว หากจะพูดว่าโมเดลของแสนสิริมีความน่าสนใจ และสามารถเอาเป็นโมเดลตัวอย่างได้ก็คงไม่ผิด เพราะในยุคที่เต็มไปด้วยภาวะอันตรายมากมาย แม้แต่อากาศที่เคยบริสุทธิ์ก็กลับกลายเป็นพิษต่อร่างกายได้
ดังนั้น การแก้ไขอาจไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่มันคือ ‘การปฏิวัติ’ ร่วมกันคนละม้ายคนละมือ ไม่ใช่หวังพึ่งแค่องค์กรเอกชนหรือภาครัฐที่ต้องทำ ในเมื่อโลกทั้งใบ อากาศทั้งมวลเป็นของเราทุกคน แล้วทำไมเราถึงไม่ผนึกกำลังกันสร้างโลกในอนาคตที่ยั่งยืนล่ะ?
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sansiri Tree Day ได้ที่: http://siri.ly/CnBIYM2
