เข้ามาในธุรกิจ Music Streaming ของไทย นานถึง 4 ปีแล้วสำหรับ “JOOX” นอกจากบทบาท “ผู้นำในธุรกิจ Music Streaming” ที่มียอดดาวน์โหลดแอปถึง 70 ล้านครั้งในไทย (สถิติปี 2562) ทำให้ JOOX ติดอันดับ 9 แอปพลิเคชันที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในประเทศไทย ทั้งยังอยู่ในอันดับ 10 ของแอปพลิเคชันที่ผู้บริโภคใช้จ่ายสูงสุดอีกด้วย
เมื่อประสบความสำเร็จสูงในระดับนี้แล้ว อะไรคือ “ความท้าทาย” สำหรับ JOOX ต่อการให้บริการในประเทศไทย ? นอกจากประเด็นที่ JOOX ต้องผลักดันให้ผู้ใช้ “ยอมควักกระเป๋า” จ่ายค่าสมาชิกที่เรียกว่า VIP แทนพฤติกรรมเดิมที่เป็นการ “ฟังฟรี” ซึ่งเป็นความท้าทายก้าวใหญ่ที่แบรนด์พบมาตั้งแต่เริ่มต้นให้บริการ กับพฤติกรรมการฟังเพลงของคนไทยด้านอื่น อาทิ…
– ปีที่ผ่านมา มียอดการฟัง JOOX ในประเทศไทยรวม 6,000 ล้านครั้ง
– คนไทยใช้เวลาฟังเพลงเป็นแนวโน้มเดียวกับทั่วโลก เฉลี่ย 80-100 นาทีต่อวัน
– ช่วงเวลาที่คนนิยมฟัง JOOX คือ “เช้า” และ “เย็น” ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดินทาง
– กลุ่มผู้ใช้ JOOX ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี (ประมาณ 70% ของผู้ใช้ทั้งหมด)
– วัย 35 ปีขึ้นไป เป็นช่วงอายุที่ฟังเพลงน้อยลง จึงเป็นตลาดที่ยังคงมีโอกาสสร้างการเติบโตได้อีกมาก
– สัดส่วนรายได้ของ JOOX มาจากการสมัครสมาชิก 50% และค่าโฆษณา 50%
“แม้จำนวนผู้ใช้งานที่สมัคร VIP จะยังแตกต่างจากกลุ่มที่ฟังฟรีอยู่เยอะ แต่เราก็คาดหวังการเติบโต 100% ในปีนี้ เพราะยอดสมัคร VIP ก็เติบโตราว ๆ 2 หลักทุกปี นอกจากนี้ความท้าทายอื่นก็อยู่ที่การขยายไปสู่กลุ่มผู้ฟังใหม่ ๆ และขยายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จในการขยายผู้ใช้ในภาคกลางและภาคใต้ในปีที่ผ่านมา”
คุณกฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้บริหาร JOOX ประเทศไทย เล่าและอธิบายว่า เป้าหมายของการทำธุรกิจ Music Streaming ของเราไม่ได้ทำเพื่อหาคนที่ยอมจ่าย VIP เพียงอย่างเดียว แม้ว่าจะยังต้องใช้เวลาศึกษาแนวทางที่เหมาะสมและทำให้ผู้ใช้สมัครสมาชิกมากขึ้น แต่เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับค่ายเพลง ศิลปิน เรามีดาต้าอยู่ในมือจากการให้บริการ ทำให้เราสามารถบอกพวกเขาได้ว่าแนวเพลงประเภทใดที่ผู้คนชื่นชอบหรือให้ความสนใจ สิ่งเหล่านี้ทำให้ JOOX เลือกพัฒนาโปรดักท์อย่างต่อเนื่อง
วางหมาก 3 กลยุทธ์ กับขวบปีที่ 5 ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ที่ JOOX จะใช้ในปีที่ 5 เพื่อสานต่อการเป็นแพลตฟอร์ม Music Streaming แบ่งเป็น 3 กลยุทธ์ คือ
การพัฒนานวัตกรรม : เพื่อสร้างประสบการณ์การฟังเพลงที่เหนือชั้น ทั้งการเพิ่มฟีเจอร์อย่างไลฟ์วิดีโอและคาราโอเกะ รวมทั้งขยายช่องทางการรับฟัง โดยปัจจุบันสามารถฟัง JOOX ได้จากสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ปัจจุบันเรายังได้มีการพัฒนาระบบ Machine Learning ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้เพื่อเลือกคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับความสนใจเฉพาะบุคคลของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
การสร้าง Original Content : เสิร์ฟคอนเทนต์เด็ดโดนใจและสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ ผ่านโปรเจกต์พิเศษสำหรับผู้ใช้ JOOX โดยมีการสนับสนุนศิลปิน รวมถึงศิลปินหน้าใหม่และศิลปินอินดี้ พร้อมจับมือกับพันธมิตรรายสำคัญ อาทิ GMM Grammy, RS, BEC Tero Music, Musik Move และ What the Duck รวมถึงคอนเทนต์นานาชาติที่ JOOX ได้มีการจับมือกับหลากหลายค่ายเพลงและศิลปินเช่นกัน พร้อมกับเน้นการทำ Podcast โดยได้จับมือกับผู้สร้าง Podcast มืออาชีพในเมืองไทยในการทำคอนเทนต์ที่หลากหลายและน่าสนใจ
การขยาย Community : ทั้งด้านออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเชื่อมโยงทุกโมเม้นต์ทางดนตรีให้เข้ากับการดำเนินชีวิตของคนในยุคดิจิทัล และการเชื่อมโยงคนในแวดวงต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อตอกย้ำการเป็นแอปคอมมูนิตี้สำหรับคนรักเสียงเพลงอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยมีการเปิดตัว JOOX Coins เพื่อสร้างออนไลน์คอมมูนิตี้ให้เติบโตซึ่งผู้ใช้สามารถสะสม Coin เพื่อนำไปแลกของต่าง ๆ เช่น โค้ด VIP หรือการซื้อกิฟท์ของขวัญเพื่อส่งให้ศิลปิน, KOL หรือผู้ใช้ทั่วไปที่มีช่องทางเป็นของตัวเองในหน้าคาราโอเกะ โดยผู้ที่ได้รับของขวัญสามารถนำมาเปลี่ยนเป็นรายได้ของตนเอง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน JOOX มีเครือข่าย KOL และศิลปินกว่า 100 คน ที่เข้าร่วมใน JOOX คาราโอเกะและไลฟ์ นอกจากนี้ยังสร้างคอมมูนิตี้ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่ JOOX จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี อาทิ JOOX World Music Day และ JOOX Thailand Music Award
อุตสาหกรรมดนตรีเติบโต! “Music Streaming” ขยับตัวตาม
ข้อมูลจาก IFPI Global Music Report 2562 ระบุว่า รายได้ของอุตสาหกรรมดนตรีทั่วโลกในปี 2018 มีมูลค่าถึง 19,100 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 9.7% จากปี 2017 ส่วนรายได้ในตลาดเพลงดิจิทัลทั่วโลกเติบโตกว่า 21% คิดเป็นมูลค่ารวมถึง 11,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 58.9% ของรายได้ในอุตสาหกรรมเพลงทั้งหมด
ส่วนตลาด Music Streaming เติบโตขึ้นถึง 34% คิดเป็นมูลค่า 8,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ Music Streaming ที่มีการเก็บค่าบริการเติบโตถึง 32.9% นอกจากนี้การเติบโตของผู้ใช้งาน Music Streaming ในอายุ 35 ปีขึ้นไป ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“JOOX” ยังเติบโตดีทั้ง 5 ประเทศ “โปรเจกต์พิเศษ” ช่วยกระตุ้นยอดฟัง
ในปีที่ผ่านมา JOOX ยังคงประสบความสำเร็จอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมียอดผู้ใช้งานถึง 290 ล้านราย ภายใต้ 5 ประเทศที่ให้บริการ ได้แก่ ไทย พม่า อินโดนิเซีย มาเลเซีย และฮ่องกง โดยมียอดการฟังรวม 15,000 ล้านครั้ง
นอกจากนี้ ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา JOOX ได้รวบรวมเพลงใหม่กว่า 950 เพลง ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเพลงประเทศไทยมาให้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพลงจากต่างประเทศ ส่งผลให้ปัจจุบัน JOOX มีเพลงในแอปพลิเคชันรวมกว่า 30 ล้านเพลง รวมถึงเพลงในโปรเจกต์พิเศษที่ทำร่วมกับค่ายเพลงต่าง ๆ ให้ฟังได้เฉพาะที่ JOOX เท่านั้น โดยเพลงพิเศษเหล่านี้ถือเป็นการจับเทรนด์กระแสความนิยมหรือความชื่นชอบของผู้ฟังเพลงมาทำเป็นคอนเทนต์ที่ตรงใจ ทำให้ในปีที่ผ่านมามียอดการฟังในโปรเจ็กต์พิเศษของ JOOX ถึง 284 ล้านครั้ง
ทั้งนี้ JOOX ยังเอาใจแฟน K-POP ด้วยการ Live Streaming ศิลปินจากเกาหลีใต้ ซึ่งมียอดการรับชมในปีที่ผ่านมาถึงกว่า 6 ล้านครั้ง และยังมี JOOX Karaoke ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าจับตามองของ JOOX โดยมีจำนวนผู้ชมหรือฟัง JOOX Karaoke เป็นจำนวนถึง 2 ล้านคน และสิ่งที่ขาดไม่ได้ของทุกปี คือ กิจกรรมที่ JOOX จัดขึ้นเพื่อเชื่อมต่อประสบการณ์จากออนไลน์สู่ออฟไลน์ อย่าง JOOX Thailand Music Award ที่ปัจจุบันกลายเป็นงานประกาศรางวัลทางดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน และยอดชมบรรยากาศงานถึงกว่า 1 ล้านครั้งและ คอนเสิร์ต Thailand Top 100 ที่มีผู้เข้าร่วมงานถึงกว่า 12,000 คนในปีที่ผ่านมา
