เมื่อเทรนด์ดิจิทัลติดลมบน แน่นอนว่าการตลาดออนไลน์ก็โดดเด่นตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงการใช้ Influencer ประเด็นนี้ไม่มีตัวเลขมายืนยันก็คงเห็นกันอยู่แล้ว แต่จะให้ดี…คงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญในสนาม Influencer จาก Tellscore (บริษัท เทลสกอร์ จำกัด) ผ่าน 2 ผู้บริหารอย่าง คุณสุวิตา จรัญวงศ์ ประธานบริหาร และคุณอภัศรา ซิการี่ โกศัลวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ Tellscore เกี่ยวกับทิศทางอุตสาหกรรมดิจิทัลและแนวโน้มการตลาดกับ Influencer ที่เติบโตอย่างน่าสนใจ
แม้ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อปี 2563 จะมีมูลค่าลดลงถึง 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่สื่อออนไลน์เป็นเพียงสื่อเดียวที่เติบโต ประเด็นนี้ คุณอภัศรา แสดงความเห็นว่า ปีนี้สื่อดิจิทัลเติบโต 12% แม้จะเติบโตแต่ก็ลดลงจากเดิมที่เคยเติบโตเฉลี่ย 12.5% ทุกปี แต่สิ่งที่น่าสนใจคือสาย Influencer ที่ปีนี้ขยับขึ้นถึง 30% จากปีก่อน
เพราะ Influencer ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น ‘ภาคบังคับ’
ต่อเนื่องจากประเด็นเม็ดเงินกับสื่อโฆษณา คุณอภัศรา เล่าว่า เทรนด์การใช้ Influencer ไม่ได้เป็นแค่ทางเลือกสำหรับนักการตลาดอีกต่อไป เพราะกลายเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องใช้ เนื่องจากเทรนด์การรีวิวก็เปลี่ยนไปเป็นการบอกความจริง พูดตรงไปตรงมา ไม่ใช่เน้นขายสินค้ามาก ๆ เหมือนในอดีต ทำให้เข้าถึงใจผู้บริโภคมากกว่าและพวกเขาก็ชื่นชอบการรีวิวลักษณะนี้มากกว่าการดูโฆษณา จากเทรนด์นี้ทำให้ Tellscore เพิ่งเปิดตัว Tellscore Shop กับบทบาท Influencer คอมเมิร์ซ เพื่อให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซครบวงจรพร้อมรีวิวจาก Influencer สร้างโอกาสให้แบรนด์และขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนจากการทำหน้าร้านออนไลน์และมีรีวิวจาก Influencer ให้ด้วย
การรีวิวสินค้าของ Influencer ในเครือข่าย Tellscore จะมีการอบรมด้านจริยธรรมการสื่อสารด้วยเพื่อเน้นการสื่อสารอย่างจริงใจและเหมาะสม ซึ่งในยุคที่ทุกคนสามารถเป็น Influencer ได้ เราจึงมีการอบรมให้พวกเขา Upskill – Reskill เพื่อตอบโจทย์การขายสินค้าได้ดีขึ้น เช่น สอนเทคนิคการไลฟ์ รวมถึงมี Acdemy สอนทำคอนเทนต์ในเชิงพาณิชย์ และมีโครงการ CSR ในชื่อ G-Youth ที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ สร้างความเข้าใจเรื่องการสร้างคอนเทนต์อย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม
“เพราะเราพยายามทำความเข้าใจตลาดตลอดเวลา Tellscore จึงไม่ได้มีเป้าหมายแค่การเป็นมีเดีย หรือแพลตฟอร์ม Influencer หรือเครื่องมือการทำตลาด แต่ตอนนี้เรากำลังจะเป็นอีกช่องทางเพื่อธุรกิจ เพื่อสนับสนุนโอกาสการขายด้วย”
ขณะที่ คุณสุวิตา บอกว่า การที่แบรนด์ใช้คนดัง บุคคลที่มีชื่อเสียงช่วยทำตลาด คือ การมองหาแบรนด์แอมบาสเดอร์ แต่ใช้ Influencer เพื่อสร้างการรับรู้ ซึ่งปัจจุบันแบรนด์นิยมใช้ทั้ง 2 รูปแบบ ทั้งยังเห็นเทรนด์ใหม่เช่นการใช้ Influencer เฉพาะกลุ่มมากขึ้น เพื่อทำให้การทำตลาดและการเข้าถึงผู้บริโภคเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับเสน่ห์ของ Influencer ก็มีหลายด้าน เช่น มีโซเชียลมีเดียของตนเองเป็นฟรีแพลตฟอร์มเพื่อนำเสนอคอนเทนต์, ทำคอนเทนต์แบบ Tailor Made ทุกชิ้น, เป็นตัวแทนของแบรนด์ในการสื่อสารกับแฟน ๆ และผู้ติดตาม, มีเสน่ห์จากการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะกลุ่มที่ตนเองเชี่ยวชาญ เป็นต้น
“เม็ดเงินในอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้หายไป เพราะ COVID-19 ทำให้แบรนด์ตัดสินใจไม่ใช้เงิน แต่สถานการณ์ตอนนี้แบรนด์เริ่มกลับมาใช้จ่ายกับสื่อแล้ว และแนวโน้มที่ผู้คนอยู่บนออนไลน์มากขึ้นก็ยิ่งทำให้แบรนด์มองสื่อออนไลน์และทุ่มให้การตลาดดิจิทัลที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่า สะท้อนจากเม็ดเงินตลาด Influencer ในปีนี้ ซึ่งแนวโน้มจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป”
ถึงเวลาขยายเป้าหมาย ‘Tellscore’
คุณสุวิตา พูดถึงเป้าหมายของ Tellscore ว่า เรายังคงเน้นการเป็นสื่อทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ เป็นส่วนส่งเสริมธุรกิจให้เติบโต มีความปลอดภัยและมีจริยธรรมแม้จะใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือทำตลาด ให้ความสำคัญมากกว่าแค่ประเด็น Brand safety ด้วยการคัดกรอง Influencer ให้เหมาะสมกับบทบาทผู้นำเครือข่าย แต่ไม่ใช่แค่จำนวน Influencer ที่เรามีถึง 45,000 คน ทั้งในกลุ่มหลักและ Niche เช่น แม่และเด็ก ช่าง แพทย์-พยาบาล อีสปอร์ต นักพากษ์ สายเต้น เป็นต้น แต่เรายังมีซอฟต์แวร์ End-to-End รวมถึงโปรแกรมอบรม Influencer ให้ความรู้แก่นักศึกษาและมหาวิทยาลัยที่สนใจ เรียกว่าให้ความสำคัญกับทุกฝ่ายตั้งแต่ Influencer ลูกค้า และสังคม จนเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Tellscore ในการมีอีโคซิสเต็มส์ครบตั้งแต่การจ้างงาน คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสม ชำระเงิน และจัดการขั้นตอนทั้งหมด
จับตาธุรกิจเลือกทำตลาดแบบเจาะจง
คุณสุวิตา เปิดเผยว่า ตอนนี้ทุกอุตสาหกรรมล้วนมองและใช้เม็ดเงินกับการทำตลาดผ่าน Influencer แต่ธุรกิจที่เห็นอย่างชัดเจน คือ กลุ่มความงาม และสินค้า FMCG เนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงต้องการตัวแทนที่จะสื่อสารกับผู้บริโภคแทนแบรนด์ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือแบรนด์ไม่ได้มองหาแค่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ใช้ผลิตภัณฑ์อยู่แล้วแต่มองถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ด้วย ทำให้เกิดเทรนด์การใช้ Influencer แบบเจาะจงกว่าเดิม ดังนั้น Influencer จึงต้องนำเสนอความครีเอทีฟของตัวเองออกมาให้เข้ากับการเป็นตัวแทนแบรนด์ ซึ่งตอนนี้แบรนด์ทั่วไปก็เข้าใจหลักการใช้ Influencer ได้ดีขึ้นแล้ว เราทำหน้าที่เพียงแนะนำว่าตอนนี้มี Influencer สายใดบ้างเท่านั้น
ขณะที่ คุณอภัศรา มองว่า โจทย์การใช้ Influencer ของแบรนด์ตอนนี้เป็นหน้าที่ของแบรนด์ว่าจะสื่อสารกับคอนซูเมอร์อย่างไร ต้องพูดอย่างไร จึงทำให้เกิดโอกาสซื้อ ขณะที่ Influencer ต้องเพิ่มสกิลของตัวเองและต้องกล้าทำในสิ่งแปลกใหม่ไม่ยึดติดแค่ความเชี่ยวชาญที่ทำมาตลอด เช่น เป็นสายความงามที่ออกเดินทางท่องเที่ยว มีกิจกรรมกับครอบครัว หรือลองกินเมนูแปลกใหม่ เป็นต้น แต่ที่สำคัญคือต้องพร้อมทำคอนเทนต์ขายสินค้า
ครั้งแรกของงานมอบรางวัล Influencer ที่เปิดกว้าง ให้เสนอชื่อเข้าชิง!
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 พ.ย.นี้ จะมีงาน Thailand Influencer Awards 2020 Presented by Tellscore มอบรางวัลให้กับ Influencer แบรนด์ และ G-Youth ที่สร้างแรงกระเพื่อมทางความคิด มีพลัง วัดผลได้ เป็นที่ยอมรับในสังคม รวมถึงการมีคอนเทนต์ที่ดี สร้างสรรค์ มีสำนึกที่ดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น รวม 25 รางวัล ในหมวดต่าง ๆ เช่น Best Beauty & Fashion Influencer, Best Foodie Influencer, Best Motorsports Influencer, Best Silver Influencer, Best Storytelling Influencer, Best Rising Star on Facebook, Best Rising Star on Instagram, Best Rising Star on Twitter, Best Rising Star on Youtube, Best Rising Star on Tiktok, Best Influencer Community, Best Youth Influencer
โดย คุณสุวิตา เล่าเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ Thailand Influencer Awards by Tellscore เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เสนอชื่อผู้เข้าชิงโดยไม่จำกัดอยู่แค่ Influencer ในเครือข่ายของ Tellscore เท่านั้น โดยพิจารณาจากตัวชี้วัดทางคุณภาพหลายปัจจัยไม่ใช่เพียงจำนวนผู้ติดตามหรือการเป็นที่รู้จัก พร้อมด้วยคณะกรรมการตัดสินรางวัลที่มาจากหลากหลายแวดวงทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และองค์กรที่คุ้นเคยกับการตลาดและสื่อ เพื่อสร้างความยั่งยืนในแวดวง Influencer
