เมื่อ “แจ็ค หม่า” และ “เมลินดา เกตส์” เห็นตรงกันว่า “ยุคดิจิทัลเพิ่งจะเปิดฉากขึ้น”

  • 2.7K
  •  
  •  
  •  
  •  

หากใครได้ฟังมุมมองและวิสัยทัศน์ของ แจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา และ เมลินดา เกตส์ ภรรยาของบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ เมื่อคืน (10 มิถุนายน 2562) ผ่านรายการสดของ UN “Digital Cooperation” ก็จะเข้าใจว่าอนาคตไม่ใช่เรื่องที่ใครจะรู้ดีกว่าใคร ทั้งสองคนเห็นตรงกันว่ายุคดิจิทัลมันเพิ่งจะเริ่มต้น

ว่าแต่สองคนนี้คุยเรื่องอะไรบ้าง เรามาสรุปประเด็นกัน

ถามถึงเรื่องอนาคตการร่วมมือในทางเทคโนโลยี

Melinda Gates: อนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอน สิบกว่าปีที่แล้ว ไม่มีใครคิดว่าจะมีโทรศัพท์ที่ทำได้มากกว่าโทรเข้าโทรออก แถมอยู่ในกระเป๋าเราได้อีก

Jack Ma: 25 ปีที่แล้วเทคโนโลยีไม่ได้มีอิทธิพลมากเท่าตอนนี้ ผมไม่ใช่คนไฮเทค ผมใช้คอมฯรับส่งอีเมลเท่านั้น – ฉันไม่เชื่อหรอก – Melinda Gates (ฮา)

“เรื่องเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ต้องคุยต้องถกเถียงกันให้เห็นมุมมองที่ต่างกัน เพราะไม่มีรัฐบาลหรือองค์กรไหนที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้จริงๆ”

 

Jack Ma: เพราะแต่ละประเทศ แต่ละฝ่ายกังวลเรื่องเทคโนโลยีไม่เท่ากัน ผมคิดว่ายิ่งเราไม่เห็นด้วยกับการใช้เทคโนโลยีในประเด็นไหนก็ตาม ประเด็นนั้นยิ่งสำคัญ ไม่มีใครเป็นกูรูเกี่ยวกัยอนาคตหรอก

พูดถึงเรื่องความปลอดภัยกับ AI  

Jack Ma: รู้หรือเปล่าว่าแต่ละวันมีคนโจมตีอาลีบาบาทางไซเบอร์กว่า 3 ล้านครั้ง แต่เราให้ AI ซึ่งย่อมาจาก Alibaba Intelligence มาจัดการ

“ผมมักจะบอกกับคนที่คอยป้องกันเหตุร้ายทางไซเบอร์ว่า คนเราถ้าจะรักใครสักคน มันไม่มีเหตุผลหรอก แต่เวลาเราเกลียดใครสักคน เราหาเหตุผลร้อยแปดเพื่อเกลียดคนนั้นให้ได้ ฉะนั้น ถ้าอยากให้ AI จัดการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ เราก็สอนให้ AI รู้จักและจับพฤติกรรมที่เป็นภัยต่ออาลีบาบาแค่นั้นเอง”

 

Melinda Gates: สิทธิในความเป็นส่วนตัวควรเป็นของทุกคนตั้งแต่ต้น ฉะนั้นถ้ามองย้อนกลับไป ไม่ใช่แค่ AI เท่านั้นที่จะต้องมีมาตรฐานในการใช้งาน แต่เทคโนโลยีที่มีมาก่อนหน้านี้ แต่ละฝ่ายก็กำหนดมาตรฐานการใช้งานเหมือนกัน ฉะนั้นการที่เรากลัวเทคโนโลยีอย่าง AI อาจจะเป็นเรื่องที่เกินจริงไปหน่อยก็ได้

ถามถึงเรื่องบทบาทของผู้หญิง คนด้อยโอกาสกับเทคโนโลยี

Melinda Gates:  เชื่อหรือไม่ว่าน้อยกว่า 6% ของผู้หญิงทั้งโลกเข้าถึงแหล่งเงินทุนระดับ VC (Venture Capital)  เพื่อเอาไปทำธุรกิจ ผู้หญิงไม่ใช่แค่เข้าถึงแหล่งเงินทุน แต่เข้าถึงอินเตอร์เน็ต ข้อมูลข่าวสาร ให้ทุกคนเข้าถึงความปลอดภัย บริการสุขภาพ วัคซีน การศึกษา งานประจำ

Jack Ma: ผมว่าเราต้องช่วยให้ธุรกิจเล็กๆเติบโต ให้คนหนุ่มสาวได้มีงานทำ ถ้าเราส่งเสริม คนพวกนี้ก็จะมีแรงคิดมีแรงสร้างสรรค์ให้กับบริษัทของเราได้ โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะผมเชื่อว่าผู้หญิงจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ เราไม่ได้แข่งโดยใช้พละกำลังกัน ฉะนั้นเราต้องวางภาพลักษณ์ว่าผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิงลง ให้ผู้หญิงได้แข่งกันในด้านสติปัญญากันดีกว่า

Melinda Gates:  จริง ลองคิดดูว่าเดี๋ยวนี้ผู้หญิงทำธุรกิจได้ผ่านมือถือเครื่องเดียว โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบริษัท เวลาเราค้าขายกับพ่อค้าคนกลางแล้วมาตัดราคาเรา เราก็จะมีอำนาจต่อรองมากขึ้น เพราะเราแค่เปิดมือถือดูว่าราคาจริงๆมันเท่าไหร่? ถ้าราคาสูงกว่าเราจะยอมทำไม

“40% ของคนทั้งหมดในโลกมีแนวโน้มที่ไม่ได้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากพอ ฉะนั้นการทำให้เทคโนโลยีใช้ง่าย เข้าถึงง่ายก็เป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ เราเชื่อว่าการช่วยให้ผู้หญิงและคนอื่นๆเข้าถึงเทคโนโลยี จะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันมากขึ้น และตามทันคนที่มีโอกาสมากกว่าได้”

 

Jack Ma: คุณรู้หรือไม่ว่า เดี๋ยวนี้คนอยากจะกู้ยืมเงินนั้นสามารถทำได้แล้วไม่ถึง 3 นาที เทียบกับแต่ก่อนที่ต้องผ่านธนาคาร ฉะนั้นคนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ไม่กลัวกันแล้วว่าไม่มีเงินใช้ การเข้าถึงเงินทุนจึงสร้างโอกาสและความเท่าเทียมกันให้กับสังคมได้ การศึกษาเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ทุกวันนี้เราสอนเราเรียนกันผิดๆ ให้ท่องจำตำรา ใครคิดเลขได้ถูกมากกว่าเร็วกว่า แต่วันนี้เราต้องทบทวนว่าการศึกษาแบบนี้ทำให้เด็กรับมือกับเทคโลโลยีได้จริงหรือเปล่า

“ทุกวันนี้เครื่องจักรทำได้เหมือนอย่างที่คนทำ แต่การศึกษายังสอนให้คนทำได้เหมือนอย่างเครื่องจักร”

บอกแล้วว่ายุคดิจิทัลเพิ่งกำลังจะเริ่มต้นขึ้น สิ่งที่ยากที่สุดคือทำอย่างไรให้แต่ละฝ่าย แต่ละประเทศมาคุยและแชร์โซลูชัน หาวิธรแก้ไขปัญหากันนั่นเอง

 

อ้างอิงจาก www.facebook.com/UNWebTV/videos/371332507073107/


  • 2.7K
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th