จาก ‘ลูกอม’ สู่ ‘สกินแคร์’ ก้าวที่ท้าทายของ ‘โอเล่’ ในรอบ 50 ปี

  • 2.8K
  •  
  •  
  •  
  •  

ที่ผ่านเราอาจคุ้นเคยกับ ‘โอเล่’ (OLE) ในฐานะแบรนด์ลูกอม แต่วันนี้แบรนด์ดังกล่าวได้สร้างความท้าทายครั้งใหม่ในรอบ 50 ปี ด้วยการแตกไลน์โปรดักท์สู่สกินแคร์ เพื่อขอเติบโตในเซ็กเม้นท์ใหม่ที่แม้จะแข่งขันดุเดือด แต่โอกาสทางธุรกิจก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

สำหรับเหตุผลที่ทำให้โอเล่กระโดดเข้ามาในสนามที่รู้ว่า ‘เสี่ยง แต่ยังอยากขอลอง’ หลัก ๆ มาจาก

1.ตลาดสกินแคร์เป็นตลาดที่เติบโตน่าสนใจและยังโตต่อเนื่อง เห็นได้จากข้อมูลจากยูโรมอนิเตอร์พบว่า มูลค่าตลาดความงามไทยมีมูลค่าอยู่ราว 1.92 แสนล้านบาท เติบโต 7.3% โดยสกินแคร์ หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีสัดส่วนอยู่ที่ 45% มีมูลค่า 8.65 หมื่นล้านบาท โต 7.9%

2.การเห็นโอกาสของเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาดสกินแคร์ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นั่นคือ เดิมทีการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคจะยึด functional หรือคุณสมบัติของสินค้า เช่น ผิวขาว , เพิ่มความชุ่มชื่น ฯลฯ แต่ตอนนี้เป็นเรื่อง enjoyment การสร้างความรู้สึกสนุก มีความผ่อนคลายจากกลิ่นและเนื้อสัมผัสของตัวโปรดักท์ ซึ่งเทรนด์ดังกล่าว เริ่มมาแรงในต่างประเทศ

3.ต้องการสร้างการเติบโตของแบรนด์โอเล่ในเซ็กเม้นท์ใหม่ ๆ ตามกระแสของธุรกิจ FMCG โดยเฉพาะกลุ่ม Food and beverage ที่ตอนนี้มีการ crossover สู่ธุรกิจใหม่มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่ม value ให้กับแบรนด์ของตัวเอง ตัวอย่างที่ชัดเจน ก็คือ กรณีของ coca cola ที่มีการผลิตลิปสติกที่สามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดและผู้บริโภคได้ดี

ชูซิกเนเจอร์ กลิ่นสตอร์เบอรี่’ เป็นจุดขาย

การเปิดตัวโปรดักท์แบบข้ามสายพันธุ์ครั้งนี้ โอเล่ ใช้เรื่อง ‘กลิ่นสตอร์เบอรี่’ ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาเป็นจุดขาย มีด้วยกัน 4 โปรดักท์ ได้แก่ บิงซูครีม มือ&ผิว , เจลอาบน้ำ , ที่ทำความสะอาดมือ และ ม็อกเทลสเปรย์ ผม&ผิว

 

 

ส่วนกลุ่มเป้าหมายหลักนั้น วางเป็นผู้หญิง อายุ 18-25 ปี ในกลุ่ม Urban ที่ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้สกินแคร์เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีพฤติกรรมชอบลอง และเปิดรับอะไรใหม่ ๆ ได้ง่าย

“ตลาดนี้ในไทยยังใหม่และไม่มีแบรนด์ใดยึดพื้นที่ชัดเจน เราถึงมองเป็นโอกาสที่เข้าไป โดยเอากลิ่นสตอเบอรี่ที่เป็นซิกเนเจอร์ของเรามาเป็นจุดขาย เนื้อของโปรด็กท์ก็สร้างความแตกต่าง เช่น บอดี้ครีม บิงซูให้ความรู้สึกเย็นนิดๆ นอกจากการโตในเซ็กเม้นท์ใหม่แล้ว เรายังต้องการขยายตลาดสู่คนรุ่นใหม่กลุ่ม Urban ที่ทางโอสภสภายังจับน้อยอยู่” พัชราภรณ์ สุระประเสริฐ Head of Personal Care Marketing and Innovation บริษัท โอสถสภา จำกัด(มหาชน) เล่าให้ Marketing oops! ฟัง

ความท้าทายครั้งใหม่ในรอบ 50 ปี

สกินแคร์ ภายใต้แบรนด์โอเล่ ได้วางจำหน่ายไปเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ผ่านช่องทาง โมเดิร์นเทรด อาทิ 7-Eleven , ท็อปส์ และเทสโก้ โลตัส ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการโปรโมทผ่านทางสื่อแมส แต่ที่ผ่านมามีกระแสพูดถึงบนโลกโซเชียลจากผู้บริโภคว่า รู้สึกตื่นเต้น และเมื่อได้ทดลองก็รู้สึกถึงเอกลักษณ์

“การตลาดของเราเริ่มจากตัวโปรดักท์ที่แตกต่างในเรื่องจุดขาย แพ็กเกจจิ้ง การดิสเพลย์ที่ชั้นวาง ส่วนในอนาคตเตรียมจะทำการตลาดผ่านดิจิทัล และโซเชียล มีเดีย รวมถึงมีแผนจะขยายช่องทางขายทางอีคอมเมิร์ซเพิ่มเติม”

ส่วนคำถามที่ว่า ตั้งเป้าหรือคาดหวังอย่างไรกับการลุยตลาดใหม่อย่างสกินแคร์ของโอเล่

ทางพัชราภรณ์บอกว่า ต้องรอดู feedback อีกสักระยะ แต่ยอมรับว่า การแตกไลน์โปรดักท์ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้แบรนด์โอเล่มีความทันสมัยมากขึ้น รวมไปถึงเป็นการนำแบรนด์เข้าใกล้และสร้างลอยัลตี้กับผู้บริโภครุ่นใหม่อีกรอบ เพราะแบรนด์ก็อยู่ในตลาดมานาน 50 ปี ซึ่งมีความท้าทายไม่น้อย


  • 2.8K
  •  
  •  
  •  
  •