AI เพิ่มสมรรถนะประสบการณ์แก่ผู้ขับอย่างไร นิสสัน มีคำตอบด้วย B2V ไฮเทคถอดรหัสสมองตรวจจับการขับขี่

  • 122
  •  
  •  
  •  
  •  

ยานยนต์ไร้คนขับหรือ autonomous vehicle คือเทคโนโลยีเป้าหมายหนึ่งที่ค่ายรถยนต์ต่างมุ่งมั่นพัฒนา ด้วยปัจจัยจากแนวโน้มของตัวเทคโนโลยีเอง และแรงผลักดันจากบริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีและผู้ให้บริการด้านการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็น Google หรือ Uber ซึ่งค่ายรถยนต์ต่างตระหนักดีกว่าหากเพิกเฉยต่อเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว พวกเขาจะต้องพลาดโอกาสและพ่ายแพ้ในเกมการแข่งขัน ที่นับวันจะมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ

Consumer Electronic Show (CES) 2018 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นแนวโน้มเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ไปได้อย่างชัดเจน ไม่เพียงเฉพาะแวดวงคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ครอบคลุมเกี่ยวข้องทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมืออุปกรณ์เทคโนโลยี ตัวช่วยในชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

001

001.1

New Nissan LEAF รถยนต์ไฟฟ้า 100% ยานยนต์อัตโนมัติ เทคโนโลยีผ่อนคลายความตึงเครียดของผู้ขับขี่

ในขณะที่หลายค่ายกำลังปลุกปั้นนวัตกรรมของตนในโลกของเทคโนโลยี driverless vehicle ค่ายญี่ปุ่นอย่าง นิสสัน มอเตอร์ คอร์เปอร์เรชั่น พัฒนาก้าวข้ามไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Brain-to-Vehicle (B2V) ซึ่งเป็นประสบการณ์แบบอินเตอร์แอ็คทีฟ ที่ช่วยทำให้ปฏิกริยาตอบสนองของผู้ขับขี่รวดเร็วขึ้น สามารถควบคุมการขับขี่ได้ดีมากขึ้น โดยเทคโนโลยี B2V เป็นผลจากการค้นคว้าวิจัยการใช้เทคโนโลยีถอดรหัสสมองของมนุษย์ (brain decoding) เพื่อคาดการณ์การกระทำและตรวจจับความกังวลของผู้ขับขี่

ดร.ลูเซียน กอร์เก นักค้นคว้าวิจัยด้านนวัตกรรมอาวุโส และหัวหน้าโครงการ B2V ศูนย์วิจัยยานยนต์นิสสันในประเทศญี่ปุ่นอธิบายว่า ฟังก์ชั่นการทำงานหลัก 2 ประการของ B2V คือการคาดการณ์ (predict) และการตรวจจับ (detect)

CES 2018 Show Floor - Photo 37(1)

ดร.ลูเซียน กอร์เก นักค้นคว้าวิจัยด้านนวัตกรรมอาวุโส และหัวหน้าโครงการ B2V ศูนย์วิจัยยานยนต์นิสสันในประเทศญี่ปุ่น

โดยจับสัญญาณสมองก่อนที่ผู้ขับขี่จะลงมือทำการต่างๆ เช่น หมุนพวงมาลัย หรือเหยียบคันเร่ง เทคโนโลยีที่เปรียบเสมือนตัวช่วยของผู้ขับขี่ จะทำให้การกระทำนั้นเกิดได้รวดเร็วขึ้น ถือเป็นการช่วยเร่งปฏิกริยาตอบสนองของผู้ขับขี่ และทำให้สามารถขับขี่ได้ดีมากยิ่งขึ้น ส่วนการตรวจจับทำโดยการประเมินความกังวลของผู้ขับขี่ โดยใช้ Artificial Intelligence (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์เข้าช่วย สามารถเปลี่ยนลักษณะและรูปแบบการขับขี่ได้เมื่อยู่ในโหมดขับขี่อัตโนมัติ

นิสสันได้สาธิตเทคโนโลยี B2V ในงาน CES เมื่อเร็วๆ นี้ โดยผู้ขับขี่ต้องสวมใส่เครื่องจับการทำงานของสมอง (ลักษณะเป็นอุปกรณ์ตัวหนึ่งติดที่ศีรษะ) ซึ่งจะทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบขับขี่อัตโนมัติ โดยระบบสามารถสั่งให้ยานยนต์ทำงาน เช่น หมุนพวงมาลัย หรือชะลอความเร็วของรถได้อย่างนิ่มนวลและรวดเร็วขึ้นในระยะ 0.2-0.5 วินาที โดยพิจารณาจากความคิดที่เกิดขึ้นของผู้ขับขี่

“สิ่งที่ B2V สามารถทำได้เป็นเรื่องที่น่าเหลือ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เทคโนโลยีที่อ่านความคิดคน แต่ B2V ช่วยทำให้ interaction ระหว่างคนขับกับรถยนต์ดีขึ้น และงานวิจัยนี้จะเป็นตัวเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ในยานยนต์ของนิสสันต่อไปในอนาคต” ดร.ลูเซียนกล่าว

B2V อาจจะฟังดูเป็นโลกอนาคต ดร.ลูเซียนกล่าวว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะต้องเชื่อมโยงกับรูปแบบที่ก้าวหน้าของยานยนต์ไร้คนขับซึ่งนิสสันจะนำเสนอต่อผู้ใช้ ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่เกิน 5 ปี

แต่ในขณะเดียวกัน นิสสันก็ไม่ได้นั่งรอดูผลสำเร็จของงานวิจัยเทคโนโลยี B2V เพียงอย่างเดียว ตราบใดที่ผู้คนยังต้องการเดินทางและรถยนต์เป็นพาหนะที่สำคัญตัวหนึ่ง ตลาดออโต้จึงไม่เคยหยุดนิ่งหรือแม้แต่ชะลอตัว

New Nissan LEAF รถยนต์ zero emission ระบบไฟฟ้า100 เปอร์เซ็นต์ โดยเจเนอเรชั่นใหม่ของ LEAF ได้รับการพัฒนาและถือเป็นโมเดลที่นิสสันตอบโจทย์ “Intelligent Mobility” ของนิสสันชัดเจน

01

ทุกส่วนการทำงานของรถไฟฟ้า 100% New Nissan LEAF ทันสมัย เรียบง่าย ประหยัดพลังงาน และปลอดภัย 

โดย LEAF รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี ProPILOT และ ProPILOT Park ที่ช่วยควบคุมการขับขี่บนทางด่วนอย่างปลอดภัย ระบบพวงมาลัย คันเร่ง เบรค และการเปลี่ยนเกียร์แบบนำทางอัตโนมัติในขณะจอด วิวัฒนาการล้ำอีกด้านหนึ่งของ LEAF ผ่านระบบ e-Pedal คือช่วยลดความตึงเครียดแก่ผู้ขับขี่ ด้วยตัวช่วยในการสตาร์ท เร่ง หรือลดความเร็ว และจอดผ่านคันเร่งของรถยนต์อัตโนมัติ การเข้าโค้งที่หนักแน่น ที่สำคัญคือ เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติของรถยนต์รุ่นนี้ สามารถขับขี่ได้ทั้ง 2 โหมด คือระบบ manual และระบบอัตโนมัติ

สาธิต

“Brain-to-Vehicle” เทคโนโลยีถอดรหัสสมองมนุษย์เพื่อคาดการณ์การกระทำ สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นแก่ผู้ขับขี่

รถไฟฟ้า

New Nissan LEAF สามารถชาร์ตแบตเตอรี่จากไฟบ้านได้ (ภายในงานกำลังชาร์ตแบตจากเครื่องต้มกาแฟ)

“จากการสำรวจของนิสสัน พบว่าการที่ลูกค้าต้องการจะซื้อรถยนต์สักคัน เมื่อระบบยานยนต์ไร้คนขับสมบูรณ์เต็มที่เกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งาน ตัวลูกค้าเองก็ยังต้องการเป็นผู้ควบคุมรถยนต์อยู่ดี นวัตกรรมต่างๆ ที่นิสสันคิดค้นขึ้น เราก็ต้องการให้ลูกค้าเป็นผู้ควบคุมยานยนต์ของตน” มร.แดเนียล สกิลลาชี รองประธานบริหาร ฝ่ายการขายและการตลาดทั่วโลก และประธานคณะกรรมการบริหารธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ประเทศญี่ปุ่น ภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ คอร์เปอร์เรชั่นกล่าว

CES 2018 Show Floor - Photo 25

มร.แดเนียล สกิลลาชี รองประธานบริหาร ฝ่ายการขายและการตลาดทั่วโลก และประธานคณะกรรมการบริหารธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ประเทศญี่ปุ่น ภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ คอร์เปอร์เรชั่น 

2

ทดสอบรถขับออกจากตัวเมืองลาส เวกัส เพียงสิบกว่านาที ทัศนียภาพของ Red Rock Mountain ก็ทำให้บรรยากาศแตกต่างกันลิบลับ


  • 122
  •  
  •  
  •  
  •