วิทวัส ชัยปาณี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย เผยว่า อุตสาหกรรมโฆษณาในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาอยู่ในสภาพติดลบ ผลมาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ได้เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาสสามปีนี้ หลังจากสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และประเมินว่าการชุมชนของกลุ่มเสื้อแดง ในวันที่ 30 ส.ค. นี้ จะไม่ยืดเยื้อ โดยรัฐบาลเตรียมการตั้งรับการชุมนุมได้ดีขึ้น จากการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง
“หากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงไม่ยืดเยื้อ และจบภายในวันเดียว และหากสามารถรัฐบาลแก้เกมได้ดี หลังจากนี้เชื่อว่าการเมืองจะนิ่ง และเข้าสู่ภาวะปกติ สร้างความมั่นใจให้ภาคเอกชน กลับมาลงทุนอีกครั้ง” วิทวัส กล่าวและว่า แม้จะมีเหตุการณ์ยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ ก็จะไม่กระทบกับอุตสาหกรรมโฆษณาในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้
ภาคเอกชนได้เริ่มใช้งบการตลาดตั้งแต่ไตรมาส 3 หลังจากชะลอมานาน ขณะนี้ภาครัฐเริ่มใช้งบประมาณผ่านสื่อในช่วงนี้เช่นกัน เพราะเป็นช่วงปิดปีงบประมาณ 2552 ซึ่งพบว่ามีหลายโครงการภาครัฐที่ใช้งบประมาณสูง โครงการละ 200-300 ล้านบาท เช่น ไทยเข้มแข็ง ครีเอทีฟ อีโคโนมี เป็นต้น เฉพาะช่วงครึ่งปีหลังนี้มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
ดังนั้นจึงเชื่อว่าไตรมาส 4 ภาคเอกชนจะมีการใช้งบโฆษณาอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการเปิดตัวแคมเปญการตลาด และสินค้าใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะการจัดกิจกรรม (event) แบบรายวัน
วิทวัส ยังกล่าวอีกว่าสถานการณ์การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโฆษณา จะส่งผลให้ถึงสิ้นปีนี้ภาพรวมจะกลับมาเติบโตในอัตรา 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่ติดลบ 2.77% หรือมีมูลค่า 8.9 หมื่นล้านบาท และเป็นตัวเลขที่ดีกว่าประมาณการเมื่อต้นปี ที่คาดว่าจะอยู่ในภาวะติดลบ 3-5%
ด้าน ช่อง 3 เปิดเผยว่า การใช้งบผ่านสื่อทีวีในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เริ่มมีตัวเลขเติบโต 2.5% หลังจากติดลบต่อเนื่อง 5 เดือน โดยตั้งแต่เริ่มไตรมาสสาม สินค้าและบริการต่างๆ เริ่มกลับมาใช้งบโฆษณาอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นยอดขายและผลประกอบการให้เติบโตในปีนี้
“สื่อทีวีครองสัดส่วนในอุตสาหกรรมโฆษณา 58-59% เมื่อสื่อทีวีเติบโต จะกระตุ้นให้ภาพรวมเติบโตตามไปด้วย” ผู้บริหารช่อง 3
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์