หากจะกล่าวถึงการใช้ Social Media ของคนในยุคดิจิตอลทุกวันนี้ คงเปรียบเสมือนกับการสวมหมวกอยู่ 2 ใบ…ก็คงไม่ผิดนัก
ใบแรก – คือโลกแห่งการทำงาน ที่ใครหลายคนมีไว้เพื่อการติดต่อทางธุรกิจ หรือติดต่อพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน…ร่นระยะห่างในการทำงานให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ใบที่สอง – คือโลกแห่งความบันเทิงไร้สาย แชะ ไลค์ โพส แชร์ หลากหลายสารพันวิธีที่ผู้คิดค้นจะผลิตมาให้เราได้เล่นสนุกกัน
ทว่า, ก็มีอยู่ไม่น้อยที่ใช้เจ้าสื่อ Social Media เหล่านี้เป็นเหมือนการสวมหมวกทั้ง 2 ใบพร้อมๆกัน LinkedIn เป็นเครือข่ายสังคมที่เน้นด้านเครือข่ายธุรกิจ ถูกใช้เพื่อการสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพเป็นหลัก ประโยชน์หลักๆก็เพื่อใช้ในการหางาน หรือหาผู้ร่วมงาน พร้อมกับพบปะเพื่อนใหม่ๆในแวดวงทำงานของเรานั่นเอง เชื่อว่าใครหลายคนคงต้องมีเผลอไผลลืมตัว…ประดิษฐ์ปรุงแต่งให้ LinkedIn ของตัวเองดูเก๋ไก๋-ไฉไลตามประสามนุษย์โซเชียลแน่นอน แต่รู้ไหมว่าเพียงแค่รูปโปรไฟล์รูปเดียวก็ส่งผลถึงหลายต่อหลายอย่างเช่นกัน โซเชียลมีเดียมาพร้อม 2 เหลี่ยมเสมอ นี่คือ 8 รูปโปรไฟล์ที่คุณไม่ควรใช้บน LinkedIn เลือกใช้ให้ดี พอเหมาะแต่พองาม…รับรองว่าโซเชียลมีเดียเหล่านี้ จะส่งผลดีต่อเราอย่างแน่นอน!
‘เซลฟี่’ มีชู้…ชาวบ้านรู้กันทั่ว!
เก็บความมั่นใจของเรากับการยืนถือกล้องหันหน้าเข้าหากระจก…แล้วถ่ายรูปตัวเองในห้องน้ำไว้ใช้บน Facebook ดีกว่า มันช่างดูไม่เป็นโปรเฟสชันนอลเอาเสียเลยครับ ถึงแม้เราจะดูเป็นหนุ่มนักธุรกิจ มีความเป็นภูมิฐาน แต่เชื่อเหอะ! การถ่ายเซลฟี่นั้นทำให้เราดูเป็นเด็ก และหมดความน่าไว้วางใจอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว ผู้หญ่งผู้ใหญ่เข้ามาติดต่อเกี่ยวกับเรื่องการเรื่องงานที…เขาคงไม่อยากฝากอนาคตธุรกิจไว้กับคนที่ขยันทำปากจู๋ใส่หน้ากระจกเป็นอย่างแน่
อาร์ตสุดเหวี่ยง…กับภาพถ่ายติดแสงเบลอๆ
นี่ไม่ใช่โซเชียลสำหรับคนรักงานภาพถ่ายศิลปะ งดใช้ภาพถ่ายเบลอๆ ติดแสง ย้อนแสง แบบว่า…อาร์ตอาร์ต อินดี้อินดี้ (ผู้เขียนเขียนแล้วยังรู้สึกจั๊กจี้ตัวเองพอสมควรกับคำเหล่านี้) เถอะครับ เข้าใจว่าเป็นคนมีอารมณ์ศิลป์ อยากแสวงหาความแตกต่างให้กับตัวเองบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าขบขันแต่อย่างใด แต่คนหลายคนที่เข้ามาติดต่อกับเราเรื่องงานผ่าน LinkedIn รับรองว่าเขาอาจไม่เข้าใจเป็นอย่างแน่ ยั้งมือไว้ก่อน ยังไงซะ เรื่องงานก็สำคัญเสมอ ยังมีอีกหลายช่องทางที่ให้เราได้สนองความเป็นศิลป์เหล่านั้น เก็บแรงไว้อาร์ตสุดขั้วกับช่องทางเหล่านั้นที่มันเหมาะสมจะดีกว่าครับ แต่หากใครที่ไม่ใช่สมาชิกชาวอาร์ตอาร์ต (โอ้ พระเจ้า! คำนี้อีกแล้ว) ขอแนะนำให้ลองใช้โปรแกรม Photoshop กับฟีเจอร์ Sharpening Tool ดูครับ…รับรองว่าจะอภินิมหาเบลอแค่ไหนก็เอาอยู่หมัด!
‘ฟิลเตอร์’ ละเมอจาก
เก็บวิชาการแต่งรูปต่างๆไว้ใช้ใน Instagram เถอะครับ ไม่ว่าจะตัดต่อ ตบแต่ง แปะการ์ตูน หรือฟิลเตอร์ปรับสีต่างๆก็ตามที เพราะมันจะทำให้ LinkedIn ของคุณดูเป็นเด็กมอปลายยังไงยังงั้นเลยทีเดียว และคงไม่มีใครอยากร่วมงานกับเด็กมอปลายอย่างแน่นอน
PessimisPic
อย่าให้ใครมาบอกว่าเราเป็นคน ‘ถ่ายรูป’ ในแง่ร้าย พยายามอย่าถ่ายรูปที่ทำให้เราดูเป็นคนเบื่อโลก มีปัญหา พะรุงพะรัง หรือเป็นพวกมี ‘โลก’ ซึมเศร้า เชียวล่ะ ภาพต่างๆเหล่านี้ทำให้เราดูเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ และเอาแน่เอานอนไม่ได้…คงไม่มีใครอยากร่วมงานกับคนมองโลกในแง่ ‘ร้าย’ เป็นอย่างแน่ครับ วันดีคืนดี เกิดอารมณ์พลุ่งพล่านระเบิดลงตู้ม! ขึ้นมาที เชื่อว่าในการทำงานไม่มีใครอยากให้มันเกิดแบบนั้นแน่ สุขุมลุ่มลึก ยิ้มแย้ม และดูดีเข้าไว้ครับ…เรียบๆง่ายๆเข้าไว้เป็นดี
สุขพลาด!
การเป็นคนดูแลตัวเองรักสุขภาพเป็นเรื่องที่ดี แต่การอวดกล้าม เกร็งหน้าท้อง นั่ง Squatting ถ่ายรูปแล้วตั้งเป็นรูปโปรไฟล์บน LinkedIn นั้น…เป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ ขมวดภาพสุขกายสุขใจเหล่านั้น ไปโพสบน Facebook ยังจะดีเสียกว่าครับ อย่าลืมว่านี่คือช่องทางเพื่อติดต่อทางการทำงาน ไม่ใช่รณรงค์ให้คนหันมาออกกำลังกาย… ‘ธุรกิจ’ ไม่ใช่ ‘ธุรกาย’
สัตว์เลี้ยง ‘รูป’ ด้วยนม
กรุณางดกันเถอะครับ กับภาพน่ารักๆถ่ายคู่กับเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณ ด้วยการเอาหน้าไปแนบปานจะแลบลิ้นใส่กัน มันช่างดูไม่เหมาะสมเสียเหลือเกิน นอกจากจะทำให้ผู้ติดต่องานที่พบเห็นรู้สึกว่าเราดูไม่มืออาชีพแล้ว บางคนไม่ชอบสัตว์เลี้ยง อาจพานให้เราชวดโอกาสดีๆไปได้ครับ และแน่นอนว่าคุณผู้หญิงอาจอยากโชว์สัดส่วนอันกลมกลึงของทรวงอก งดๆไว้ก่อนครับ นักธุรกิจรายใหญ่หลายคน…ไม่ได้มีแต่เอกบุรุษหัวงูอย่างเดียวเท่านั้น
หน้าสิ่วหน้าหาย
บางคนก็มีความคิดที่แปลกใหม่ กับการชอบใช้รูปโปรไฟล์ชนิดที่ไม่เห็นหน้าค่าตา หันหลังบ้าง หันข้างบ้าง เดินหนีกล้องบ้าง ซึ่งนับว่าไม่เหมาะอย่างยิ่งบน LinkedIn เพราะอาจจะทำให้คนที่มาติดต่อเรื่องงานหรือธุรกิจกับเรา เกิดความงุนงงเอาได้ แน่นอนว่าการจะร่วมงานหรือทำธุรกิจกับใครสักคน…หน้าตา คือ นรลักษณ์ศาสตร์ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด หันหน้าตรงแล้วจึงกดแชะกันเถอะครับ
Two-Tone, Too Many
การปรับแต่งให้ภาพเป็นภาพแบบขาวดำ อันที่จริงก็แลดูให้ความรู้สึกแบบคลาสสิคดีอยู่หรอก แต่หากเป็นเรื่องการทำงานในยุคดิจิตอลแล้ว ความคลาสสิคอาจเอาไม่อยู่ พยายามเลือกใช้ภาพที่มีสีสด ดูเรียบง่าย และชัดเจน จะทำให้ผู้ที่มาติดต่อกับเราเกิดความรู้สึกที่สบายใจ และไว้ใจกว่าภาพขาวดำ เพราะภาพเหล่านั้นจะให้ความรู้สึกแบบขุ่นมัว อึมครึม และไม่น่าพูดคุยด้วย ยุคนี้คือยุคดิจิตอล…จะมาโบร่ำโบราณกันอยู่ไยล่ะครับ
มนุษย์เราเกิดขึ้นมาพร้อมกับสิ่ง 2 สิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด 1. คือความกลัว 2. คือความเห็นแก่ตัว ทั้ง 2 สิ่งนี้ถูกควบคุมด้วยสิ่งเพียงสิ่งเดียวคือ ‘ใจ’ เมื่อใจดี…ทุกอย่างดีตาม เหมือนดังคำกล่าวที่ว่า ‘ทุกสิ่งสำเร็จได้เพราะใจ’ ดูแลจิตใจกันให้ดีครับ และที่สำคัญ, ซื่อสัตย์กับความรู้สึก…สำคัญนัก
