แม้ว่าเมื่อเดือนที่ผ่านมา จะมีข่าวภายหลังการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องความช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม และผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องการออกคำสั่งมาตรา 44 ช่วยเหลือทีวีดิจิทัลและโทรคมนาคมนั้น
ล่าสุดก่อนถึงกำหนดเส้นตายที่จะหมดลง ที่ให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ชำระค่าใบอนุญาตงวดที่ 5 ในวันนี้ (23 พ.ค.) ปรากฏว่ารัฐบาลได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยให้พักชำระการจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตได้ 3 ปี และเปิดทางให้กรมประชาสัมพันธ์หารายได้จากการโฆษณาได้ด้วย
ก่อนถึงกำหนด “เส้นตาย” ให้ผู้ประกอบการชำระค่าใบอนุญาตงวดที่ 5 ที่จะสิ้นสุดตามเวลาราชการ 16.00 น. ทุกช่องได้แสดงความประสงค์ขอเข้าร่วม ม.44 ยกเว้นช่อง 7 และเวิร์คพอยท์ ที่มาชำระเงินเต็มจำนวน โดยมีผู้มาใช้สิทธิ์ 20 จาก 22 ช่อง
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/117/12.PDF
ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 9/2561 เรื่อง มาตรการบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เนื้อหาจะมี 10 ข้อ สรุปสาระสำคัญได้ 3 ประเด็น คือ
1 หากผู้ประกอบการรายใดไม่สามารถชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ได้ ให้ทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ภายใน 30 วัน เพื่อขอพักชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตได้ไม่เกิน 3 ปี นับแต่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน กสทช.
2 ให้ กสทช. จัดให้มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล (MUX) ให้กับผู้รับใบอนุญาตเป็นจำนวนเงินในอัตราร้อยละ 50 ของค่าเช่า MUX เป็นเวลา 2 ปี โดยใช้เงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ
3 กรมประชาสัมพันธ์ สามารถมีรายได้จากการโฆษณา ได้เท่าที่จำเป็นและเพียงพอต่อการผลิตรายการ ตามวัตถุประสงค์โดยต้องไม่เป็นการมุ่งต่อการแสวงหากำไรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช. ประกาศกำหนด
อย่างไรก็ตาม การออกคำสั่งครั้งนี้เป็นผลมาจากการประชุมร่วมระหว่างรัฐบาล กสทช. และผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล รวมทั้งนักวิชาการ โดยยังมีข้อเสนอที่ไม่ถูกบรรจุลงในคำสั่งครั้งนี้คือ อนุญาตให้โอนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ได้
ทั้งนี้ การช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้แล้ววันนี้ (23 พ.ค. 61) ซึ่งสำนักงาน กสทช. เปิดให้ผู้ประกอบการ เข้ามายื่นเรื่องขอรับความช่วยเหลือได้ที่สำนักงาน กสทช. ซ.พหลโยธิน 8 สำหรับสาระสำคัญของร่างประกาศดังกล่าว คือ ผู้ที่ใช้สิทธิตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 9/2561 จะต้องมายื่นใช้สิทธิต่อสำนักงาน กสทช. ภายในวันนี้
ซึ่งผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่ต้องการขอพักชำระหนี้ จะมีการขอพักชำระหนี้ได้ไม่เกิน 3 ปี โดยให้สำนักงาน กสทช. เป็นผู้พิจารณาตามหลักเกณฑ์ว่า ผู้ประการรายใดที่มีสิทธิได้รับการพักชำระหนี้หรือไม่ หากผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลทำผิดเงื่อนไข สำนักงาน กสทช. อาจพิจารณายกเลิกการพักชำระหนี้ได้
ในส่วนของการชำระค่าเช่าโครงข่ายภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล (MUX) สำนักงาน กสทช. จะช่วยชำระให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลในอัตราร้อยละ 50 ของค่าเช่าทั้งหมด เป็นเวลา 24 เดือน ให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลทุกราย นับแต่วันที่มีคำสั่ง
ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่เคยขอรับสิทธิขยายระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตฯ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 76/2559 ที่มีการแบ่งงวดการชำระเงินที่เหลือออกเป็น 6 งวดแล้ว และได้มีการชำระงวดที่ 1 ไปแล้ว ยังเหลือที่ต้องชำระในงวดที่ 2-6 ถ้าจะขอพักชำระหนี้ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 9/2561 นี้ สามารถขอพักชำระหนี้ได้ตั้งแต่งวดที่ 2 เป็นต้นไป
ส่วนผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่ไม่ได้ใช้สิทธิตามคำสั่งที่ 76/2559 ก็จะมีงวดชำระที่เหลือคืองวดที่ 5 (ซึ่งครบกำหนดชำระวันนี้) กับงวดที่ 6 ก็สามารถที่จะขอพักชำระหนี้ในงวดที่ 5 และงวดที่ 6 ได้ เป็นระยะเวลา 3 ปีเช่นกัน
ASP วิเคราะห์ CFO
ทางด้านฝ่ายวิจัย ASP มองว่า หากชะลอแผนช่วยเหลือ จะกระทบทีวีดิจิทัลรายที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรือที่ CFO ติดลบ ได้แก่ MCOT, GRAMMY, AMARIN, NATION, NEWS เป็นต้น ยกเว้นบางรายที่มี CFO เพียงพอ และยังคงชำระเงินตามเงื่อนไข ซึ่งก็คือ BEC, WORK
BEC มี CFO 3 พันล้านบาทปี 2560 vs ค่าใบอนุญาต 3 ใบ เฉลี่ยปีละ 500 ล้านบาทประหยัดค่า MUX 3 ช่องรวม 140 ล้านบาท จากเดิม 280 ล้านบาท
WORK มี CFO 1.5 พันล้านบาท vs ค่าใบอนุญาต 1 ใบเฉลี่ยปีละ 395 ล้านบาท ประหยัดค่า MUX 1 ช่อง 27 ล้านบาท จากเดิม 55 ล้านบาท
RS มี CFO 1 พันล้านบาท vs ค่าใบอนุญาต 1 ใบเฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท ประหยัดค่า MUX 1 ช่อง 27 ล้านบาท จากเดิม 55 ล้านบาท
NMG (Nation TV, NOW26) CFO ติดลบ ประหยัด MUX ได้ปีละ 56 ล้านบาท จากเดิม 113 ล้านบาท
(ที่มา #AsiaPlusGroup #ASPSResearch)
การลงทุนในหุ้นทีวีดิจิทัล ต้องดูที่ความอยู่รอดระยะยาว ต้องพัฒนา contents ให้สดใหม่ ตรงกับความต้องการของตลาดตลอดเวลา มีแผนธุรกิจเชิงรุก โดยเฉพาะการต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติม เช่น over the top (OTT) เนื่องจากคนรุ่นใหม่รับชมโทรทัศน์ลดเหลือ 2 ชม.ต่อวัน แต่นิยมชมทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 4 ชม.ต่อวัน ระยะสั้นหุ้นกลุ่มบันเทิงยังมีความเสี่ยง จึงให้นํ้าหนักน้อยกว่าตลาด
