ใครมีเว็บไซต์ต้องระวัง! Google เริ่มใช้ Mobile First Indexing แล้ว

  • 1.2K
  •  
  •  
  •  
  •  

อีกเรื่องใหญ่ที่ในอนาคตอาจมีผลไม่แพ้ Facebook ลด Organic Reach เมื่อ Google เริ่มประกาศใช้ระบบ Mobile First Indexing บันทึกและเก็บข้อมูลเว็บไซต์ที่อ่านบนจอมือถือก่อนเว็บไซต์ที่อ่านบนจอคอมพิวเตอร์

 

56D8D7AE-3BDC-49A7-9E7B-2BCFF1AA9CD9

ประกาศจาก Google เริ่มใช้ Mobile First Indexing อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่

 

ทำไมต้อง Mobile First Indexing?

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Google บอกแนวคิดนี้ไว้แล้วเมื่อปี 2015 ที่คนหันมาดูเว็บไซต์บนมือถือมากขึ้น ในขณะที่คนเปิดเว็บไซต์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์น้อยลง เวลาคนอ่านคอนเทนต์ในเว็บไซต์บนมือถือก็อยากให้คอนเทนต์โหลดเร็ว อ่านง่าย ไม่ซับซ้อน เมื่อพฤติกรรมการเสพย์คอนเทนต์ของคนทั่วโลกเปลี่ยนไป Google เลยต้องการให้เว็บไซต์ที่อ่านบนมือถือง่ายมีความสำคัญมากขึ้น เวลาคนกำลังค้นหาสิ่งที่ต้องการ ก็อยากเข้าเว็บฯที่ออกแบบมาเพื่อเปิดดูบนมือถือได้ง่าย แทนที่จะเป็นเว็บฯที่ออกมาสำหน้าหน้าจอคอมฯแต่ไม่ใช่หน้าจอมือถือ

 

0AF534A8-AB74-41D6-B384-D1B4912A76BE

การใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมือถือแซงหน้าเดสก์ท็อปเมื่อปลายปี 2016

 

2EFFF500-F1A7-43F1-B407-9FA0457EB477

เปอร์เซนต์ทราฟฟิคจากมือถือของ Google แซง Yahoo ไปเมื่อปี 2015

 

DCD0AD7F-3ED6-4E66-A070-1A70B5E057E1

คนใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมือถือบน Google เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

ควรเตรียมรับมือกับ Mobile First Indexing ทันทีหรือไม่?

ขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ของเราว่าถูกสร้างมาแบบไหน ถ้าลองเข้าไปดู Best Practice ของ Google เว็บฯรูปแบบต่อไปนี้จะได้รับผลกระทบจาก Mobile First Indexing

1. เว็บฯที่ทำ URL แยกเป็นเว็บสำหรับดูบนมือถือโดยเฉพาะ

2. เว็บฯที่เนื้อหารูปแบบคอนเทนต์ปรับไปตามดีไวซ์ที่เปิด

3. เว็บฯที่มีเพจทั้งในรูปแบบ AMP และ ไม่ใช่ AMP

*AMP (Accelerated Mobile Pages) คือเพจที่ใช้ HTML เขียนขึ้นโดยมี Google และ Twitter เป็นคนพัฒนาให้เป็นเพจที่เปิดอ่านง่าย (คล้าย Facebook Instant Article)

 

สรุปคือ เว็บฯที่มีการเขียน Code เองจะได้รับผลกระทบ ทางแก้เบื้องต้นคือทำเนื้อหาให้เหมือนกันไม่ว่าจะเปิดจากอุปกรณ์ไหน หรือ URL ไหนก็ตาม รวมถึงหัวข้อและคำบรรยายเวลา Google แสดงผลในหน้าค้นหาด้วย

ส่วนเว็บฯที่ใช้บริการสำเร็จรูปทำอย่างเช่น WordPress หรือ Blog ต่างๆ อาจไม่ได้รับผล แต่ไม่ใช่จะรอด หากเว็บฯของเราเปิดบนมือถือแล้ว คนอ่านยังต้องมานั่งซูมดูตัวอักษร ดูรูปอยู่ เว็บฯของเราอาจจะเปิดบนมือถือได้ แต่มันเป็นมิตรกับคนอ่านหรือไม่ นั่นอีกเรื่องหนึ่ง เว็บไซต์ที่เป็นรูปแบบ Responsive เว็บฯถูกออกแบบให้ปรับได้ตามขนาดของหน้าจอ ก็จะได้ทำให้ Mobile First Indexing เป็นพิเศษ เว้นแต่มั่นใจว่าคนเข้ามาเว็บไซต์ส่วนใหญ่ชอบเปิดบนหน้าจอคอมฯหรือแบรนด์ของธุรกิจเรา “สตรอง” พอว่าอย่างไรคนก็ยอมเปิดเว็บฯมาดูของเราเป็นประจำอยู่แล้ว จะไม่ใส่ใจก็ได้ (แต่จะฟังดูประมาทไปหน่อย)

 

BC717257-35D0-4EB7-8A2E-6C010E7D0D01

เรามักจะคิดว่าแค่เปิดเว็บฯบนมือถือได้แบบด้านซ้ายก็พอแล้ว แต่ที่จริงคนอ่านต้องมานั่งซูมรูป ซูมตัวอักษร ทำให้ User Experience ดูไม่ดีเท่าเว็บฯที่ปรับตามภาพด้านขวามือ

 

AE18A4E6-4304-42B5-BD85-9EFD5162D3BB

ควรให้มั่นใจว่าเนื้อหาทั้งในรูปแบบของเดสก์ท็อปและบนมือถือเหมือนกัน เวลาออกแบบเว็บฯอย่าคิดแค่บนหน้าจอคอม แต่ต้องบนหน้าจอมือถือด้วย

 

Google จะเริ่มลดอันดับเว็บไซต์ที่ไม่ได้ปรับเป็นแบบเว็บฯดูบนมือถือทันทีเลยหรือไม่?

คำตอบคือยังไม่ปรับ อย่างที่เกริ่นไว้ การประกาศ Mobile First Indexing คือการเริ่มบันทึกเว็บไซต์ไว้เฉยๆ แต่ยังไม่ได้จัดอันดับอะไรใหม่ครับ เพียงแต่อัลกอริธึ่มตัวนี้ มันจะเริ่มบันทึกเว็บไซต์ที่อ่านบนจอมือถือก่อนแค่นั้นเอง

ฉะนั้นเว็บไซต์ไหนที่ปรับเป็นรูปแบบบนมือถือแล้วแต่ยังไม่ถูกบันทึกโดย Mobile First Indexing ของ Google หรือเว็บไซต์ที่ยังเป็นแบบเปิดบนหน้าจอคอมฯอยู่ ก็ไม่ได้หมายความว่าอันดับใน Google จะลดลงเว็บฯพวกนี้เลย เว็บฯแบบดูมือถือได้และโดน Google บันทึกไว้แล้วก็ยังไม่ได้เปรียบในเรื่องของอันดับใน Google ในตอนนี้

phone-app-ad

 

แต่อีก 4 เดือนจากนี้ เว็บไซต์ไหนโหลดบนมือถือช้า โดนลดอันดับบน Google แน่นอน

แต่อย่างไหนเรียกว่าช้า จากงานวิจัยของ Google พบว่า เว็บฯไหนโหลดบนมือถือช้ากว่า 3 วินาที คนก็ปัดหนีแล้ว ใครที่อยากรู้ว่าเว็บฯของตัวเองโหลดเร็วแค่ไหนบนมือถือ เข้าไปที่เว็บฯ testmysite.thinkwithgoogle.com และ search.google.com/test/mobile-friendly เลย มันจะรายงานผล และรายงานจุดแข็งจุดบกพร่องของเว็บฯส่งไปที่อีเมลของเราไม่ถึงชั่วโมง

ฉะนั้นคอนเทนต์บนเว็บไซต์ไม่ใช่แค่มีคุณภาพ แต่ต้อง “โหลดเร็ว” ด้วย คอนเทนต์บนเว็บฯต้องเสพย์ง่าย กระซับ เพราะไม่แน่ว่าในอนาคต Google อาจให้เว็บพวกนี้อยู่ในอันดับการค้นหาต้นๆ ฉะนั้นรูปที่ใหญ่หรือมีความละเอียดสูงเกินความจำเป็น ใส่วีดีโอ ใส่แบนเนอร์ ใส่ลูกเล่นอย่างสไลด์รูปภาพ เอฟเฟกท์ที่ใส่ไว้ให้เปิดแล้วดูสวยก็ควรปรับ เพราะมันอาจจะดูสวยเวลาเปิดบนหน้าจอคอมฯ แต่เวลาเปิดบนมือถือ เอฟเฟกท์พวกนี้อาจไม่ปรากฎให้เห็นเลย

กลายเป็นโค้ตที่ถ่วงเวลาโหลดเว็บเปล่าๆครับ

 

Copyright © MarketingOops.com


  • 1.2K
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th