KBank Private Banking เปิดตัว “K-ALLROAD Series” กองทุนผสมที่เชื่อมนวัตกรรมยานยนต์อัจฉริยะสู่การลงทุน ชูคอนเซ็ปต์ “Self-driving on All Roads”

  • 784
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ปฎิเสธไม่ได้ว่า ในสภาวะที่เศรษฐกิจต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โควิด-19 ที่แม้ว่าจะเริ่มค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น แต่ก็ยังมีเรื่องปัญหาเงินเฟ้อ และเงินฝืดที่ส่งผลกระทบไปทั่วทุกมุมโลก บวกกับที่ FED กำลังจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็เข้ามาซ้ำเติมอีก ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไม่หยุด และอาจส่งผลกระทบระยะยาวต่อราคาพลังงานได้

ดังนั้น ในมุมของนักลงทุนที่ต้องการจะรักษาพอร์ตการลงทุนของตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยนั้น “การกระจายความเสี่ยงหรือ การกระจายการลงทุน” น่าจะเป็นทางออกที่ปลอดภัย และก็ยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้อีกด้วย

แต่จะดีแค่ไหน หากนักลงทุนมีโอกาสเข้าลงทุนใน “กองทุนรวมแบบผสมผสาน” ที่กระจายลงทุนทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ หรือแม้แต่กระทั่งเข้าไปลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง น้ำมัน ทองคำ เป็นต้น หรือบางกองทุนยังก้าวหน้าถึงกับมีการเข้าไปลงทุนในดัชนีความผันผวนด้วย และก็ยังมีกลไกอัตโนมัติที่ช่วยปรับรูปแบบการลงทุนได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้กองทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในทุกๆ สภาวะตลาด เปรียบเสมือนกับการนั่งอยู่บนรถยนต์อเนกประสงค์อัจฉริยะที่มีระบบขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (Self-Driving Mode) ที่พร้อมรับมือกับทุกสภาพถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง ผู้นำผู้ให้บริการบริหารความมั่งคั่งและที่ปรึกษาด้านการลงทุนให้กับลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงในประเทศไทย ร่วมกับ ลอมบาร์ด โอเดียร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ไพรเวทแบงก์ระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่เปิดดำเนินการมากว่า 225 ปี เปิดตัว 3 กองทุนแห่งอนาคตที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Self-driving on All Roads”  ภายใต้  “K-ALLROAD Series” ได้แก่ K-ALLROAD-UI, K-ALLGROWTH-UI และ K-ALLENHANCE-UI ที่นอกจากจะใช้หลักการลงทุนแบบ Risk-Based Asset Allocation ที่จัดสรรเงินลงทุนด้วยการประเมินความเสี่ยงของทุกสินทรัพย์อย่างมีระบบแล้ว ยังมีนวัตกรรมการลงทุนที่สามารถปรับความเสี่ยง และน้ำหนักการลงทุนให้เหมาะสมกับภาวะตลาดแบบอัตโนมัติ โดยผลงานที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมาตั้งแต่ปี 2555 กลยุทธ์ ALL ROADS สามารถให้ผลตอบแทน และควบคุมความผันผวนรวมถึงความเสี่ยงในช่วงเศรษฐกิจขาลงได้

K-ALLROAD Series มีฟีเจอร์หลักที่ช่วยให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในทุกสภาวะตลาด คือ 1) ความอเนกประสงค์ที่สามารถชนะได้ทุกสภาพถนน เพราะมีการกระจายลงทุนในทุกประเภทสินทรัพย์ ทั้งในสินทรัพย์ดั้งเดิม อย่าง พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ เอกชน และหุ้น รวมทั้งสินทรัพย์ใหม่ๆ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ ตราสารอ้างอิงผลตอบแทนจากเงินเฟ้อ และความผันผวนของตลาด ในขณะเดียวกันก็ยังกระจายการลงทุนในทุกภูมิภาคทั่วโลก พร้อมสัดส่วนการลงทุนที่สมดุลด้านความเสี่ยง และเหมาะสมกับโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจต่างๆ ในแต่ละวัฏจักร 2) ความปลอดภัยที่ครอบคลุมทุกความเสี่ยง ด้วยกลไกอัจฉริยะที่ทำโดยอัตโนมัติ ที่เข้ามาช่วยบริหารจัดการ และ ปรับสัดส่วนการลงทุน เช่น การเพิ่มอัตราทด ที่เปรียบได้กับเทอร์โบ ชาร์จ ที่สามารถเร่งสปีดให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในช่วงตลาดปกติ  และการลดอัตราทด หรือให้ถือเงินสดเพิ่มขึ้น เสมือนกับระบบเซนเซอร์ ที่คอยตรวจจับสิ่งกีดขวางและสั่งการให้ลดความเร็วลงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ยังมีระบบการจัดการความเสี่ยงช่วงขาลง (Drawdown management) เปรียบได้กับถุงลมนิรภัย ที่ช่วยลดผลกระทบจากความเสียหาย ทำให้กองทุนสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองไปตามสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนตามเกณฑ์ความเสี่ยงที่วางไว้แบบอัตโนมัติ

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนหลักของ 3 กองทุนภายใต้ชื่อ K-ALLROADS Series ซึ่งเป็นกองทุนเดียวกันกับ LO FUNDS – ALL ROAD Series ในต่างประเทศนั้น สามารถสร้างผลตอบแทนและควบคุมความผันผวนได้ดีสม่ำเสมอ ด้วยคอนเซ็ปต์ Self-Driving on All Roads ทำให้เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์การลงทุนนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนตามที่คาดหวังได้อย่างต่อเนื่องในทุกวัฎจักรเศรษฐกิจ และโอกาสที่จะขาดทุนสูงสุดในรอบ 1 ปี ตามที่คาดการณ์ไว้

 

ผลการดำเนินงานของ ALL ROADS Series ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

 

วินเซนต์ มาเนียนาต์ Limited Partner and Chief Executive Officer, Asia ลอมบาร์ด โอเดียร์ กล่าวว่า ในโลกที่ตลาดมีความผันผวนและซับซ้อนเช่นปัจจุบัน นักลงทุนต่างมองหาประสบการณ์การลงทุนที่ราบรื่นในทุกสภาวะตลาด กลยุทธ์การลงทุนแบบ ALL ROADS ได้รับการยอมรับจากผู้ลงทุนสถาบันในหลายประเทศชั้นนำทั่วโลก เช่น กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และกองทุนของสถาบันการศึกษาว่าสามารถให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจได้แม้ในช่วงวิกฤติทางการเงิน สามารถสร้างผลตอบแทนและควบคุมความผันผวนได้ดีสมํ่าเสมอ และ Lombard Odier เชื่อมั่นว่ากลยุทย์นี้จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้กับลูกค้าบุคลลสินทรัพย์สูงในประเทศไทย ได้เช่นเดียวกัน

 

วินเซนต์ มาเนียนาต์ Limited Partner and Chief Executive Officer, Asia ลอมบาร์ด โอเดียร์

 

จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group – Executive Chairman ธนาคารกสิกรไทย เปรียบการลงทุนผ่านกองทุน K-ALLROAD Series ว่าคล้ายกับการนั่งบนรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Self-Driving Mode) และมีคนขับรถให้ หมายความว่านักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนนี้ มีผู้จัดการกองทุนทำหน้าที่ตั้งเป้าหมายและตรวจสอบการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนไป และในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน กลไกอัตโนมัติจะช่วยบริหารจัดการ และ ปรับสัดส่วนการลงทุน ทำให้กองทุนสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองไปตามสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนตามเกณฑ์ความเสี่ยงที่วางไว้แบบอัตโนมัติ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต เพราะถ้าหากลงทุนเองด้วยตัวเอง อาจเกิดความผิดพลาดนั่นหมายความว่า เงินต้นอาจสูญได้ ฉะนั้นแล้วกองทุน K-ALLROAD Series ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้นักลงทุนได้รับทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และถึงจุดหมายจากการลงทุนได้อย่างไร้กังวล

 

จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group – Executive Chairman ธนาคารกสิกรไทย

 

นอกจากนี้ KBank Private Banking ได้จับมือกับ EVme แพลตฟอร์มให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าเเบบครบวงจรรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าเชื่อมประสบการณ์การลงทุนนี้ กับนวัตกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ลูกค้าได้สัมผัส ทดลองขับและใช้งานจริง ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Self-Driving on All Roads’ ตอกย้ำนวัตกรรมการลงทุนแห่งอนาคตของกองทุน K-ALLROAD Series กองทุนขับเคลื่อนอัตโนมัติที่จะพานักลงทุนถึงเป้าหมายได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยในทุกสภาวะตลาด

 

KBank Private Banking ร่วมกับ Lombard Odier จับมือ EVme เชื่อมนวัตกรรมการลงทุนกับยานยนต์อัจฉริยะครั้งแรกในไทย

  • 784
  •  
  •  
  •  
  •