KX ในเครือ KBTG จุดพลุความสำเร็จ Coral แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT งานศิลปะทะลุเป้าเกินคาด

  • 3.2K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

หนึ่งในเทรนด์ที่เป็นกระแสอันร้อนแรงไม่แพ้ คริปโทเคอร์เรนซี นั่นคือ NFT หรือ Non-Fungible Token สินทรัพย์ดิจิทัล ที่ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันคนไทยต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และเพื่อเป็นการตอบโจทย์แก่ความต้องการให้ประชาชนที่ต้องการใช้ NFT ทาง KASIKORN X หรือ KX บริษัทสตาร์ทอัพน้องใหม่ในเครือ KBTG ที่คิดค้นธุรกิจใหม่ ๆ มุ่งผลิตสตาร์ทอัพด้าน Decentralized Finance and Beyond ออกสู่ตลาด ด้วยการเปิดตัว Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace เรือธงสำคัญที่หนุนศิลปินไทยและเอเชียขายผลงานศิลปะ NFT ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้ทั่วโลก

 

ธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Head of Venture Builder, KASIKORN X Co.,Ltd. 

 

ล่าสุด ถือว่าสร้างกระแสฮือฮาไม่น้อยกับการจัดงาน “Thailand Digital Arts Festival 2022” หรือ TDAF2022 ครั้งแรกของโลกที่จะมีการนำผลงานศิลปะมาจัดแสดงในรูปแบบผลงานจริง และรูปแบบไฟล์ดิจิทัล จากศิลปินแห่งชาติ ศิลปินชั้นเยี่ยม ศิลปินรุ่นใหญ่ ศิลปินดาวรุ่ง รวมถึงเซเลบริตี้ และอินฟลูเอนเซอร์ ณ ไอคอนสยาม ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 20 มีนาคม 2565 เพราะแทบไม่น่าเชื่อว่า ประชาชนเองจะให้การตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการขยายเวลาการจัดงานออกไปอีกถึงวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดหวังไว้ ได้รับความไว้วางใจเข้ามาร่วมงานนี้กว่า 150 กว่าชีวิต และมี NFT เข้ามาก็เป็นหลัก 1,000 ชิ้นในการร่วมแสดงผลงานในครั้งนี้ สนนราคาเริ่มตั้งแต่ 25,000 -2.85 ล้านบาท

ทั้งนี้การเข้าสู่โลกของ NFT (Non-Fungible Token) และ Metaverse ด้วย Coral ผู้นำด้านแพลตฟอร์ม NFT ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายสนับสนุน Creator ให้สามารถทำงานสร้างสรรค์ผลงานศิลปะดิจิทัล NFT ที่หลากหลาย พร้อมทั้งเปิดโอกาสในการสร้างรายได้แบบใหม่ ให้แก่ศิลปิน หรือแม้กระทั่งบุคคลทั่วไป เพื่อสร้าง Sustainable Economy ให้แก่ Content Creator และฐานแฟนคลับให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

 

KASIKORN X จำกัด ยังได้จับมือกับ กรมทรัพย์สินทางปัญญา บน Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace พร้อมหนุนอัตลักษณ์ศิลปินไทยผ่านงานศิลปะด้วยบริการลิขสิทธิ์แบบครบวงจรที่สนใจขายผลงาน NFT บน Coral เห็นความสำคัญของการจดแจ้งทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงสร้าง Awareness ให้แก่นักสะสมงานศิลปะและประชาชนทั่วไป โดยศิลปินสามารถนำผลงานศิลปะของตนไปแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา และเพิ่มข้อมูลลิขสิทธ์ในหน้ารายละเอียดงาน NFT ของตนบนเว็บ Coral ซึ่งหลังจากที่งาน NFT ได้มีการซื้อขาย และผ่านกระบวนการแปลงเป็น NFT เรียบร้อย และเลขทะเบียนข้อมูลลิขสิทธิ์จะถูกนำเก็บบน Blockchain ในรูปแบบ Metadata เปิดให้ตรวจสอบข้อมูล และป้องกันการแก้ไขเปลี่ยนแปลง จึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักสะสมงานดิจิทัลอาร์ตว่า ได้ซื้อผลงานลิขสิทธิ์ที่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ ซึ่งถือว่าเป็นกระดุมเม็ดแรกที่ต้องติดให้ถูก และเป็นกระดุมเม็ดแรกที่ทำให้ Coral มีความแตกต่างจากที่อื่นเป็นอันดับแรก

ส่วนความแตกต่างถัดมาที่ไม่เหมือนใคร เป็นเรื่องของแพลตฟอร์มที่จ่ายด้วยเงินไทยบาท เป็น Global NFT Standard ในการซื้อขาย บน Blockchain ที่อยู่บนเชนอีเทอเรียม (ETH) ที่มีผู้คนใช้ซื้อขาย NFT มากกว่า 70%  ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี่ ที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ ลูกค้า ต้องแลกเหรียญสกุลคริปโทฯ เพื่อนำมาซื้องานศิลปะอีกที ซึ่งถือว่ามีความยุ่งยาก ในขณะที่ แพลตฟอร์ม Coral ที่ง่ายและสะดวกสำหรับผู้ซื้อสามารถที่จะใช้ตัวเครดิตการ์ด หรือเดบิตการ์ด หรือโมบายแบงก์กิ้ง ที่ต้องเปิด K Plus ณ ปัจจุบัน เริ่มที่ Scan QR หรือไปที่ www.coralworld.co และในอนาคตจะมีการขยายไปยังแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ศิลปินสามารถเข้าถึงผู้คนได้อย่างมหาศาล

 

 

ขณะที่ในส่วนของออฟไลน์ ได้มีให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเช่นกัน เพราะทุก ๆ งานที่ได้ทำการเปิดตัว หรือสิ่งที่ได้ร่วมงานกันกับพาร์ทเนอร์ ก่อนหน้านี้บนพื้นที่ของ coral เป็นพื้นที่ที่เล่าเรื่องที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ล่าสุดได้จับมือกับสภากาชาดไทย จัดงาน “นิทรรศการศิลปะดิจิทัลเพื่อสภากาชาดไทย ผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี Digital Arts NFT : Red Cross x KX” เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการศิลปะไทยที่นำผลงานศิลปะฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำมาจัดแสดงในรูปแบบดิจิทัล บน Coralแพลตฟอร์ม ของ KX โดยเงินรายได้สมทบทุนโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วไปในยามฉุกเฉินในยามวิกฤติต่าง ๆ

นอกจากนี้ ในส่วนของ KX Endless Capital ให้ความสำคัญกับ Founder มากที่สุด ที่ต้องการจัดตั้งกองทุนให้มีความแตกต่างไปจากที่เคยมีมา เพราะ KX ต้องการหาอะไรใหม่ ๆ ที่เป็น Venture Investment ซึ่งธุรกิจที่สนใจคือ ธุรกิจดีไซด์  บล็อกเชน เมตาร์เวิร์ส หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ  เป็นต้น โดยการหาทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความเข้าใจเพื่อทำการจัดตั้งกองทุน โดยมีนโยบายการลงทุนกับทั่วโลก ขณะที่ได้มีการ

 

 

กองทุนนี้เวลาที่เราจะเข้าไปลงทุน เราสามารถเป็นรีดที่นำในการลงทุนได้ เราสามารถที่จะลงทุนเพื่อที่จะทำดิลิเจนต่าง ๆ ได้ เราสามารถที่จะรีดเทอมต่าง ๆ ได้และก็ให้นักลงทุนท่านอื่น ๆ มาติดตามเราได้ เพราะเราจะเข้าไปลงทุนกับทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ได้ร่วมมือกันกับ Startup ในการขยาย Ecosystem รวมถึง Global ทั้งเมืองไทยด้วย

อย่างไรก็ตาม จากความสำเร็จแบบคาดไม่ถึงกับการเปิดตัว Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace ของ KASIKORN X หรือ KX สตาร์ทอัพน้องใหม่ในเครือ KBTG ซึ่งถือว่าเป็นแค่ก้าวแรกที่เดินมาถูกทาง ซึ่งหลังจากนี้คงไม่ใช่แค่เจาะกลุ่มในประเทศเท่านั้น เพราะ ธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Head of Venture Builder, KASIKORN X Co.,Ltd. ได้เสริมทีมความแข็งแกร่งไปยังต่างประเทศ อย่างประเทศเวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อก้าวสู่ความเป็นเบอร์ 1 ผู้นำด้านธุรกิจ พร้อมที่จะขยายการเติบโตสู่ระดับโลกได้ในอนาคต

 


  • 3.2K
  •  
  •  
  •  
  •