เปิดโมเดลธุรกิจ ‘เคอรี่ เอ็กซ์เพรส’ กับการเป็น Network Company เพื่อเร่งสปีดโต และการจับมือ VGI เปิดบริการ ‘Delivery man’ ช่วง Q3 ปีนี้

การเติบโตของอีคอมเมิร์ซในบ้านเรา ได้ส่งอานิสงค์ให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างบริการจัดส่งพัสดุเร่งด่วน ให้มีการเติบโตในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสองหลักมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อตลาดเติบโตน่าสนใจแบบนี้ แน่นอนว่า การแข่งขันย่อมรุนแรงตามไปด้วย

สำหรับบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งผู้เล่นรายสำคัญในตลาดนี้ ที่เข้ามาทำธุรกิจนี้ในไทยเมื่อปี 2549 โดยปัจจุบันมียานพาหนะสำหรับขนส่งกว่า 11,000 คัน มีสำนักงานและศูนย์กระจายสินค้า 600 แห่ง และจุดให้บริการจัดส่งสินค้ากว่า 2,500 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 99.9% ของประเทศ

การสร้างความได้เปรียบและเร่งสปีดโตในธุรกิจนี้ ก็คือ การเป็น Network Company ไม่ใช่ Transportation Company อีกต่อไป

“วันนี้เราไม่ใช่Transportation Company แต่เป็น Network Company จะเห็นได้ว่า ทางเคอรี่ จะเป็นเหมือนแพลตฟอร์มกลางเชื่อมต่อพัสดุจากผู้ส่งถึงผู้รับแล้วกระจายไปตามเน็ตเวิร์กที่มี เพราะเราแทบไม่ได้มีคนส่งสินค้าเป็นของตัวเอง มีแต่การเช่าใช้ ตั้งแต่รถขนส่งต่าง ๆ รถมอเตอร์ไซค์ขนส่งในกรุงเทพ”อเล็กซ์ อึ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

นอกจากนี้การเป็น Network Company ของเคอรี่ เอ็กซ์เพรส ยังเห็นได้จากการหาพาร์ทเนอร์ในการสร้างเครือข่าย เพื่อเพิ่มจุดให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น การจับมือกับเอสเอ็มอี อาทิ ร้านกาแฟ ร้านยา ฯลฯ

รวมถึงการเป็นพาร์ทเนอร์กับรีเทลใหญ่ ๆ  เช่น แฟมิลี่มาร์ท , ออฟฟิคเมท และ ท็อป ฯลฯ ในการใช้โลเคชั่นหรือสาขาของพาร์ทเนอร์เป็นจุดให้บริการรับส่งพัสดุ ซึ่งช่วยให้สามารถขยายการบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ได้รวดเร็ว และไม่ต้องลงทุนเพิ่ม

 “การที่เราโตได้เร็ว ทั้งที่เข้ามาในตลาดทีหลัง ก็เพราะมีเน็ตเวิร์กที่แข็งแรง และเราเชื่อในทีม และการเติบโตไปกับพาร์ทเนอร์ ทำให้เรามียอดขนส่งพัสดุ 7.5 แสนชิ้น/วัน ครองส่วนแบ่งการตลาดได้ 80% นับเฉพาะการบริการของเอกชน ไม่รวมบริการของไปรษณีย์ไทย ถือเป็นเบอร์ 1 ของตลาด”

จับมือวีจีไอเปิดบริการ ‘Delivery man’ ช่วง Q3 ปีนี้

แน่นอน Network ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ การเข้ามาของบริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน) บริษัทลูกของ บีทีเอสกรุ๊ปโฮลดิ้งส์ ที่ได้เข้าลงทุนในหุ้นของเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) ในสัดส่วน 23% หรือคิดเป็นมูลค่า 5,900 ล้านบาท

ตามกระแสข่าวมีรายงานว่า จากการเข้ามาลงทุนในครั้งนี้ทาง เคอรี่ เอ็กซ์เพรส จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพียงหนึ่งเดียวในด้านบริการจัดส่งพัสดุด่วนของวีจีไอและรถไฟฟ้าบีทีเอส ตลอดจนได้รับสิทธิใช้รถไฟฟ้าบีทีเอสจัดส่งพัสดุด่วน ในการตั้งคีออส หรือเคาน์เตอร์ให้บริการบนสถานีบีทีเอส

แม้ทาง อเล็กซ์ จะยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดมากนัก เพียงเล่าสั้น ๆ จากความร่วมมือกับทางวีจีไอ จะมีการเปิดบริการใหม่ ‘Delivery man’ ในการจัดส่งพัสดุด่วนในเขตพื้นที่ใจกลางเมืองบนสถานีบีทีเอส ซึ่งจะเน้นการส่งพัสดุขนาดเล็กเป็นหลัก เบื้องต้นวางไว้ว่า จะมี ‘Delivery man’ จำนวน 12,000 คน ส่วนการเปิดให้บริการนั้น จะเป็นช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้

 ลงทุน 1,800 ล้านบาทในไทย เพิ่มความแกร่งธุรกิจ

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ ทางเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) ในปีนี้มีแผนลงทุน 1,800 ล้านบาท โดยจะการลงทุน Infrastructure อาทิ การพัฒนาระบบไอที , การขยายคลังสินค้า เพื่อรองรับการเป็น Hub ในด้านการจัดส่งสินค้า ซึ่งปัจจุบัน มี 3 แห่ง ได้แก่ คลังสินค้าย่านบางนา-ตราด , ปทุมธานี และสมุทรสาคร

รวมไปถึงการลงทุนเรื่องคนให้ครอบคลุมจุดบริการ , การขยายหน้าร้านรับส่งสินค้า จาก 1,800 แห่ง เป็น 2,500 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ และการเช่ารถสายส่งเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถขนส่งพัสดุจาก 7.5 แสนชิ้น/วัน เพิ่มเป็น 1 ล้านชิ้น/วัน

ทั้งหมด กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด เชื่อว่า จะสร้างให้ เป็นเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) แข็งแรงและเติบโตได้ตามทิศทางของธุรกิจจัดส่งพัสดุเร่งด่วน  ซึ่งคาดว่าจะเติบโตได้ในระดับ 2 หลัก และอาจเป็น 3 หลัก ภายใน 5 ปีข้างหน้า ที่สำคัญ คือ รองรับการแข่งขันที่จะรุนแรงยิ่งขึ้นในอนาคต