ผ่าแผน Nissan ความร่วมมือระหว่างแฟชั่นกับยนตรกรรม เมื่อกลุ่มลูกค้าเปลี่ยนไปการสื่อสารต้องเปลี่ยนตาม

  • 9.1K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ฉลองครอบรอบ 10 ปี NISSAN ALMERA กับครั้งแรกที่ร่วมมือกับ SMILEYHOUND แฟชั่นดีไซน์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์หัวสุนัข ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วยกิ๊ฟเซ็ตพรีเมี่ยม 1,000 ชุดสำหรับเจ้าของใหม่ ALMERA, NOTE และ MARCH พร้อมโชว์ Wrap up ลวดลายลิขสิทธิ์จาก SMILEYHOUND ที่บูธ NISSAN ในงาน Motor Expo ที่เมืองทองธานี

เรียกว่าไม่ธรรมดาสำหรับรถยนต์ Eco Car อย่าง NISSAN ALMERA ที่ครองใจคนรุ่นใหม่ในสไตล์ประหยัดและตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมายาวนานถึง 10 ปี และเพื่อฉลองความสำเร็จของ NISSAN ALMERA จึงได้ร่วมมือกับ SMILEYHOUND แบรนด์แคชชวลแวร์ ที่สะท้อนให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์สบายๆ สำหรับวันพักผ่อนและวันทำงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สดใสและเปี่ยมไปด้วยพลัง

 

 

การจับมือกันในครั้งนี้ถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับความลงตัวระหว่างรถยนต์และแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น ซึ่ง คุณอดิศัย สิริสิงห รองประธานสายงานการตลาด นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จะมาเล่าให้ฟังถึงความร่วมมือในครั้งนี้ และความพิเศษจากความร่วมมือในครั้งนี้

 

จับมือ SMILEYHOUND เจาะกลุ่มแฟชั่น

การสร้างแบรนด์สมัยนี้ไม่ใช้เรื่องง่าย เนื่องจากลูกค้ามีตัวเลือกมากกว่าในอดีตที่ช่องทางการสื่อสารมีจำกัด เวลาโฆษณาอะไรไปลูกค้าก็จะเชื่อตามที่แบรนด์บอก แต่สมัยนี้มีช่องทางมากมายที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ NISSAN เองก็ต้องการช่องทางที่เข้าถึงลูกค้าจริงๆ ไม่ใช่แค่การเข้าถึงธรรมดาที่ผ่านไปไม่นานลูกค้าก็จะลืม”

ซึ่งเป็นที่มาของการวางแผนการสร้างความร่วมมือ โดยคุณอดิศัยมองว่า การทำทุกอย่างเองคนเดียว จำเป็นต้องใช้เงินและเวลาที่มาก นอกจากนี้การใช้ภาษาในการสื่อสารก็เป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่า NISSAN จะมีภาษาของตัวเองอยู่ แต่ลูกค้ามีความหลากหลายซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดที่ต้องการฟังภาษารถยนต์ของ NISSAN ซึ่งพันธมิตรกลุ่มไลฟ์สไตล์จะช่วยให้สามารถสื่อสารไปยังลูกค้าที่ใช้ภาษาเดียวกันให้กับ NISSAN ได้ง่ายขึ้น

“ไลฟ์สไตล์ปัจจุบันของลูกค้าไม่ใช่แค่การขับรถเพียงอย่างเดียว นั่นจึงทำให้ NISSAN ต้องค้นหาพันธมิตรที่มองเห็นทิศทางเดียวกับ NISSAN และจะช่วยให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งต้องยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักกับ Greyhound ก่อนจะมาเป็น SMILEYHOUND ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เกี่ยวกับแฟชั่นและเป็นแบรนด์ของไทย แต่มีกลิ่นไอของความเป็นสากล”

 

 

คุณอดิศัยอธิบายว่า การเป็นแบรนด์ไทยจะช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้าคนไทยได้ง่าย นอกจากนี้กลุ่มเป้าหมายของ SMILEYHOUND ยังตรงและเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้ากลุ่ม Eco Car ของ NISSAN อย่าง NOTE, MARCH และ ALMERA แต่จะเน้นไปที่รุ่น ALMERA เนื่องจากมียอดขายมากที่สุด และเป็นช่วงวาระพิเศษฉลองครบรอบ 10 ปี

 

 

“ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความสบายๆ ทันสมัย โดยจะเป็นกลุ่ม First Jobber ที่มีกำลังซื้อ เมื่อมีกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายๆ กันก็จะเริ่มคุยกันง่ายขึ้น ตอบโจทย์ที่ NISSAN ต้องการข้าถึงกลุ่มลูกค้าแฟชั่นด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้คือจุดเริ่มต้นและหลังจากนี้ NISSAN กับ SMILEYHOUND จะมีพูดคุยเพื่อหาร่วมมือกันต่อไปในปีหน้า และคาดว่าจะยังมีโครงการความร่วมมืออีกหลายโครงการ ซึ่งต้องคอยจับตาดู”

 

ความพิเศษของ NISSAN x SMILEYHOUND

สำหรับแคมเปญนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน โดยส่วนแรกจะเป็นการออกแบบดีไซน์สติ๊กเกอร์สำหรับตกแต่งรถยนต์ทั้ง 3 คันอย่าง ALMERA, MARCH และ NOTE ด้วยสติ๊กเกอร์จะเป็นลายลิขสิทธิ์ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ของ SMILEYHOUND โดยทั้ง 3 คันที่ตกแต่งด้วยลายสติ๊กเกอร์จาก SMILEYHOUND จะไม่มีการวางขาย แต่จะถูกนำมาจัดแสดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ความร่วมมือกัน โดยจัดแสดงรถยนต์ NISSAN ALMERA รุ่นที่ตกแต่งลวดลายสติ๊กเกอร์จาก SMILEYHOUND ในงาน Motor Expo ที่เมืองทองธานี

 

“สำหรับในอนาคตอาจมีความเป็นไปได้ที่ SMILEYHOUND จะมีการออกแบบดีไซน์ลวดลายให้กับรถยนต์ NISSAN แบบ Exclusive เฉพาะรุ่น ซึ่งการจับมือกันครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสำคัญของความร่วมมือระหว่าง SMILEYHOUND และ NISSAN ในอนาคต”

 

 

นอกจากนี้ ยังมี Premium Gift Set สำหรับลูกค้าที่ทำการจองรถยนต์ Eco Car ทั้ง 3 รุ่น (เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ NISSAN ALMERA เฉพาะรุ่น SPORTECH รุ่น V และ VL, NISSAN NOTE รุ่น VL, NISSAN MARCH รุ่น E และ EL CVT) ภายในเดือนธันวาคมและออกรถภายในเดือนธันวาคมนี้ สำหรับ Premium Gift Set ถูกออกแบบโดย SMILEYHOUND จำนวน 1,000 เซ็ตเท่านั้น ประกอบไปด้วยหมอน เสื้อยืด หน้ากากอนามัยและถุงผ้า ถือสัญลักษณ์ความร่วมมือกันระหว่าง NISSAN กับ SMILEYHOUND และเป็นของขวัญสำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่

 

ความร่วมมือสู่การสร้างแบรนด์

“ความร่วมมือกันระหว่าง NISSAN กับ SMILEYHOUND เริ่มจากการวางไอเดียและตั้งเป้าหมายร่วมกันว่าจะทำอะไรเพื่อผู้บริโภคของทั้ง 2 แบรนด์ได้บ้าง โดย NISSAN จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับ SMILEYHOUND ในการสร้างแบรนด์ ขณะเดียวกัน NISSAN ก็พร้อมที่จะเข้าไปร่วมสนับสนุนในแง่ของช่องทาง CRM ซึ่ง SMILEYHOUND ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 40,000 คน และทาง NISSAN ก็มีจุดให้บริการผ่านดีลเลอร์กว่า 180 สาขาทั่วประเทศ”

 

 

ทางคุณอดิศัยยังเสริมว่า ในอนาคตอาจจะมีแคมเปญอื่นๆ ตามมา เช่น การมอบส่วนลด เป็นต้น สำหรับข้อมูลของลูกค้าทั้ง 2 แบรนด์จะไม่มีการแลกเปลี่ยนกันอย่างเด็ดขาด เนื่องจากข้อมูลลูกค้าถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่จะเป็นความร่วมมือรูปแบบอื่นมากกว่า เช่น NISSAN อาจจะขอให้ทาง SMILEYHOUND ช่วยสื่อสารไปยังลูกค้าของตัวเอง หรือทาง SMILEYHOUND มีแคมเปญอยากสื่อสารก็สามารถให้ทาง NISSAN สื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าได้

 

 

“ในอนาคต NISSAN เองอาจจะใช้โมเดลความร่วมมือในการสร้างแบรนด์กับSMILEYHOUND ไปร่วมมือกับธุรกิจด้านอื่นๆ เช่น Sport, Travel, Technology ซึ่งคาดว่าในปีหน้าจะมีการขยายความร่วมมืออย่างแน่นอน และจะมีการคัดเลือกแบรนด์ที่เหมาะสมกับ NISSAN และสามารถสร้างแบรนด์ทั้ง 2 ไปด้วยกันได้”

 

 

ในยุคที่กระแสรถยนต์ไฟฟ้า กำลังเป็นที่สนใจ

โดยคุณอดิศัยเพิ่มเติมว่า NISSAN ถือเป็นผู้นำในตลาดโลกเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า EV  มีทั้ง NISSAN LEAF เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% และยังมี NISSAN KICKS เทคโนโลยี e-Power ที่ให้อัตราเร่งที่แรงเร้าใจ ขับสนุกแตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป โดยมีจุดเด่นของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% แต่ช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดเรื่องสถานีชาร์จไฟ ด้วยการใช้เครื่องยนต์น้ำมันเป็นตัวปั่นไฟในรถคันเดียวกัน เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตจริงของลูกค้า ไม่ต้องวางแผนการเดินทาง หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถยนต์ที่คุ้นเคย

เทคโนโลยี e-Power ขายดีมาก และเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่น พิสูจน์แล้วว่าค่าบำรุงรักษาต่ำ ดูแลง่าย ไม่จุกจิก และประหยัดน้ำมันมากๆ

การนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด ลูกค้าอาจจะมีความกังวลใจในเรื่องการบำรุงรักษา ความทนทาน บริการหลังการขายต่างๆ ซี่ง NISSAN  เข้าใจ และพร้อมดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ จึงได้มอบข้อเสนอสุดพิเศษ  ด้วยแพคเกจขับสบายหายห่วง ด้วยการยืดระยะเวลารับประกันรถยนต์เป็น 5 ปี, เทคโนโลยี e-Power 5 ปี, แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปีไม่จำกัดระยะทาง ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี 10 ครั้ง พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 ลูกค้าที่สนใจสามารถทดลองขับได้ที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศ

 

 

ทั้งหมดนี้คือความร่วมมือระหว่าง NISSAN กับ SMILEYHOUND ที่ถือเป็นการสื่อสารในแนวทางใหม่โดยใช้แฟชั่นมาเป็นตัวนำ ซึ่งทาง NISSAN คาดว่า ด้วยการสื่อสารรูปแบบใหม่นี้จะช่วยให้ลูกค้าจะหันมาฟังและตัดสินใจเลือกใช้รถยนต์จาก NISSAN มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้แบรนด์ NISSAN กลายเป็นแบรนด์ที่น่าสนใจและเข้ากันได้กับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่สำคัญยังช่วยให้แบรนด์ NISSAN สามารถเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค (Most Admire) ได้

 

 

 


  • 9.1K
  •  
  •  
  •  
  •