ในขณะที่การแข่งขันในธุรกิจทีวีคอนเทนต์ในยุคดิจิตอลกำลังเข้มข้นดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ในยุคที่ผู้บริโภคไม่ได้มองแค่จอทีวี แต่สามารถทั้งดูและคอมเมนต์ไปได้พร้อมๆกันผ่านมือถือ แท็บแล็ต หรือจอคอมพิวเตอร์ ทำให้วันนี้กระแสในโซเชียลกลายเป็นตัววัดความสำคัญของความดังและความสำเร็จว่าเรื่องไหนจะรุ่งหรือจะร่วงได้… ที่น่าจับตามองมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ซีรีส์ล็อตแรกจาก GMM BRAVO ทีมสร้าง
คอนเทนต์น้องใหม่ ภายใต้ GMM GRAMMY ที่ออนแอร์ จันทร์-ศุกร์ ช่วง 3 ทุ่มครึ่ง ทางช่อง GMM25 ซึ่งกำลังกวาดกระแสจุดพลุดังสนั่นในโลกดิจิตอลอย่างรวดเร็วและรุนแรงใน แบบที่คาดไม่ถึง เริ่มตั้งแต่ละครชุด ลมเปลี่ยนทิศไตรภาค ตอน MAN IN THE RAIN
ที่ทำเอาแฮชแท็ก “#ใครๆก็เลือกครูปอม” ร้อนฉ่าไปในโลกทวิตเตอร์อันดับ 2 หลังตอนแรกออนแอร์ จนมาถึงล่าสุด “คนไม่มีแฟนเดอะซีรีส์” ที่จุดพลุแรงทวีคูณ เริ่มด้วยกระแสของเทรลเลอร์ที่ทะลุ 1.2 ล้านวิวภายในไม่กี่วัน แถมยังช๊อควงการเมื่อหลังออนแอร์ตอนแรก
“คนไม่มีแฟนเดอะซีรีส์” สามารถโดดไปอยู่ติดอันดับ 1 ทวิตเตอร์ ของประเทศด้วยแฮชแท็ก “#โสดแต่ไม่เศร้า” แซงหน้าละครยอดนิยมเรื่องอื่นๆ ในขณะนี้จนเป็นประเด็นร้อนออนไลน์ของวงการซีรีส์ทันที
วันนี้ Marketing Oops! ได้โอกาสสัมภาษณ์ครีเอเตอร์แถวหน้าของวงการอย่าง เอกชัย เอื้อครองธรรม
Creator & Executive Producer ผู้รังสรรค์ซีรีส์ชุดใหม่จาก GMM BRAVO ซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ในขณะนี้ ถึงวิธีจุดประกายแก่นเรื่องที่โดนใจผู้ชมยุคดิจิทัล (SHARABLE CONTENT) การวางตัวนักแสดงที่มีความน่าสนใจ และผลตอบรับที่ตามมาอย่างล้นหลามจากแฟนๆที่ได้มาเพียงชั่วข้ามคืน
1. คอนเซ็ปต์ที่มาของซีรีส์ แบบ GMM BRAVO
“มันคืออีกหนึ่งรูปแบบของ UTILIZATION OF INTELLECTUAL PROPERTIES ซึ่งก็คือเพลงที่เป็นทรัพยากรสำคัญและจุดแข็งของ
แกรมมี่ สำหรับผมแล้วเพลงไม่ใช่เป็นแค่เพลง เพลงคือ SHARED EXPERIENCE ประสบการณ์ร่วมของคนทั้งประเทศในแต่ละยุคสมัย เพลงที่เราเลือกมาแปลงร่างเป็นละคร เป็นเพลงที่โดนใจคนหมู่มาก เพลงที่อยู่ในใจคนไทยมาตลอดแม้เวลาจะผ่านไปอย่างเช่น คนไม่มีแฟน อยากจะร้องดังดัง ภาพลวงตา และ เป็นอย่างงี้ตั้งแต่เกิด หรือไม่ก็เป็นเพลงที่ถูกใจคนรุ่นใหม่การันตีด้วยยอดวิวของ MV ที่เกินร้อยล้านวิวและยังคงทำสถิติพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เช่นเพลง เชือกวิเศษ ลมเปลี่ยนทิศ และ ไม่เคย มันเลยทำให้ซีรีส์ที่เราสร้างมี BRAND VALUE ที่แข็งแรงติดตัวมาด้วยตั้งแต่ต้น และถึงแม้ว่าจะเป็นการสร้างใหม่ พล็อตใหม่หมด แต่ DNA ที่มาจากตัวเพลงกลายเป็นเชื้อเพลิงสำคัญในการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์ละครของ GMM BRAVO ความคุ้นเคยที่คนมีกับเพลงส่งพลัง ความเป็นแบรนด์ให้กับซีรีส์ของเราก่อนออกไปสู่สายตาประชาชน พิสูจน์ได้จากยอดวิวของเทรลเลอร์ที่ปล่อยออกไปก่อนซีรีส์ออนแอร์”
2. กลยุทธ์ในการจับกลุ่มเป้าหมายของ GMM BRAVO
“ฟีดแบ็คที่เกิดขึ้นทำให้เรามั่นใจเพิ่มขึ้นว่า กลุ่มคนดูละครในประเทศไทยเริ่มมองหาอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในอายุระหว่าง 15-35 ปี หรือ Millennial Generation ที่โตมา พร้อมๆกับ Internet Technology และโทรศัพท์มือถือ สิ่งที่ซีรีส์ของ GMM BRAVO พยายามทำคือ การแมตช์ 4 มิติ เริ่มจากการจับคู่คอนเทนต์ที่มี BRAND VALUE ติดตัวมา กับช่วงเวลาออกอากาศที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของ TARGET AUDIENCE บวกกับการ CAST นักแสดงที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ และคอยติดตาม รวมไปถึงการสร้างเรื่องและพล็อต ซึ่งใช้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมิติเหล่านี้ก็คือ BRAND ATTRIBUTES ของคอนเทนต์จาก GMM BRAVO ที่เราอยากเน้น 1. FRESHNESS ความสด รสชาติใหม่ๆ และ 2. RELEVANCE ความตรงประเด็นและ ความสัมพันธ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้ชีวิตของกลุ่มเป้าหมาย”
3. สิ่งที่ทำให้ เรื่องคนไม่มีแฟน ฮอต คิดว่ามาจากจุดไหน ทำไมเลือกคอนเทนต์เพลงนี้มาแปลงร่างเป็นซีรี่ย์
“ผมคิดว่า ‘คนไม่มีแฟน’ มันเป็นเพลงสำคัญมากเพลงหนึ่งของ POP CULTURE ในเมืองไทย มันจุดประกายให้เห็นว่าการไม่มีแฟน
การเป็นคนโสดไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องลบ ผมเลยตีความว่า DNA ของมันคือ ‘โสดแต่ไม่เศร้า’ ซึ่งน่าจะสะท้อนและบอกความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ในกลุ่มเป้าหมายของเราได้อย่างดี คือจริงๆ คิดเป็นแฮชแท็กและ DNA ของละครมาก่อนตั้งแต่ต้น ซึ่งมันเลยกลายเป็นหัวใจของการสร้างพล็อตและตัวละครในเรื่องนี้”
4. ฟีดแบ็คแรงข้ามคืนขนาดนี้ ถึงขนาด จุดติดกระแสคนไม่มีแฟน โดนใจคนโสดทั่วไทย , เทรลเลอร์ไปไม่กี่วัน ได้ 1.2 ล้านวิว , #โสดแต่ไม่เศร้า ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ขณะออนแอร์ตอนแรก จนถึง Social meme, parody ต่างๆโดย influencer ชื่อดังมาแชร์ … คุณเอกคิดว่ามันเป็นความสำเร็จจากตรงไหน
“ผมว่ามันเกิดจากหลายๆ องค์ประกอบ ตั้งแต่เนื้อเรื่อง นักแสดง ผู้กำกับ คนเขียนบท ทีมงานทุกๆ ฝ่าย คำแนะนำจากพี่ๆ ในแกรมมี่ และมันน่าจะเป็นเพราะหัวใจของสิ่งที่เราสร้างสรรค์ใหม่ครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าประสบความสำเร็จ และมันยังเป็นเพลงที่ตัวผมเองรักและชื่นชอบ เมื่อหัวใจของสิ่งที่สร้างใหม่กับสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับมัน คือหัวใจเดียวกัน ผมว่ามันเกิดการส่งพลังให้กันและกันจนเกิดเป็น MULTIPLIER EFFECT ที่ทำให้ผลลัพธ์ออกมาน่าพอใจมากครับ”
ชัดเจนแล้วนะครับจากปากของ คอนเทนต์ ครีเอเตอร์คนนี้ ว่าทำไม #โสดแต่ไม่เศร้า จาก GMM BRAVO ถึงฮอตข้ามคืน!
