ต้องยอมรับว่าเมื่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยให้เราสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น ทั้งการส่งภาพ สติ๊กเกอร์ หรือข้อความต่างๆ แต่ในข้อดีนี้ ยังมีข้อเสียซ่อนอยู่คือ การถ่ายทอดความรู้สึกที่แท้จริง ในวันแม่ที่ผ่านมาเราเชื่อว่าหลายๆ คน เลือกใช้สื่อออนไลน์บอกรักแม่ โดยไม่ได้คิดข้อความเหล่านี้จะหายไปในอนาคต ทำให้เราตระหนักได้ว่า “การเขียน” เป็นอีกหนึ่งวิธีการสื่อสารที่สำคัญเช่นกัน
และเพื่อปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้รู้จักการแสดงความรู้สึกผ่านการเขียน แลคตาซอย จึงได้จัดการประกวดเขียนเรียงความใน โครงการแลคตาซอยรักแม่ 2559 ภายใต้หัวข้อ “เขียนด้วยมือ… สื่อถึงใจ ให้แม่อ่าน” โดยเปิดให้นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปร่วมส่งภาพถ่ายของตัวเองกับแม่ พร้อมเขียนคำบรรยายใต้ภาพด้วยลายมือของตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ยุคดิจิทัลหันมาให้ความสำคัญกับการเขียนและการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง และยังส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว
ความน่าสนใจของโครงการนี้อยู่ที่ “การเขียน” ที่ผ่านมาเราได้เห็นการประกวดเขียนเรียงความมาไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่ต้องพิมพ์ในคอมพิวเตอร์ แล้วส่งไฟล์เข้ามา สำหรับโครงการนี้ ผู้สมัครต้องเขียนด้วยลายมือตัวเอง ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านตัวอักษร เพื่อพิสูจน์ว่ายังมีคนรุ่นใหม่อีกมากที่ใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง และสามารถบรรยายความรู้สึกที่มีต่อแม่ได้อย่างลึกซึ้ง
แลคตาซอย ได้เชิญ อาจารย์ปิง เจริญศิริวัฒน์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาดาว้องก์ มาร่วมเป็นกรรมการตัดสินผลงาน โดยมีเกณฑ์การตัดสินจาก การสื่อความหมายของภาพ เนื้อหาการเล่าเรื่อง การใช้ภาษาไทย การทำให้ผู้อ่านสัมผัสได้ถึงความจริงใจ และการเรียงร้อยถ้อยคำที่อ่านแล้วรู้ว่าจะสื่อถึงอะไร
ทั้งนี้ โครงการฯ ได้แบ่งผู้เข้าสมัครเป็น 4 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษาตอนต้น ระดับประถมศึกษาตอนปลาย ระดับมัธยมศึกษา และระดับอุดมศึกษารวมถึงประชาชนทั่วไป ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท และยังมีรางวัลพิเศษ อีกจำนวน 200 รางวัล
รางวัลชนะเลิศระดับประถมศึกษาตอนต้น ได้แก่ เด็กชายวีระกิตติ์ เจนจัดทรัพย์ จากโรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ เล่าว่า ตนเองฝึกอ่านและเขียนภาษาไทยเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะได้รางวัลชนะเลิศเนื่องจากลายมือไม่ค่อยสวย พร้อมเผยความรู้สึกถึงแม่ว่า “แม่ของผมเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใคร เพราะแม่ของผมเป็นคนแข็งแรงทำได้ทุกอย่างทั้งขับรถ ขายของ ทำงานบ้าน หรือแม้แต่ตอนผมไม่สบายก็คอยเช็ดตัวให้ทั้งคืน นอกจากนี้แม่ยังสอนผมเสมอว่าให้ตั้งใจเรียนและเป็นคนดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้รู้ว่าแม่รักผมมากแค่ไหนและผมก็รักแม่มากที่สุด”
รางวัลชนะเลิศประถมศึกษาตอนปลาย เด็กชายปวีณวัชร์ แสวงทรัพย์ จากโรงเรียนไผทอุดมศึกษา เผยว่า “แม้จะต้องลบและเขียนใหม่อยู่หลายครั้ง ในความคิดผมแม่คือผู้ให้ชีวิตและรักผมยิ่งกว่าชีวิต ผมรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่อยู่ในอ้อมกอดแม่ และแม่ยังเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของผมทำให้ผมรู้ถึงพลังของคำว่ากำลังใจ สุดท้ายมีคนเคยบอกว่าบ้านต้องมีรั้วสูงๆ ถึงจะปลอดภัยผมว่าไม่จริง ขอแค่มีแม่อยู่ในบ้านคอยดูแลและปกป้องคุ้มครองเรา แค่นี้ลูกอย่างผมก็สุขใจและปลอดภัยที่สุดแล้ว”
รางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาคือ นายสันติธรรม ครุฑธา จากโรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี เผยถึงความรู้สึกที่มีต่อแม่ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเรียงความว่า “แม่ยอมให้ผมไปต่อม.ปลายอีกจังหวัดหนึ่งเพื่ออนาคตกับวอลเลย์บอลที่ผมรัก ซึ่งตอนนี้ผมติดทีมชาติชุดเยาวชนและสามารถนำแชมป์ระดับประเทศไทยมาให้แม่ได้แล้ว ผมไม่รู้ว่าแม่มีความสุขมากแค่ไหนแต่อีกไม่เกิน 4 ปี ผมจะทำให้แม่มีความสุขครั้งใหญ่ด้วยการบวชให้แม่”
สุดท้ายคือรางวัลชนะเลิศระดับอุดมศึกษารวมถึงประชาชนทั่วไป ได้แก่ คุณสุกัญญา แก้ววรรณ นักประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ “แม่ทำงานหนักมาตลอดเพื่อให้หนูและน้องมีอนาคตที่ดี แต่แล้ววันหนึ่งความเจ็บปวดในร่างกายก็พรากแม่ไปจากหนู ตอนนี้แม้จะไม่มีแม่คอยอยู่เคียงข้าง แต่หนูสัญญาว่าจะทำทุกอย่างที่แม่สอนให้ดีที่สุด”
จากจำนวนผลงานที่ส่งเข้ามากว่า 13,000 ชิ้น คงการันตีได้ว่า โครงการแลคตาซอยรักแม่ 2559 ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง วันนี้แลคตาซอย ได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ควบคู่กับการเปิดโอกาสให้ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้แสดงความรักกับคนในครอบครัวของพวกเขา สำหรับแลคตาซอยแล้ว คนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ถือเป็นความหวังและกำลังสำคัญในการร่วมกันอนุรักษ์การใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องต่อไป