เมื่อวิกฤติชี้ให้เห็นถึงความเป็นจริงมากขึ้น Risk Management กำลังถูกจับตามอง

ในช่วงที่ผ่านมามีแนวคิดในการทำธุรกิจแบบเช่าใช้ทรัพยากรอื่น โดยที่ไม่ต้องลงทุนทรัพยากรเองเป็นแนวคิดการทำธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนสูง ซึ่งการบริการจัดการความเสี่ยง (Risk Management) จะตกเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการและผู้ให้บริการมีการเตรียมความพร้อมในการรับมือความเสี่ยง แต่อย่างที่ทราบว่า “ความเสี่ยง” ไม่มีรูปแบบตายตัว ทุกสิ่งล้วนก่อให้เกิดความเสี่ยงได้

เห็นได้จากตัวอย่างแรก เมื่อสหรัฐฯ เปิดนโยบายตัดขาดความสัมพันธ์กับ Huawei ทำให้ Google ตัดขาดความสัมพันธ์ตามนโยบายรัฐ ส่งผลต่อการใช้งานสมาร์ทโฟนของ Huawei จนต้องมีการพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองขึ้นมาทดแทน นั่นเพราะไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่เคยมีใครคาดคิดและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

สถานการณ์ COVID-19 ก็เช่นกันถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะรุนแรงและลุกลามได้เท่านี้ เมื่อเทียบกับไข้หวัดนกและ SARS ที่สำคัญจุดกำเนิดของ COVID-19 ยังเป็นประเทศจีน แหล่งผู้ผลิตและซัพพลายเออร์รายใหญ่ของโลก จนส่งผลกระทบต่อหลายธุรกิจทั่วโลกที่มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศจีน แม้ในปัจจุบันยังไม่เห็นวี่แววการฟื้นตัวกลับเข้าสู่สถานการณ์การผลิตที่เป็นปกติ

ผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ ก็เช่นกันที่มีโรงงานผลิตและซัพพลายเออร์อยู๋ในจีนจำนวนมาก ส่งผลต่อกระบวนการผลิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และแน่นอนว่าการย้ายฐานการผลิตอย่างเร่งด่วนไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งการผลิตในจีนยังมีต้นทุนต่ำกว่า เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศและมีผลโดยตรงต่อราคาขายรถยนต์

ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ เริ่มมองประเทศอื่นที่มีศักยภาพใกล้เคียงจีนในการผลิตและซัพลายเออร์เพื่อกระจายความเสี่ยงเป็นการ Risk Management โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งประเทศที่ถูกจับตามองเนื่องจากมีการผลิตรถยนต์สูงถึงปีละประมาณ 2 ล้านคัน โดยประมาณ 50% ผลิตเพื่อการส่งออก ส่วนอินโดนีเซียก็ถูกจับตามองด้วยกาผลิตรถยนต์ถึง 1 ล้านคันต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

และอินเดียเป็นอีกประเทศที่ถูกจับตา ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามการค้า (Trade War) ระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์มีการเดินทางไปยังอินเดีย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ขณะที่บริษัทด้านเทคโนโลยีเริ่มกระจายความเสี่ยงไปยังประเทศเหล่านี้แล้ว อย่าง Apple, Google และ Microsoft เป็นต้น ที่มีการประกาศแผนในการย้ายฐานการผลิตไปยังไต้หวัน, เวียดนามและไทย

Source: Automotive News

Related posts:

Apple ทำสถิติมูลค่าในตลาดหุ้นสูงที่สุดแตะ 2 ล้านล้านดอลลาร์ หลังส่งสัญญาณลดการพึ่งพา iPhone 4 Big Tech ที่ปีนี้มีโอกาสขยายตลาดเข้าสู่ Health Tech หลังวิกฤติโรคระบาดผลักดันเร่งให้เทคโนโลยีด้านสุขภาพเกิด หนึ่งตัวอย่างผลกระทบทางธุรกิจจาก Coronavirus ส่งให้ยอดขาย Apple ลดลง หนีซิ!!! จะรออะไรหละ? เมื่อ Foxconn เตรียมย้ายฐานการผลิตออกนอกจีน Apple-Google-Amazon Top 3 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุด ปี 2018 Apple โบกมือ!!! ยังไม่ร่วม AI กับ Google และ Facebook นะจ๊ะ