เท่าที่จำได้ ‘จีน’ เป็นประเทศแรกที่เปิดประเทศอย่างเป็นทางการ และได้ประกาศ Zero สำหรับยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศด้วย ในขณะที่ทั่วโลกยังมีการระบาดของไวรัสใน wave 2 อยู่เรื่อยๆ นั่นหมายความว่า สถานการณ์การระบาดยังวางใจไม่ได้ แม้แต่ภายในจีนเองยังต้องปรับเปลี่ยนวิธีทางอุตสาหกรรมอยู่มากพอสมควร
ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ชี้ว่า ยอดผลิตหุ่นยนต์ในจีนในเดือน พ.ค. เติบโตถึง 16.9% เทียบปีต่อปี ขณะที่ในระหว่างเดือน ม.ค. ถึง พ.ค.ที่ผ่านมา มีการผลิตหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในจีนมากขึ้นจนน่าตกใจถึง 72,619 ตัว เพิ่มขึ้นราว 6.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้
“ภาคอุตสาหกรรมของจีนได้นำระบบ Automation มาใช้งานในโรงงานมากขึ้นอีก (จากเดิมที่ปี 2019 มีการใช้งานเป็นสัดส่วนที่สูงขึ้น) ตั้งแต่ที่มีการระบาดของไวรัส COVID-19 เพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านการผลิตที่มาจากการใช้แรงงานคน นอกจากนี้ต้องพยายามยกระดับมาตรฐานสินค้าให้สูงขึ้นด้วย”
หากย้อนไปในปี 2019 พบว่า ยอดการผลิตหุ่นยนต์ของจีนลดลง 3.1% เพราะสภาวะทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เซอร์ไพรส์ก็คือ หลังจากที่มีการระบาดของไวรัสดังกล่าว การผลิตหุ่นยนต์ในจีนก็กลับมาเร่งเครื่องเต็มกำลังทันที
ที่น่าสนใจก็คือ จีน เป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตหุ่นยนต์เพื่อป้อนอุตสาหกรรมเบอร์ Top ของโลก ดังนั้น การเคลื่อนไหวของจีนเกี่ยวกับ robot จึงควรจับตามอง เพราะสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางของโลกในอนาคตได้อย่างดี
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า สาเหตุที่มีการผลิตหุ่นยนต์เพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมของจีนมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากโรงงานและผู้ประกอบการในจีน มีความกังวลว่า การติดเชื้อ COVID-19 ในกระบวนการทำงานอาจกลับมาอีกครั้งได้ หากพนักงานในโรงงานผลิตทำงานใกล้ชิดกันมากจนเกินไป
ขณะเดียวกัน จีน เองก็ประสบปัญหาจำนวนคนในวัยทำงานลดน้อยลงเรื่อยๆ มานานหลายปี รวมไปถึงค่าจ่างแรงงานที่สูงขึ้น จนทำให้เสียเปรียบประเทศคู่แข่งในประเทศอื่นได้ ซึ่งที่ผ่านมามีหลายบริษัทที่โยกย้ายตัวเองออกจากจีน แล้วไปประเทศอื่นในอาเซียน รวมทั้ง ประเทศไทยด้วย
ที่มา : ecns.cn, chinadailyhk
