ตามแผนที่วางไว้ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 จะมีการประกาศคลายล็อกดาวน์เฟส 2 โดยในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ทาง ศบค.จะมีการประชุมใหญ่ เพื่อหาข้อสรุปว่า จะมีการผ่อนปรนให้กิจการใดเปิดได้บ้าง ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็คือ ธุรกิจห้างสรรพสินค้า , ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ รวมไปถึงร้านเสริมสวย และร้านเสริมความงาม
ทาง นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า กิจการและสถานที่ที่จะนำมาพิจารณามาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 นั้น จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1.กลุ่มกิจการด้านเศรษฐกิจการดำเนินชีวิตในประจำวัน ประกอบด้วย
กลุ่ม ก. – การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร และร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ไอศกรีม ในอาคารสำนักงาน
กลุ่ม ข. – ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ยกเว้นโรงภาพยนตร์ ฟิสเนส โบว์ลิ่ง สวนสนุก สวนน้ำ ศูนย์ประชุม ศูนย์พระเครื่อง
กลุ่ม ค. – ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง
กลุ่ม ง. – ร้านเสริมสวย ย้อมผม ตัดผม หรือ กิจกรรมอื่นๆ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง และร้านทำเล็บ
2.กลุ่มกิจกรรมด้านออกกำลังกาย หรือ การดูแลสุขภาพ ได้แก่
กลุ่ม ก. – คลินิก เวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม ควบคุมน้ำหนัก
กลุ่ม ข. – สนามกีฬา เฉพาะกีฬากลางแจ้ง และตามกติกาสากล เล่นเป็นทีม ไม่มีผู้ชม
กลุ่ม ค. – ศูนย์ดอกไม้ สวนพฤษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ แกลอรี ห้องสมุด สวนสาธารณะ (เข้าเป็นรายคน) และสถานประกอบการนวดแผนไทย (เฉพาะนวดเท้า)
3.กลุ่มอื่น ๆ
ได้แก่ การประชุม ณ สถานที่ภายในหรือ ภายนอกองค์กร ลักษณะการบรรยาย ร่วมกับวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ (จำกัดจำนวนคนตามพื้นที่) ทีมถ่ายทำรายการโทรทัศน์ โฆษณา ถ่ายแบบ ทำคลิบ (จำนวนไม่เกิน 5 คน)
โดยกิจการทั้งหมดนี้ ทาง ศบค.จะนำเข้าไปพิจารณาในที่ประชุมชุดใหญ่ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธาน เพื่อหาข้อสรุปในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563
