ในช่วงกว่า 7 ทศวรรษที่ผ่านมา “จีน” สามารถพลิกโฉมประเทศ จากประเทศยากจน มาสู่ “มหาอำนาจของโลก” โดยเฉพาะในช่วงกว่า 10 ปีมานี้ “จีน” เร่งพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเป็นการขับเคลื่อนไปด้วยกันทั้งองคาพยพ คือ รัฐบาล – ภาคเอกชน – ประชาชน
ปี 2019 จะเรียกว่าเป็นปีแห่ง Trade War สถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนหน้านั้น และ Tech War ระหว่างจีน – สหรัฐก็ว่าได้ ซึ่งภาพที่ปรากฏชัดต่อสายตาประชาคมโลก คือ จีนพยายามแสดงให้เห็นถึงบทบาทความเป็น “พี่ใหญ่” (Hegemony) ทั้งด้านเศรษฐกิจ และของโลก
ในขณะที่ภาคเอกชน หลายรายสามารถก้าวขึ้นมาเป็น Global Company ได้สำเร็จ โดยเฉพาะ Tech Company ที่วันนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แบรนด์จีน แพลตฟอร์มเทคโนโลยีจีน และ Made in China สามารถผลักดันเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลก ส่วนภาคประชาชน ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเวลานี้ “คนจีน” คือ ลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่มีศักยภาพ และกำลังซื้อสูง
ปี 2020 จะเป็นอีกปีที่ต้องจับตามอง “ประเทศจีน” เพราะการขยับตัวแต่ละครั้งของดินแดนมังกรแห่งนี้ สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก !!
เมื่อประเทศจีนเป็นตลาดใหญ่ และธุรกิจไทย – ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ไทย ก็ต้องการเจาะกลุ่มผู้บริโภคจีน ดังนั้นในช่วงเดือนธันวาคมนี้ “MarketingOops! Podcast China Market Insights” จึงนำเสนอตอนพิเศษ (Special Episode) ว่าด้วยเทรนด์ “China Trends 2020” ประกอบด้วย 5 ตอนย่อย
– เทรนด์ “e-Commerce”
– เทรนด์ “Social Media”
– เทรนด์ “Marketing”
– เทรนด์ “นักท่องเที่ยวชาวจีน”
– เทรนด์ “ตลาด Luxury Brand กับผู้บริโภคจีน”
เริ่มต้นด้วย Special Episode 1 “จับตา “6 e-Commerce Trends” ประเทศจีน ปี 2020”
เป็นที่ทราบกันดีว่าแพลตฟอร์ม e-Commerce ของจีนพัฒนาไปไกล และเป็นยักษ์ใหญ่ระดับโลก โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม e-Commerce ในเครือ Alibaba เช่น Taobao (C2C), Tmall (B2C) ที่มีทั้งผู้ประกอบการ และลูกค้าซื้อขายกันบนแพลตฟอร์มจำนวนมหาศาล แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2020 มีอยู่ด้วยกัน 6 เทรนด์คือ
เทรนด์ที่ 1 ผู้ประกอบการจะค้าขายยากขึ้น เพราะจากสถิติ 80% ของการซื้อขายบน Taobao หรือ Tmall มาจากร้านค้าที่มียอดขายท็อปๆ 200,000 ร้าน ขณะที่อีก 20% มาจากร้านค้าที่มีผู้ติดตาม (Follower) จำนวนมาก
ดังนั้น ในกรณีนี้ ใครที่เป็นผู้ประกอบการ หรือผู้ขายออนไลน์รายเล็ก ควรหาช่องทางการขายออนไลน์อื่นๆ หรือใช้โมเดล Partnership เช่น เป็นพาร์ทเนอร์กับร้านค้าออนไลน์ที่มียอดขายดี
เทรนด์ที่ 2 “Cross-border e-Commerce” การซื้อขายสินค้าต่างประเทศในประเทศจีนเมื่อก่อน มีตัวแทนการขายยกหิ้วข้ามไป แต่ปัจจุบันหลายแพลตฟอร์ม e-Commerce ของจีนหลายราย ได้เปิดบริการ Cross-border แล้ว
ผู้ประกอบการไทยรายไหนที่ต้องการทำ Cross-border นำสินค้าไปขายบนแพลตฟอร์ม e-Commerce จีน ต้องลงทะเบียนก่อน จากนั้นดำเนินการตามขั้นตอนที่แพลตฟอร์มกำหนดไว้ ทีนี้ก็จะสามารถขนส่งสินค้าไปลงที่ Warehouse ที่จีนได้ และขายสินค้าได้อย่างถูกกฎหมาย
เทรนด์ที่ 3 “Content to Commerce” ที่ผ่านมาเราเคยได้ยินคำว่า Social Commerce กันมาแล้ว เป็นการซื้อขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม Social Media ช่วงระยะหลังมานี้ จะเห็นปรากฏการณ์ Live ขายของ ซึ่งไม่ใช่มาแรงแค่ในไทย แต่ที่ประเทศจีน ก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน
แต่ในปี 2020 การซื้อขายออนไลน์ของประเทศจีนพัฒนาไปอีกขั้น เพราะต่อไปเวลาค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเกี่ยวกับแบรนด์ หรือร้านค้า หรือเวลาดู Live ขายของ สามารถคลิ๊กเข้าไปที่หน้าแพลตฟอร์ม e-Commerce ที่สินค้านั้นวางขายอยู่ได้ทันที พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้าน
และเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อ ในการทำ “Content to Commerce” ผู้ประกอบการอาจต้องจ้าง Net Idol หรือ Influencer และ Tag ร้าน หรือผลิตภัณฑ์ของเรา
เช่น Alibaba มีแพลตฟอร์มสำหรับ Live โดยเฉพาะ ได้เอา Net Idol มา Live สินค้าแฟชั่นผ่านแพลตฟอร์มนี้ ใครที่สนใจสินค้านั้นๆ สามารถคลิ๊กซื้อที่ Taobao ได้ทันที และจัดส่งถึงบ้าน
เทรนด์ที่ 4 “Fragmented แพลตฟอร์มแตกแยกย่อย” เมื่อก่อนแพลตฟอร์ม e-Commerce ของจีน เป็นแพลตฟอร์มใหญ่ ที่ครอบคลุมสินค้าทุกหมวดหมู่ แต่ปี 2020 จะกลายเป็น Fragmented Platform มากขึ้น นั่นคือ จะเห็นแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน จับ Niche Market โฟกัสกลุ่มสินค้าที่ขายโดยเฉพาะมากขึ้น
เช่น “Xiaohongshu” จากแอปฯ รีวิว โดยเฉพาะด้านความสวยความงาม – แฟชั่น ต่อมาขยายมาทำช้อปปิ้งออนไลน์ด้วย ก็โฟกัสสินค้าความงาม และแฟชั่นเป็นหลัก
หรือ “Kaola” แพลตฟอร์ม e-Commerce ที่ Alibaba ซื้อกิจการ โฟกัสการเป็นช้อปปิ้งออนไลน์สินค้าคุณภาพสูงนำเข้าจากต่างประเทศ
เทรนด์ที่ 5 สินค้าความงามในจีน หันมาใช้ “Metrosexual Men” เป็นพรีเซนเตอร์ จะเห็นปรากฏการณ์แบรนด์แฟชั่น และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ผู้หญิงในจีน ใช้ผู้ชายจีน หรือดาราชายจีนที่มีสไตล์ “Metrosexual” มาเป็นพรีเซนเตอร์ สะท้อนให้เห็นว่ากำแพงระหว่างผู้ชาย – ผู้หญิงในจีนเริ่มลดลงแล้ว
เทรนด์ที่ 6 Unique Selling Point หัวใจสร้างความต่าง ไม่ว่าจะขายอะไร สินค้าอยู่ในหมวดหมู่ใดก็ตาม สินค้า หรือแบรนด์นั้น ต้องมีความแตกต่างจากแบรนด์อื่น ที่ผ่านมาจะเห็นกระแสทำตามกัน เช่น เห็นคนอื่นทำแบรนด์ลิปสติก หรือผลิตภัณฑ์ Mask หน้า แล้วทำตามๆ กันเป็นจำนวนมาก หรือที่เรียกว่า “Me Too Product” ในปี 2020 สินค้าที่ไม่มีความแตกต่าง หรือทำตามกัน จะไม่เวิร์คอีกต่อไป
และนี่คือ 6 เทรนด์ e-Commerce ที่จะเกิดขึ้นในประเทศจีน ปี 2020 สำหรับ Special Episode ตอนที่ 2 จะว่าด้วย “Social Media Trends” ไปดูกันว่าในปีหน้า คนจีนจะฮิตใช้แพลตฟอร์มอะไร และเทรนด์การตลาดบน Social Media จะเป็นอย่างไร ?!?
ไม่ควรพลาด MarketingOop! Podcast China Market Insights ตอนพิเศษ “China Trends 2020”
สามารถติดตามรับฟัง Marketing Oops! Podcast
ผ่านทางช่องทางต่างๆ ได้ที่
