เจาะ Insight การใช้ Facebook ของ “คนอกหัก” เศร้าได้ ช้อปได้

  • 185
  •  
  •  
  •  
  •  

shutterstock_122714101-700

ว่ากันว่า คนที่มีอายุประมาณ 50 ปี จะเคยอกหักมาแล้ว 3 ครั้ง และจากจำนวนประชากรโลก 7,300 ล้านคน จะมีจำนวนคนที่อกหักในโลกถึง 1,200,000 คนต่อวัน หรือหากแทนค่าในสูตรคำนวณ จำนวนประชากรของประเทศไทยกว่า 65 ล้านคน จะพบว่ามีคนไทยอกหักถึงประมาณ 10,805 คนต่อวัน หรือประมาณ 4 ล้านคนต่อปี

ในมุมมองของนักการตลาด “คนอกหัก” เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่น่าสนใจและเป็นโอกาสทางการสื่อสารการตลาดที่ดี เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมาก มีกำลังซื้อและมีพฤติกรรมการใช้ Facebook เพิ่มขึ้น

จากการวิจัยหัวข้อ “พฤติกรรมการใช้เฟซบุ๊กและพฤติกรรมการบริโภคสินค้าและบริการของคนอกหัก” โดย คุณสุภาพร พัฒนะ นักศึกษาหลักสูตรนิเทศศาสตร์การตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า “คนอกหัก” หมายถึง ภาวะที่บุคคลผิดหวังจากความรัก ทำให้รู้สึกเป็นทุกข์ มีความโศกเศร้าเสียใจ ร้องไห้ คร่ำครวญ พรรณนาถึงคนรัก เนื่องจากผิดหวังจากความรักแบบเสน่หามีการคบหาและผูกพันกัน ระหว่างเพศหญิงและเพศชาย เพศชายและเพศชาย เพศหญิงและเพศหญิง ทั้งนี้รวมถึงการหย่าร้างของคู่รัก เป็นบุคคลที่ผิดหวังในความรัก สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มดังนี้

1.กลุ่มคนที่เลิกกับแฟน/คนรัก
2.กลุ่มคนที่หย่าร้าง
3. กลุ่มคนที่นิยามตนเองว่าเป็นคนอกหัก

จากผลวิจัยพบข้อมูลที่น่าสนใจที่นักการตลาดสามารถนำไปต่อยอดและแบรนด์สามารถนำไปใช้ในการออกแบบสื่อสารการตลาดเพื่อสื่อถึงการให้กำลังใจกับผู้ที่อกหักได้ดังนี้ คือ

10 อันดับของลักษณะการใช้ Facebook ของคนอกหัก

คนอกหักส่วนใหญ่ใช้งาน Facebook เพิ่มขึ้นในเกือบทุกหมวด โดยแสดงออกด้วยการกดถูกใจมากที่สุด 65.30% ตามมาด้วย การใช้เพื่ออ่านข่าวสาร หนังสือพิมพ์และเรื่องราวต่างๆ, 60.40% ใช้อัพโหลดรูปภาพ เพลง คำคม หรือคลิปต่างๆ ที่แทนความรู้สึกขณะนั้น ใช้อัพโหลดเพลงหรือแชร์รูปภาพ เพลง คำคมที่มีเนื้อหาให้กำลังใจตัวเองและใช้ Comment บน Status รูปภาพ บทความ ลิ้งค์ต่างๆ ของเพื่อนเพิ่มขึ้นเท่ากัน 55.20% นอกจากนี้คนอกหักมีการอัพเดท Status เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เพิ่มขึ้น 53.00% มีการเช็คอินสถานที่ต่างๆ ที่ไป 52% อัพโหลดและแชร์ลิ้งค์บทความจากเว็บไซต์และบล็อกต่างๆ บน Facebook 51.70% ส่งข้อความคุยกับเพื่อนหรือคนรู้จัก 51.20% และโพสต์รูปกิจกรรมประจำวัน 48.70%

info 1

คนอกหักใช้ Facebook ถี่ขึ้นแต่ระยะเวลาไม่นาน

โดยช่วงเวลาที่ใช้ Facebook บ่อยที่สุดในช่วงอกหัก คือ ทุกช่วงเวลา 49.50% ระยะเวลาในการใช้ต่อครั้ง คือ 1 – 2 ชั่วโมง 33.20% และ 68.50% ใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือ

info 2

10 เหตุผลที่คนอกหักใช้เฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น

• 77.70% ติดต่อสื่อสาร/สนทนา
• 48.50% สังเกตพฤติกรรมคนรักเก่า
• 44.80% แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความรัก
• 41.10% ระบายอารมณ์
• 39.10% ติดตามข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์
• 33.70% ใช้แสดงข้อดีของตนเอง เช่นสวยขึ้น หล่อขึ้น
• 33.20% ถ่ายทอดความรู้สึก
• 31.40% ใช้หาแฟนใหม่
• 22.30% ใช้ประชาสัมพันธ์สินค้า บริการ ธุรกิจและองค์กร
• 3.5% ใช้สร้างกระแสเพื่อได้ยอดไลก์

info 3

ที่น่าสนใจคือ ในขณะที่มีการอกหักจะมีพฤติกรรมการบริโภคสินค้าและบริการมากขึ้น ดังนี้

1. 49.30% การซื้อเครื่องแต่งกาย เช่น เสื้อผ้า กางเกง ฯลฯ
2. 42.80% บริการร้านอาหารและเครื่องดื่ม
3. 41.60% มีการซื้ออาหารและเครื่องดื่ม
4. 39.90% การใช้บริการสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน เช่น สถานบันเทิง สวนสัตว์
5. 38.20% เข้าฟิตเนส

10 อันดับสินค้าและบริการที่คนอกหักสนใจทำมากที่สุด

สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ได้สะท้อนให้เห็นข้อมูลน่าสนใจของคนอกหักที่เชื่อมโยงกับประเภทธุรกิจและบริการ ดังนี้

1. แฟชั่นและเครื่องแต่งกาย เช่น เสื้อผ้า กางเกง ฯลฯ ผลการศึกษาพบว่าคนอกหักมีแนวโน้มบริโภคสินค้าเกี่ยวกับแฟชั่น เช่น การซื้อเครื่องแต่งกายเพิ่มขึ้นจากเดิม 49.3% การซื้อกระเป๋า/รองเท้า เพิ่มขึ้น 36.90% และการซื้อเครื่องประดับ เพิ่มขึ้น 26.00% ดังนั้น นักการตลาดควรจะศึกษาเกี่ยวกับเทรนด์ แฟชั่นใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมถึงช่องทางในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ สินค้าหรือโปรโมชั่นผ่าน Facebook เช่น เพจเกี่ยวกับคนอกหัก หรือช่องทางอื่นๆ ที่คนอกหักใช้ เป็นต้น

2. ร้านอาหาร อาหารและเครื่องดื่ม ผลการศึกษาพบว่าคนอกหักมีแนวโน้มบริโภคอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอื่นๆ ต่อธุรกิจและบริการ ผลการศึกษาพบว่า คนอกหักอยากให้มีอยากให้มีสภาพแวดล้อมดีๆ ที่นั่งสบายใจ 29.60% นักสื่อสารการตลาดควรจะมีโปรโมชั่นเกี่ยวกับส่วนลดในการสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่ม หรือแอพพลิเคชั่นรวมโปรโมชั่นอาหาร หรือส่วนลดต่างๆ สาหรับคนอกหักโดยเฉพาะ เป็นต้น

3. การท่องเที่ยว ผลการศึกษาพบว่าคนอกหักมีแนวโน้มบริโภคสินค้าและบริการประเภท ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรม ซึ่งสอดคล้องกับการอยากได้บัตรลดที่พักริมทะเล ตามเกาะต่างๆ ฯลฯ 19.50% ดังนั้นธุรกิจควรมีโปรโมชั่นเกี่ยวกับส่วนลดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว หรือที่พัก รวมถึงแอพพลิเคชั่นในการจองที่พัก โปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ ของที่พัก หรือโรงแรม เป็นต้น

4. ของใช้และเวชภัณฑ์ เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์บำรุงผม จากผลการศึกษา พบว่าคนอกหักมีแนวโน้มบริโภคสินค้าประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะเพศหญิง ดังนั้นนักสื่อสารการตลาดควรพิจารณาวางแผนเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่างๆ ในหมวดธุรกิจนี้ เช่น ส่วนลดในการซื้อสินค้า โปรโมชั่นพิเศษสาหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องสำอาง มีบริการสอนแต่งหน้าฟรี เป็นต้น

5. การทำบุญ การปล่อยนกปล่อยปลา การถวายสังฆทาน ฯลฯ ผลการศึกษาพบว่า คนอกหักมีแนวโน้มที่จะเข้าวัดทาบุญเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเพศหญิง เมื่อพิจารณาจากปัจจัย อาทิ ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ คนไทยใจบุญ ความตึงเครียดทางสังคมทำให้คนหันหน้าเข้าวัดมากขึ้น เป็นต้น

6. ธุรกิจประเภทฟิตเนส ผลการศึกษาพบว่าคนอกหักมีแนวโน้มใช้บริการฟิตเนสเพิ่มมากขึ้น 38.20% ซึ่งสอดคล้องกับยุคปัจจุบันที่ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก รวมถึงคนอกหักหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น ดังนั้นนักสื่อการตลาดหรือธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มคนอกหักที่หันมาออกกำลังกาย

7.ธุรกิจหรือโครงการที่เปิดโอกาสให้คนอกหักกับการระบายอารมณ์ ผลการศึกษา พบว่าในช่วงอกหัก คนอกหักใช้เฟซบุ๊กในระบายอารมณ์ และเป็นช่องทางปลดปล่อยเรื่องที่ไม่สามารถพูดได้เช่น เกลียดคนนั้น แอบชอบคนนั้น ซึ่งธุรกิจที่มีโอกาสในการสื่อสารการตลาดกับคนอกหัก ได้แก่ ธุรกิจหรือโครงการที่เปิดโอกาสให้คนอกหักสามารถระบายอารมณ์ผ่านทางเฟซบุ๊กได้ เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับเกมส์ระบายอารมณ์ผ่าน Facebook เป็นต้น

8.ธุรกิจประเภทหาคู่ผ่านทาง Facebook หรือแอปพลิเคชั่นในการหาคู่ ผลการศึกษาพบว่า ในช่วงอกหัก คนอกหักใช้เฟซบุ๊กในการหาแฟน หาสามี/ภรรยา หากิ๊ก เป็นต้นมากกว่าก่อนอกหัก ดังนั้นธุรกิจที่มีโอกาสในการสื่อสารการตลาดกับคนอกหัก ได้แก่ ธุรกิจประเภทหาคู่ผ่านทาง Facebook หรือแม้กระทั่งแอพพลิเคชั่นในการหาคู่

9.ธุรกิจประเภทอุปกรณ์หรือโปรแกรมถ่ายภาพและตกแต่งภาพ ผลศึกษาพบว่า ในช่วงอกหัก คนใช้เฟซบุ๊กเพื่อสร้างกระแส เพิ่มจำนวนยอดถูกใจ (Like) เช่น โพสรูปภาพหรือวีดีโอ สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร ดอกไม้ ผู้คน สัตว์เลี้ยง มุขตลก คำคม ฯลฯมากกว่าก่อนอกหัก ดังนั้นธุรกิจที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการใช้เฟซบุ๊กนี้ได้แก่ ธุรกิจประเภทกล้องถ่ายรูป ที่สามารถถ่ายภาพและอัพโหลดได้ทันที หรือแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพหรือแต่งภาพ เป็นต้น

10. ธุรกิจประเภทเสริมความงาม ผลการศึกษาพบว่าธุรกิจและบริการที่คนอกหักอยากให้มี ผลการศึกษาพบว่าคนอกหักอยากได้ส่วนลดหรือสิทธิพิเศษจากธุรกิจเสริมความงาม ซึ่งสอดคล้องกับปัจจุบันที่ธุรกิจเสริมความงามได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก รวมถึงคนอกหักหันมาใส่ใจดูแลตัวเอง รักสวยรักงามมากยิ่งขึ้น ดังนั้นนักสื่อการตลาดหรือธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มคนอกหักที่ธุรกิจเสริมความงาม

info 4

สำหรับหมวดสินค้าและบริการที่คนอกหักบริโภคเพิ่มมากขึ้นในช่วงอกหักมากที่สุดคือ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม 3.44% หมวดแฟชั่นเท่ากับหมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ 3.37% และน้อยที่สุดคือของใช้ในครัวเรือนและสำนักงานเท่ากับหมวดประกันชีวิตและประกันภัยเฉลี่ย 3.01%

นอกจากนี้ คนอกหักยังต้องการบริการเพิ่มเติมจากธุรกิจและบริการ คือ อยากให้มีสภาพแวดล้อมดีๆ ที่นั่งสบายใจ 29.60% รองลงมาอยากได้บัตรลดที่พักริมทะเล ตามเกาะต่างๆ 19.50% และอยากให้มีอาหารให้เลือกมากมาย 16.00%

info 5

แม้ว่า Facebook จะเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีในการสำรวจความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย แต่จากการศึกษาพบว่า ในช่วงก่อนอกหัก คนอกหักเกือบครึ่งหนึ่งมีการตั้งสถานะความสัมพันธ์ (Relationship) ใน Facebook เป็น “โสด (Single)” 61.30% ในขณะที่ช่วงอกหัก มากกว่าครึ่งหนึ่งของคนอกหักไม่เปลี่ยนสถานะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ 61.40% ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า หากนักสื่อสารการตลาดต้องการสำรวจข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนอกหัก นักสื่อสารการตลาดจะไม่สามารถสำรวจข้อมูลจากการตั้งสถานะความสัมพันธ์บนเฟซบุ๊กได้

นอกจากนี้ คนอกหักมี การตั้ง # แฮชแท็ก เช่น #อกหัก #คนอกหัก #โดนเท #ถูกทิ้ง ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งแฮชแท็กมีจุดประสงค์ในการใช้คือรวมเนื้อหาหรือเรื่องราวโพสต์ที่มีความใกล้เคียงกันมารวมเข้าไว้เป็นหมวดเดียวกันได้ ซึ่งแฮชแท็กเหล่านี้สามารถเป็นฐานข้อมูลคนอกหักได้ดีกว่าสถานะสัมพันธ์บน Facebook

แหล่งที่มา
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ผู้วิจัย นางสาวสุภาพร พัฒนะ
อาจารย์ที่ปรึกษา ดร.สุทธนิภา ศรีไสย์

 

 


  • 185
  •  
  •  
  •  
  •