ปฎิเสธไม่ได้ว่า ปัญหาเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี มาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED มีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่ง SCB CIO ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ประเมินระดับเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ช่วงไตรมาส 2 อาจปรับลดลงช้ากว่าที่คาดจากเรื่องภาวะสงครามการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ปะทุความรุนแรง และวิกฤตพลังงานและอาหารที่ยังอาจเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเริ่มอยู่ในช่วงการทยอยลดอัตราเร่งลง แต่ระดับของดอกเบี้ยพันธบัตรยังอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่อัตราการเร่งขึ้นจะทยอยช้าล งและสามารถลดระดับลงได้ในช่วงครึ่งหลังของปีประกอบกับปัจจัยตลาดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มมีแนวโน้มการเติบโตในอัตราที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดได้ว่าอนาคต เส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve) อาจจะเริ่มทยอยปรับลดลง จึงมองโอกาสการลงทุนอยู่ในหุ้นกู้ชั้นดีของบริษัทภาคเอกชนโลก เช่น ตราสารหนี้ระดับ Investment Grade เช่น อันดับ A – เป็นต้นไป
ขณะที่หุ้นกู้ภายในประเทศไทย เช่น หุ้นกู้ภาคเอกชน SCB CIO ธนาคารไทยพาณิชย์ มองว่าดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวของไทยได้ปรับขึ้นตามดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯไปแล้วสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดทั่วโลกจากเงินเฟ้อสูง แม้ว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังไม่ปรับขึ้นก็ตามเพราะเศรษฐกิจไทย พึ่งเริ่มฟื้นตัวและค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่า อีกทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทยมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ตลาดตราสารหนี้ไทยจึงเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น ทั้งจากดอกเบี้ยนโยบายไทยที่จะขึ้นช้ากว่าเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายประเทศอื่น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ และหากจะมีการปรับขึ้น เราคาดว่าระดับการขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายไทย จะน้อยกว่าประเทศสหรัฐ ดังนั้นการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนไทยที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ investment grade เช่นอันดับ A – เป็นต้นไป จึงน่าสนใจทยอยเข้าลงทุนเช่นกัน
4 เดือน บริษัทเสนอขายหุ้นกู้เฉลี่ยสูงถึง 1.05 แสนล้านบาทต่อเดือน
ภายหลังจากที่นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้จำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่า ในฝั่งผู้ซื้อหุ้นกู้ที่เป็นกลุ่มนักลงทุนบุคคล ยังมีเงินออมมาก ต้องการกระจายการลงทุน โดยหุ้นกู้ให้ผลตอบแทนจูงใจกว่าเงินฝาก แม้ทิศทางบอนด์ยิลด์สหรัฐขยับขึ้นแต่ทิศทางดอกเบี้ยในประเทศยังระดับต่ำ นอกจากนี้ที่สำคัญธนาคารพาณิชย์ได้พัฒนาโมบายแอปฯ ทำให้นักลงทุนบุคคลเข้าถึงการซื้อขายหุ้นกู้ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นกว่าในอดีต อีกทั้งช่องทางนี้ทำให้นักลงทุนหุ้นกู้รายใหม่ๆ กลุ่มนักลงทุนอายุน้อยเข้ามาซื้อหุ้นกู้ จากเดิมผู้ซื้อหุ้กู้ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนที่ลงทุนหุ้นกู้อยู่แล้ว และเป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือกลุ่มวัยเกษียณ
สำหรับในช่วง 4 เดือนแรกปี 2565 สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) พบว่ามีบริษัทที่เสนอขายหุ้นกู้เฉลี่ยสูงถึง 1.05 แสนล้านบาทต่อเดือน และในไตรมาส 2 ปีนี้ ภาคธุรกิจยังคงนิยมแห่ออกหุ้นกู้กันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ที่มียอดการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชน 2.68 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการออกหุ้นกู้ของบริษัทต่าง ๆ เพิ่มขึ้นได้
ดังนั้น แนวโน้มในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ยังมีอีกหลายบริษัทที่เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ระดมเงินลงทุนและให้ดอกเบี้ยสูง โดยหุ้นกู้ที่เสนอขายส่วนใหญ่เป็นของบริษัทที่มีเชื่อสียงและมีเครดิตเรตติ้งที่ดี ซึ่งทางสมาคมตลาดตราสารหนี้คาดการณ์ว่า ในปีนี้จะมีการเสนอขายหุ้นกู้กว่า 1 ล้านล้านบาท เช่นเดียวกับปี 2564 ที่มียอด 1.3 ล้านล้านบาท
9 บริษัทมหาชน เตรียมทยอยออกหุ้นกู้ ในเดือน มิ.ย.65 นี้
1.บมจ.ปริญสิริ (PRIN) ออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี 6 เดือน ดอกเบี้ย 5.2%
บมจ.ปริญสิริ (PRIN) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 ครบกำหนดไถ่ถอน ปี พ.ศ. 2568 จำนวนเสนอขายไม่เกิน 400,000 หน่วย และหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายไม่เกิน 100,000 หน่วย รวมไม่เกิน 500,000 หน่วย หุ้นกู้มีอายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.20% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ราคาที่เสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท โดยจะเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 6-8 มิ.ย.65 มีบล.โกลเบล็ก บล.เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
2.บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ออกหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนทั่วไป ดอกเบี้ย 3.45-3.90%
บมจ. เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 3 รุ่น ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราผลตอบแทน 3.45% ต่อปี หุ้นกู้ 4 ปี อัตราผลตอบแทน 3.75% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 4 ปี 11 เดือน 30 วัน อัตราผลตอบแทน 3.90% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน โดยคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 2 มิถุนายน และวันที่ 6-7 มิถุนายน 2565 นี้ โดยบริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป โดยในครั้งนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด และใช้ในการประกอบธุรกิจและขยายกิจการของบริษัทต่อไป
3.บมจ.ยูเอซีโกลบอล (UAC) ออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 4.80%
บมจ.ยูเอซีโกลบอล (UAC) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่1/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 500 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 1,000 บาท ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.80% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุของหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ช่วงวันที่ 9 -10 และ 13 มิ.ย.65 บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อใช้ชำระคืนหนี้หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 65 วงเงิน 300 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท
4.บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) ออกหุ้นกู้ 1 – 2 ปี ดอกเบี้ย 4.70 – 5.60%
บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ (ANAN) ได้ยื่นข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 1 ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 4.70% ต่อปี และรุ่นอายุ 2 ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.60% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยคาดว่าจะเสนอขายในช่วงวันที่ 10 และ 13-14 มิถุนายน 2565
ทั้งนี้ บริษัทได้แต่งตั้งสถาบันการเงิน 7 แห่ง เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
5.บมจ.เอเซีย พรีซิชั่น (APCS) ออกหุ้นกู้อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 6%
บมจ.เอเซีย พรีซิชั่น (APCS) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน” อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.00% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ จำนวนเสนอขายไม่เกิน 400 ล้านบาท ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท โดยเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่าน บล.เคทีบีเอสที และ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ ในช่วงวันที่ 13-15 มิ.ย.65 เพื่อใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
6.บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) ออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี
บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.60% ต่อปีจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน เปิดจองวันที่ 13-15 มิ.ย. 2565 สามารถจองซื้อผ่านสถาบันการเงิน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัดและบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และมี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ วัตถุประสงค์เพื่อชำระคืนหนี้หุ้นกู้เดิมซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอน
7.บมจ.เนอวาดา ไดอิ (NVD) ออกหุ้นกู้อายุ 1 -2 ปี ดอกเบี้ย 6.5-6.8%
บมจ.เนอวาดา ไดอิ (NVD) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 1/2565 มูลค่าไม่เกิน 1,200 ล้านบาท โดยมีจำนวนเสนอขายไม่เกิน 800 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพิ่มเติมไม่เกิน 400 ล้านบาท ดังนี้
• ชุดที่ 1 จำนวนเสนอขายไม่เกิน 300 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองการขายเพิ่มเติมไม่เกิน 200 ล้านบาท อายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 6.50 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้
• ชุดที่ 2 จำนวนเสนอขายไม่เกิน 500 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองการขายเพิ่มเตมิไม่เกิน 200 ล้านบาท อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 6.80 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ในวันที่ 14-16 มิ.ย.65 ผ่าน บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บล.เอเซีย พลัส และ บล.โกลเบล็ก โดยไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้และผู้ออกหุ้นกู้ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ไม่เกิน 706 ล้านบาท ภายในเดือน มิ.ย.65 และใช้ชำระหุ้นกู้มีประกันของบริษัท ครั้งที่ 1/2563 ที่ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2565 และหรือไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ จำนวนไม่เกิน 494 ล้านบาท
8.บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) ออกหุ้นกู้อายุ 2 ปี 8 เดือน ดอกเบี้ย 6.25%
บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้มีประกัน ครั้งที่ 1/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 300 ล้านบาท อายุหุ้นกู้ 2 ปี 8 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.25% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นกู้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่าน บล.เคพีเอ็ม และ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ในช่วงวันที่ 20-22 มิ.ย. 65 ซึ่งบริษัทไม่ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือผู้ออกหุ้นกู้และตราสาร
ทั้งนี้ บริษัทมีวัตถุประสงค์การนำเงินจากการออกหุ้นกู้เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการลงทุนพัฒนากิจการของบริษัท เอ็น 15เทคโนโลยี จำกัด และ บริษัท แวนด้า แคปปิตอล จำกัด รวม 150 ล้านบาทภายในเดือน ธ.ค.65 เพื่อขยายกิจการอื่น ๆ เช่น ธุรกิจบริหารจัดการของเสียและวัสดุไม่ใช้แล้ว และ ธูรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์สำเร็จรูปรวมไปถึงซอฟต์แวร์สำหรบการซื้อขายหลักทรัพย์ ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยภายในปี 66 และชำระคืนหนี้สถาบันการเงินภายในเดือน มิ.ย.65
9.บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) ออกหุ้นกู้อายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 4.10%
บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้บริษัท ครั้งที่ 1/2565 มูลค่าไม่เกิน 3,745 ล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ บริษัทจะนำเงินไปชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้ จำนวน 3,745 ล้านบาท ภายในเดือน ส.ค.65
โดยเสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน ระยะเวลาวันที่ 27-29 มิ.ย.65 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) บล.เอเซีย พลัส บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล.โนมูระ พัฒนสิน บล.เคทีบีเอสที บล.พาย บล.ไอร่า บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) บล.ฟินันเซีย ไซรัส และ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นกู้ ถือเป็นอีกหนี่งสินทรัพย์ที่น่าสนใจ เพราะเป็นตราสารทางการเงินที่เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อนจนเกินไป แต่อาจจะต้องลงทุนเป็นระยะเวลาตามกำหนดเงื่อนไขของแต่ละบริษัท ผลตอบแทนก็มีความแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นต้องหากคิดจะเลือกลงทุนในหุ้นกู้นักลทุนอาจจะต้องทำความเข้าใจกับเงื่อนไขต่าง ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าไปลงทุน
- กองทุนทองคำ หลุมหลบภัยในยามที่ตลาดตึงเครียด ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปีโดดเด่นชนะเงินเฟ้อ ประมาณ 13 – 15%
- “ทองคำ” สินทรัพย์ปลอดภัยในยาม วิกฤติเงินเฟ้อทั่วโลก สงครามรัสเซีย – ยูเครน
- 5 วิธีการลงทุน ที่ชนะเงินเฟ้อได้ไม่ยาก
- เงินเฟ้อพุ่ง น้ำมันแพง ส่งออกพัง สะเทือนธุรกิจ SME อ่วมหนัก ต้องปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอดได้
- ทำความเข้าใจ ภาวะเงินเฟ้อสูง ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ประชาชน คนทำงาน ต้องรับมืออย่างไร?
- คุมไม่อยู่! ยุควิกฤตเงินเฟ้อพุ่ง สินค้าแพง ค่าครองชีพสูง กระทบหนักทั่วโลก