8 เหตุผลสำหรับคนที่ไม่ใช่สาวก iPhone จะหันมาเลือกใช้ Pixel

  • 69
  •  
  •  
  •  
  •  

1475595353-784

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสมาร์ทโฟนที่มีผู้นิยมถึงขั้นนิยามว่าเป็น “สาวก” คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก iPhone ซึ่งผู้ที่ชอบในผลิตภัณฑ์ iPhone ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องของ Functional และ Emotional แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ชอบ iPhone ก็มองว่า ยังมีสมาร์ทโฟนอีกหลายแบรนด์ หลายรุ่นที่มีคุณสมบัติไม่แตกต่างกัน

ดูเหมือนว่าสมาร์ทโฟนจาก Google อย่างรุ่น Pixel จะถูกกล่าวถึงอย่างมาก โดยเฉพาะระบบ AI ที่สามารถทำงานได้มากกว่า Siri ของ iPhone รวมไปถึงระบบการเชื่อมต่อกับเว็บบราวเซอร์ชื่อดังอย่าง Google และแอพพลิเคชั่นประกอบอื่นๆของ Google ทำให้ Pixel ดูน่าสนใจขึ้นมาก ซึ่งนี่คือ 8 เหตุผลที่จะบอกว่าทำไมคนจึงจะเลือกใช้ Pixel มากกว่า iPhone

1. น้ำหนักเบากว่ากันเห็นๆ
ต้องยอมรับว่า iPhone เคยให้ความสำคัญกับเรื่องของน้ำหนักเครื่อง เพราะเครื่องที่มีน้ำหนักมากๆ ผู้ใช้ก็จะไม่ค่อยชอบมากเท่าไหร่ ในรุ่น 6s Plus จึงมีการทำน้ำหนักให้ตัวเครื่องเหลือเพียง 192 กรัม ซึ่งถือว่าเบามาก ยิ่งการเปิดตัว iPhone 7 Plus ล่าสุดที่ผ่านมามีการรับรองว่าเบากว่าในรุ่นก่อนๆ โดยมีน้ำหนักเพียง188 กรัม ทว่า Pixel XLสมาร์ทโฟนจาก Google กลับดั๊มพ์น้ำหนักลงมาอยู่ที่เพียง 168 กรัม ซึ่งเบากว่าอย่างเห็นได้ชัด

01

2. สีสันที่คมชัดกว่า ละเอียดกว่า
แม้ว่าเรื่องของความสวยงามจะขึ้นอยู่กับอารมณ์ของแต่ละภาพ และการรับรู้ของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน แต่เรื่องของตัวเลขสามารถวัดเปรียบเทียบกันได้ โดย iPhone 7 Plus จะมีความละเอียดแบบ FullHD 1080p กับเทคโนโลยีหน้าจอ LCD ขณะที่ Pixel XL ให้ความละเอียดของภาพระดับ 1440p ชัดกว่าระดับ FullHD นอกจากนี้ Pixel ยังใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบ AMOLED ที่ให้สีสันที่สดใสและสีดำที่ดำสนิท

02

3. จับถนัดมือไม่ต้องกลัวหล่น
สิ่งหนึ่งที่คนใช้สมาร์ทโฟนราคาแพงกลัวที่สุดคือ การที่สมาร์ทโฟนหลุดร่วงหล่นจากมือ เพราะนั่นอาจทำให้จอแตก เครื่องรวน หนักสุดก็คือกู่ไม่กลับพังโดยสิ้นเชิง ซึ่งความสวยงามของ iPhone นั้นแลกมาพร้อมกับความเสี่ยงลื่นหลุดมือ ขณะที่ Pixel มีการดีไซน์ให้ด้านหลังเครื่องมีความหยาบเล็กน้อยเพื่อให้สามารถยึดเกาะกับมือได้ แต่ต้องแลกมาด้วยความไม่สวยด้านหลัง ซึ่งในข้อนี้บอกตรงๆ ว่า หาซื้อเคสมาใส่ก็เรียบร้อยแล้ว

03

4. ชาร์จอย่างด่วน ชาร์จอย่างไว
เป็นที่ทราบกันดีว่า iPhone 7 Plus ยังไม่มีระบบการชาร์จอย่างด่วน แต่ยังคงระบบการชาร์จปกติไว้ ในขณะที่ Pixel มีการใส่ฟังก์ชั่นการชาร์จด่วนไว้ แม้ว่าจะใช้การเชื่อมต่อแบบ USB-C ซึ่งมีการทดสอบ โดยใช้สมาร์ทโฟน 3 แบรนด์ 3 รุ่นมาท้าพิสูจน์กัน โดยผู้ท้าชิงประกอบไปด้วย iPhone 7 Plus, Pixel XL และ Samsung Galaxy S7 ซึ่งทั้ง 3 เครื่องเริ่มชาร์จแบตพร้อมกันจากแบตเตอรี่ 0% เท่ากัน เมื่อผ่านไปราว 1.29 ชั่วโมง S7 ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ส่วน Pixel สามารถชาร์จได้ 98% ขณะที่ iPhone ชาร์จได้เพียง 72%

04

5. ความเร็วในการเปิดแอพแตกต่างกันชัด
นอกจากเรื่องความเร็วในการชาร์จแล้ว iPhone ยังดูเหมือนจะถูกจับผิดในเรื่องของความเร็วการเปิดแอพฯ อีกด้วย นั่นเพราะว่า การเปิดแอพของ iPhone บนระบบปฏิบัติการ iOS จะมีการใช้อนิเมชั่นเป็นลักษณะซูมเข้าออกร่วมกับการเปิดแอพฯ ขณะที่ Pixel ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android สามารถเรียกแอพได้ไวกว่าเนื่องจากไม่มีอนิเมชั่นใดๆ คือเปิดปุ๊บขึ้นมาปั๊บ แม้ว่า iPhone จะมีฟังก์ชั่นลดการขึ้นไหว แต่เป็นการลดในกรณีที่สั่งให้มีการซูม ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการเปิดแอพฯ

05

6. ขนาดไม่ท่ากันแต่เล็กๆ พกพาสะดวก
เสน่ห์อย่างหนึ่งของ iPhone คือการออกมาในแต่ละรุ่นจะมีขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน โดยในรุ่นตัวท้อปจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ที่สุดและมีฟังก์ชั่นการใช้งานมากที่สุด ขณะที่ Pixel แม้จะออกมา 2 รุ่นแต่ฟังก์ชั่นการใช้งานแทบไม่แตกต่างกัน ที่สำคัญ Pixel XL ยังมีขนาดเล็กกว่า iPhone 7 Plus โดยทาง Pixel เชื่อว่าขนาดที่เล็กกว่าย่อมช่วยให้พกพาได้สะดวกมากยิ่งกว่า

06

7. อายุการใช้งานของแบตเตอรี่แตกต่างกัน
การชาร์จด่วนช่วยให้หมดปัญหาในเรื่องของการเร่งรีบ แต่ปัญหาที่แท้จริงคือการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งต่างหากที่สำคัญ นั่นจึงทำให้แบตเตอรี่มีการแข่งขันด้านความจุ แต่สำหรับ Pixel แล้วดูเหมือนจะได้เปรียบกว่า iPhone เพราะระบบ Android เวอร์ชั่น 6.0 ขึ้นไปจะมีฟังก์ชั่นที่ชื่อว่า Doze ถูกฝังลงไปในระบบ ช่วยควบคุมการใช้ไฟจากแบตเตอรี่ในช่วงที่ไม่ได้ใช้แอพฯ นั้น ซึ่งใน iPhone ไม่มีระบบนี้

07

8. ทางลัดที่แตกต่างกันทำให้ใช้ง่ายกว่า
อีกจุดที่ดเหมือนจะเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของ iOS คือการแจ้งเตือน เพราะดูเหมือนว่าการจะลบการแจ้งเตือนต่างๆ จะต้องทำการลบจากหน้าการแจ้งเตือนด้วยตัวเอง ขณะที่การแจ้งเตือนของ Android คือการดึงจากขอบหน้าจอด้านบน ซึ่งหากมีการใช้งานก่อนการเปิดดูการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนนั้นก็จะหายไปเองอัตโนมัติ แถม Android ยังสามารถลบการแจ้งเตือนทั้งหมดด้วยการกดทีเดียว

08

 

Source : Business Insider


  • 69
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา