“จีน” ประเทศมหาอำนาจของโลกและอาจเรียกได้ว่าเป็นประเทศแห่งนวัตกรรมควบคู่กับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น นั่นเพราะทิศทางที่มีการวางให้ประเทศจีนกลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะได้ยินชื่อเมืองของจีนที่ในอดีตเคยนึกภาพเป็นเมืองชนบท ทำนาทำไร่ ความเป็นอยู่ยากจน จะกลายเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีล้ำสมัย ในช่วงระยเวลาไม่ถึง 20 ปีอย่าง เมืองเสิ่นเจิ้น เมืองสงอัน เป็นต้น
ขณะที่เมืองใหญ่ๆ ที่มีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจอยู่แล้ว ก็เตรียมให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น อย่างเมือง “เซี่ยงไฮ้” ที่มีการจัดตั้งและเปิดตัว “สมาคมการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI Investment Consortium)” อย่างเป็นทางการในการประชุม World AI Conference 2020 ที่ผ่านมา ภายใต้การลงทุนของ “กองทุนรวมเพื่อการลงทุนอุตสาหกรรมเซี่ยงไฮ้เอไอ”
โดยหน้าที่หลักของสมาคมฯ จะสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ Startup ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ทั้งในด้านเงินทุนและจัดตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการและผู้แทนฝ่ายเทคโนโลยีของกลุ่มธุรกิจ Startup ซึ่งจะเน้นพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมหลัก 6 กลุ่มด้วยกัน รวมถึงเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ หุ่นยนต์และชิปประมวลผลอัจฉริยะ
นอกจากนี้ยังได้เตรียมข้อเสนอหลักการกำกับดูแล AI เพื่อให้การใช้ AI มีความรับผิดชอบมากขึ้น เพราะเมื่อเทคโนโลยี AI ถูกนำไปใช้ในทุกด้านของชีวิต ผู้พัฒนาควรตระหนักถึงผลกระทบทางสังคม กฎหมายและการกำกับดูแล นอกเหนือจากการเพิ่มมูลค่าทางการตลาด โดยอาจจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการจริยธรรมในการแก้ไขปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยี AI โดยเน้นเรื่องความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
เห็นได้ว่า Road Map ที่จีนตั้งเป้าให้ตัวเองกลายเป็นประเทศแห้งเทคโนโลยีและนวัตกรรม คงไม่เป็นการตั้งเป้าขึ้นมาลอยๆ หากแต่มีการลงมือสนับสนุนทำกันอย่างแท้จริง ทั้งในภาพใหญ่ระดับประเทศและในภาพเล็กระดับเมือง จึงไม่แปลกหากนับจากนี้ไปในอนาคต เราจะได้เห็นนวัตกรรมจีนมากกว่าฝั่งสหรัฐฯ หรือญี่ปุ่น โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่อยู่ในชีวิตประจำวันหรือเทคโนโลยี AI
Source: China Daily
