Sanook รายได้โฆษณาร่วง

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

logo_sanook“สนุกดอทคอม”รับวิกฤติเศรษฐกิจยังแผลงฤทธิ์กระทบรายได้โฆษณา ล่าสุดปรับลดเป้าเติบโตเหลือไม่เกิน30%พร้อมเร่งผนึกพาร์ทเนอร์-ขยายช่องทางคอนเทนท์

“ในปีนี้บริษัทปรับลดเป้าอัตราเติบโตลงเหลือไม่เกิน 30% จากปีที่ผ่านมาเติบโต 30-40% ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนี้ที่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของตลาดโฆษณาออนไลน์ โดยคาดว่าในภาพรวมจะมีอัตราการเติบโตลดลงเหลือเพียง 20-30% จากปกติสามารถขยายตัวได้ปีละกว่า 80-100%  ซึ่งคาดว่ามูลค่าตลาดโฆษณาออนไลน์ในปีนี้ยังคงมีสัดส่วนรายได้เพียง 1% ของตลาดโฆษณาโดยรวมมูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท” – ต่อบุญ พ่วงมหา CEO, Sanook.com

ขณะที่ผู้เข้าใช้งานยังเติบโตต่อเนื่องราว 50-60% ล่าสุดมีจำนวนผู้ใช้บริการที่ไม่ซ้ำกัน (ยูไอพี) ราว 2 ล้านคนต่อวัน หรือ ส่วนคอนเทนท์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรกคือ คอนเทนท์ด้านการติดต่อสื่อสาร, การหาข้อมูล-คอมมูนิตี้ และการใช้บริการอี-คอมเมิร์ซรวมทั้งเกม

ต่อบุญ ระบุว่า บริษัทได้เริ่มปรับแผนงาน โดยมุ่งเน้นการขยายช่องทางการนำเสนอคอนเทนท์ที่นอกเหนือจากบนพีซี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เริ่มเปิดให้บริการเว็บไซต์บนมือถือไปแล้ว (http://m.sanook.com) โดยสามารถใช้งานได้จากมือถือทุกระบบที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งได้รับความนิยมในระดับหนึ่ง และสามารถสร้างรายได้จากการเข้าใช้คอนเทนท์ต่างๆ ราว 30% ของรายได้ทั้งหมดของสนุก ส่วนโฆษณาบนมือถือยังมีรายได้ต่ำมาก

อย่างไรก็ตามในปีนี้สนุกจะเน้นการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรมากขึ้น โดยเน้นใน 3 คอนเทนท์หลักที่ได้รับความนิยมคือ กลุ่มโมบาย อีคอมเมิร์ซ และเกม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เริ่มจับมือกับพันธมิตรระดับโลกในการผลักดันตลาดแล้วคือ “ฟอสโม” ผู้ให้บริการเกมออนไลน์รายใหญ่ ให้บริการเกมบนเว็บและ”อีเบย์” ร่วมกันขยายตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์บนเว็บ shopping.co.th

ล่าสุดบริษัทวางแผนเปิดตัวพาร์ทเนอร์ใหม่ “จ็อบส์สตรีท” เว็บหางานออนไลน์รายใหญ่จากมาเลเซีย ซึ่งได้เริ่มเปิดทดสอบเว็บไซต์แล้ว และกำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า

“ตลาดคลาสซิฟายด์ใหญ่มาก ซึ่งรายได้หลักจากเซคชั่นหางาน ขณะที่เทรนด์การโฆษณาหางานออนไลน์ก็เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ คาดว่ามีรายได้หมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 100-200 ล้านบาท ซึ่งนโยบายเราจะร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง เพื่อโฟกัสให้ประสบความสำเร็จ แต่ยอมรับว่าเศรษฐกิจมีผลกระทบกับเราเช่นกัน เพราะทำให้ลูกค้าตัดสินใจช้าขึ้น ” นายต่อบุญกล่าว

ทั้งนี้บริษัทจะเริ่มนำเสนอโซลูชั่นการทำโฆษณาออนไลน์แบบที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น (Engage Advertizing) ในปีนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับการทำโฆษณาออนไลน์ โดยจะเน้นการดึงเครื่องมือประเภทริช มีเดีย และคลิป วีดิโอ รวมทั้งโปรแกรมแฟลชเข้ามาสร้างสีสันให้กับแบนเนอร์ เพื่อดึงความสนใจจากผู้เข้าชมเว็บ และกระตุ้นการลงทุนในตลาดโฆษณาออนไลน์มากขึ้น

ปัจจุบันสนุกมีรายได้จากโฆษณาออนไลน์ ราว 70% ของรายได้รวม ที่ได้จากบริษัทโฆษณาท็อปสเปซ และเว็บ shopping.co.th และราว 30% เป็นรายได้จากการขายคอนเทนท์

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


  •  
  •  
  •  
  •  
  •