ออฟฟิศเป็นหนึ่งสถานที่ที่แต่ละคนใช้ชีวิตถึงเกือบ 1 ใน 3 ของเวลาใน 1 วัน บางครั้งอาจต้องอยู่ที่ออฟฟิศมากกว่า 9 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งการต้องนั่งอยู่ในท่าเดิมๆ เป็นเวลานาน รวมไปถึงสภาพแวดล้อมของออฟฟิศ ล้วนเป็นสาเหตุของอาการป่วย และนี่คือ 8 สิ่งที่ออฟฟิศสามารถเปลี่ยนเพื่อให้สุขภาพของคนทำงานดีขึ้น
Workplace Wellness
“การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสิรฐ” คำกล่าวนี้เป็นจริงเสมอ นั่นเพราะสุขภาพที่ดีช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และสามารถทำอะไรต่างๆ มากมาย นอกจากนี้สุขภาพที่ดีช่วยลดค่าใช้จ่ายในการด้านการรักษาพยาบาล ที่ยุคนับวันมีแต่โรคที่ประหลาดรักษายากขึ้น ขณะส่วนใหญ่หลายคนใช้ชีวิตอยู่ในออฟฟิศมากกว่าที่อื่น โรคภัยไข้เจ็บจึงมักจะมาจากที่ทำงาน
แน่นอนว่าการออกกำลังกายสามารถช่วยได้ แต่ถ้าทำงานเกินกว่า 9 ชั่วโมงต่อวันก็คงยากที่จะหาเวลาออกกำลังกาย งั้นมาลองปรับเปลี่ยนออฟฟิศให้น่าทำงานและช่วยให้มีสุขภาพที่ดีกันดีกว่า กับ 8 สิ่งในการปรับออฟฟิศเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น
- คุณภาพอากาศภายในออฟฟิศ
เกือบ 100% ส่วนใหญ่ของออฟฟิศจะเป็นอากาศแบบปิด เนื่องจากในออฟฟิศมีการใช้เครื่องปรับอากาศ นั่นเองที่ทำในอากาศในออฟฟิศไม่บริสุทธิ์ ทั้งจากเชื้อราสะสมและก๊าซคาร์บอนฯ จากระบบเครื่องปรับอากาศ งั้นถ้าเปิดหน้าต่างรับลมช่วยให้อากาศในออฟฟิศมีการถ่ายเท หรือทำความสะอาดออฟฟิศโดยการใช้สารทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ และส่งเสริมให้พนักงานเดินเล่นนอกออฟิศในช่วงพักเที่ยงหรือหยุดพัก

- เฟอร์นิเจอร์ตามหลักสรีระศาสตร์
อาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดเข่าหรือที่เรามักเรียกกันว่า Office Syndrome ส่วนใหญ่เกิดมาจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ยิ่งไปกว่านั้นบางคนยังนั่งผิดวิธี ซึ่งหนึ่งในสาเหตุคือเก้าอี้สร้างขึ้นมาไม่เหมาะกับสรีระของคน ออฟฟิศสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เพื่อให้เข้ากับสรีระของคนทพำงาน หรืออาจใช้หมอนใบเล็กช่วยในการนั่งให้เหมาะสมกับสรีระได้

- อย่านั่งแช่ ออกไปลุก ยืน เดินบ้าง
เข้าใจว่ามีงานมาก แต่ละงานล้วนสำคัญ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าคนเรามีข้อต่อจำนวนมาก แสดงว่าสรีระของคนเราถูกออกมาแบบมาให้เคลื่อนไหวต่อเนื่อง การนั่งปักหลักทำงานเป็นเวลานานๆ จึงเป็นการฝืนธรรมชาติของร่างกาย และนำมาซึ่งอาการปวดตามข้อต่างๆ อาจแก้ไขด้วยการเดินขึ้นลงบันไดยามว่าง หรือออกไปเดินเล่น นอกจากช่วยให้ข้อต่อเคลื่อนไหวแล้ว ยังเป็นการพักสายตาไปในตัว หรือออฟฟิศจะใช้ดีมีอุปกรณ์กีฬาอย่างโต๊ะปิงปองหรือโต๊ะสนุ๊กเกอร์ก็ช่วยให้เกิดการเคลื่อนไหวได้อีกทาง

- สภาพแวดล้อมภายในออฟฟิศ
สภาพแวดล้อมเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในการทำงานที่ออฟฟิศ สีเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เกิดพลังการทำงาน การออกแบบที่นั่งให้ไม่แออัดเกินไปก็ช่วยได้ หรือการควบคุมแสงให้เพียงพอต่อการทำงาน รวมไปถึงเรื่องของอุณหภูมิห้องที่เย็นไปก็หนาวจนคิดอะไรไม่ออก หรือร้อนจนหงุดหงิด และเสียงเป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้ทำงานในออฟฟิศได้อย่างสบายใจ โดยเฉพาะเสียงเพลง

- อาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารการกินก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยสร้างสุขภาพที่ดีในออฟฟิศ ซึ่งการทำงานแบบเร่งรีบจะส่งผลให้คนทำงานต้องกินอาหารแนวฟาสต์ฟู้ดมากขึ้น เพื่อให้สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง และนั่นทำให้สุขภาพตคนทำงานเสียไป ออฟฟิศควรสนับสนุนให้คนทำงานทานอาหารเพื่อสุขภาพ ให้ความรู้เรื่องการทานอาหาร และอาจจะมีการเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพให้กับคนทำงาน

- โปรแกรมการออกกำลังกาย
อย่างที่กล่าวไว้ว่าการออกกำลังกายช่วยให้สุขภาพดี ออฟฟิศจึงควรสนับสนุนให้คนทำงานออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังมาสอนคนทำงาน หรือการจัดเตรียมพื้นที่ในออฟฟิศเพื่อเป็นสถานที่สำหรับออกกำลังกาย หรือออฟฟิศสามารถดีลกับสถาบันออกกำลังกายเพื่อติดตามการออกกำลังกายของคนทำงานในออฟฟิศ

- ตรวจสุขภาพพนักงานเป็นประจำ
ทั้งหมดที่กล่าวมาก่อนหน้านั้นคือการแก้ไขและส่งเสริมเพื่อให้คนทำงานในออฟฟิศมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างสุขกายสบายใจ ซึ่งการตรวจสุขภาพของคนทำงานจะช่วยให้ออฟฟิศ ทราบว่าคนทำงานคนไหนที่ต้องดูแลสุขภาพหรือส่งเสริมให้สร้างสุขภาพที่ดี เป็นการตรวจสอบและแจ้งเตือนออฟฟิศถึงความเสี่ยงในสุขภาพคนทำงาน

- จัดการความเครียดและสุขภาพจิต
สุขภาพทางร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ แต่สุขภาพจิตสำคัญกว่า หลายครั้งที่คนทำงานถูกกดดันในเรื่องงาน จนก่อให้เกิดเป็นปัญหาสุขภาพทางจิต ออฟฟิศอาจจะต้องคอยตรวจสอบ เข้าไปพูดคุย ส่งเสริมกิจกรรมร่วมกับคนทำงานในออฟฟิศ แนะนำช่องทางในการปรึกษาปัญหาทางจิตทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ จัดกิจกรรมทางสังคมเพื่อให้คนทำงานได้ทำกิจกรรม และหากมีกิจกรรมนั่งสมาธิเพื่อฝึกให้จิตใจสงบก็ช่วยได้อีกทางหนึ่ง

Source: Entrepreneur