สิ้นสุดยุคทอง! ร้าน Quiksilver, Billabong และ Volcom ปิดตัวทั่วสหรัฐฯ

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ภาพ: Roman Zaiets / Shutterstock.com

เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ Quiksilver, Billabong และ Volcom เป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมเซิร์ฟ สเก็ต และสโนว์บอร์ด เสื้อผ้าของพวกเขากลายเป็นเอกลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ที่รักการผจญภัย ผสมผสานสไตล์กับจิตวิญญาณแห่งกีฬาเอ็กซ์ตรีม อย่างไรก็ตาม กระแสได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยร้านค้ากว่า 100 แห่งทั่วสหรัฐฯ กำลังจะปิดตัวลงถาวรหลังจากผู้ดำเนินกิจการ Liberated Brands ยื่นขอล้มละลาย

Liberated Brands ซึ่งถือสิทธิ์การค้าปลีกของแบรนด์เหล่านี้ อ้างถึงสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นสาเหตุหลักของการล้มละลาย Todd Hymel ซีอีโอของบริษัท ได้ระบุในเอกสารยื่นล้มละลายว่า อัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้น ปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน และความต้องการที่ลดลงสำหรับค้าปลีกแบบดั้งเดิม ล้วนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริษัท

ย้อนกลับไปในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แบรนด์เหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ Liberated ขยายร้านค้าจาก 67 เป็น 140 สาขา แต่เมื่อกระแสการช้อปปิ้งในช่วงโรคระบาดสิ้นสุดลง และค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งความนิยมของ Fast Fashion ที่เสนอเสื้อผ้าราคาถูกและตามเทรนด์ได้เร็วกว่าก็ยิ่งทำให้บริษัทเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น

แม้ร้านค้าจะปิดตัวลง แต่แบรนด์ Quiksilver, Billabong และ Volcom จะยังคงอยู่ต่อไป บริษัทแม่อย่าง Authentic Brands Group ได้ยืนยันว่าจะโอนสิทธิ์การขายให้กับผู้ดำเนินธุรกิจรายใหม่ โดยจะมุ่งเน้นการขายผ่านร้านค้าปลีกเฉพาะทาง ห้างสรรพสินค้า และช่องทางออนไลน์แทน เพื่อให้ธุรกิจมีความคล่องตัวและแข็งแกร่งมากขึ้นในระยะยาว

Authentic Brands Group ได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า จำนวนร้านค้าที่มีอยู่ก่อนหน้านี้นั้น “มากเกินไป” และเต็มไปด้วยสาขาที่ล้าสมัยและไม่สามารถทำกำไรได้ การปิดร้านเหล่านี้ แม้จะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ก็เป็นไปตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมค้าปลีก ซึ่งบริษัทใหญ่อย่าง Macy’s และ Kohl’s ต่างก็ปิดร้านค้าเช่นกันเพราะต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัล

การปิดตัวของร้าน Quiksilver, Billabong และ Volcom เป็นส่วนหนึ่งของกระแสการลดขนาดร้านค้าปลีกที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าร้านค้ากว่า 15,000 แห่งในอุตสาหกรรมต่างๆ จะต้องปิดตัวลงในปี 2025 ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึงสองเท่า ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและแรงกดดันทางเศรษฐกิจ แบรนด์ที่ไม่ปรับตัวอาจเสี่ยงต่อการเลือนหายไปจากตลาด

ที่มา: CNN, NBC


  •  
  •  
  •  
  •  
  •