AIS จับมือ ททท. พลิกเกมท่องเที่ยวไทยสู่สวรรค์นักชิมยุคใหม่ บนความเปลี่ยนแปลงของย่านบรรทัดทอง

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

กาลเวลาที่ผันเปลี่ยนได้นำพาโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว การท่องเที่ยวก็เช่นกันที่มิได้หยุดนิ่งอยู่เพียงการเยี่ยมชมสถานที่ หากแต่คือการเสาะแสวงหาประสบการณ์ไร้รอยต่อ สะดวกสบาย และเชื่อมโยงถึงกันได้ตลอดเวลา นี่คือจุดเริ่มต้นของมิติใหม่เมื่อ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผนึกกำลังกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวแคมเปญ “สุขใจ เที่ยวไทย อุ่นใจทุกที่” เพื่อให้การเดินทางในไทยนับจากนี้ไป จะเปี่ยมด้วยความสุข สนุกสนานผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล

 

เมื่อวิสัยทัศน์แห่งการท่องเที่ยวบรรจบกับเทคโนโลยี

ช่วงนี้หากสังเกตจะพบว่า นักท่องเที่ยวจีนเริ่มลดลงบางแห่งแทบไม่พบนักท่องเที่ยวจีน สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนที่ผ่านมาลดลง เป็นผลมาจากกระแสข่าวความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์และรายได้จากการท่องเที่ยว นั่นจึงทำให้ต้องมีการแก้ปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย นั่นคือที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้

ซึ่งหัวใจสำคัญของความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้ คือวิสัยทัศน์ที่สอดประสานกันอย่างลงตัว โดยทาง คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชี้ว่า “ททท. ใช้พลังของการท่องเที่ยวเป็นจักรกลขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติ พร้อมทั้งมุ่งออกแบบประสบการณ์การเดินทางให้ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคดิจิทัล ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาเสริมทัพ ทั้งในด้านการอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และการเข้าถึงข้อมูล”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการท่องเที่ยวผสานกับโครงข่ายสื่อสารและอินเทอร์เน็ตประสิทธิภาพสูง ซึ่งถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ โครงการนี้จึงเป็นก้าวย่างสำคัญในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ครองใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก และจุดพลังการท่องเที่ยวไทยให้เบ่งบานเต็มศักยภาพในปี “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025”

ทางด้าน AIS โดย คุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สะท้อนวิสัยทัศน์ว่า “AIS พร้อมเดินหน้าภายใต้แนวคิด AI for Sustainable Nation ที่มุ่งมั่นนำศักยภาพของโครงข่ายอัจฉริยะและเทคโนโลยี AI มายกระดับทุกภาคส่วนของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในหัวใจหลักที่ AIS เชื่อมั่นว่า โครงข่ายสื่อสารที่มีคุณภาพคือรากฐานสำคัญของการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีเยี่ยม”

 

ถอดรหัส “3 ต้อง” กลยุทธ์มัดใจนักเดินทางจาก AIS

ความร่วมมือในครั้งนี้ดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ “3 ต้อง” ที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลอันน่าประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น

  • ท่องเที่ยวสุขใจแล้ว ต้องอุ่นใจ: โดย AIS ให้คำมั่นว่า ทุกการสื่อสารจะต่อเนื่องไม่มีสะดุด พร้อมบริการดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยตลอดเส้นทาง ความผสานความร่วมมือสุดน่ารักจาก “น้องสุขใจ (ททท.) x อุ่นใจ (AIS)” สองมาสคอตสุดน่ารักที่จะไปปรากฏตัวเป็นจุดเช็กอินสุดเก๋ในแหล่งท่องเที่ยวกว่า 100 จุดแลนด์มาร์ก UNSEEN ทั่วไทย
  • เครือข่าย ต้องแข็งแกร่ง: ภายใต้โครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 95% และโครงข่าย 4G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 98% ช่วยให้สัญญาณแรงชัดในทุกจุดหมายและช่วงเทศกาลสำคัญทั่วประเทศ ให้นักท่องเที่ยวไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะแชร์ความสุข อัปโหลดรูปภาพ หรือค้นหาข้อมูล
  • ประสบการณ์ ต้องพิเศษ: ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ผ่าน AIS Points ที่เปรียบเสมือนสกุลเงินแห่งความสุข ให้นักท่องเที่ยวสามารถแลกรับส่วนลด ของรางวัล หรือบริการพิเศษจากเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งกว่า 1,000 แบรนด์ รวมกว่า 30,000 ร้านค้าทั่วไทย ยิ่งไปกว่านั้น AIS ยังได้ร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ชั้นนำจากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก เพื่อประชาสัมพันธ์และมอบสิทธิพิเศษให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 1,200 ล้านคนที่เดินทางมาในประเทศไทย

ความร่วมมือระหว่าง AIS และ ททท. ในครั้งนี้ มิได้เป็นเพียงแคมเปญการตลาด แต่นี่คือการสร้าง ecosystem เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น

  • นักท่องเที่ยว: ที่สามารถได้รับประสบการณ์ที่เหนือกว่า สะดวก ปลอดภัย คุ้มค่า และสนุกสนานยิ่งขึ้น
  • AIS: ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัล สร้างความผูกพันกับลูกค้า และได้ข้อมูลเพื่อพัฒนาบริการ
  • ททท.: บรรลุเป้าหมายส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ และกระจายรายได้
  • ผู้ประกอบการท้องถิ่น: มีโอกาสเพิ่มยอดขาย เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ และเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจดิจิทัล

 

 

นี่จึงเป็นโครงการที่ผสานจุดแข็งของ AIS ทั้งในด้านโครงข่ายและแพลตฟอร์มดิจิทัล เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการตลาดการท่องเที่ยวของ ททท. ช่วยสร้างการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคอย่างแท้จริง

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน คุณประพัฒน์ เสียงจันทร์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจค้าปลีก AIS ชี้ว่า “ภายใต้ความร่วมมือนี้จะเกิดกิจกรรมไฮไลต์ที่จะนำร่องความสำเร็จ โดยเริ่มต้นที่ “ถนนบรรทัดทอง” และจะขยายความสุขไปทั่วประเทศผ่านแคมเปญอย่าง “อิ่มฟิน อร่อยฟรี” ที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้ AIS Points แลกรับส่วนลดความอร่อยในร้านอาหารเด็ดทั่วไทยใน 87 เทศกาลท่องเที่ยวใน 59 จังหวัดตลอดทั้งปี

นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้บริการ AIS LUCKY TOURIST SIM ที่จะได้สัมผัส Soft Power ของไทยอย่างเต็มรูปแบบ เช่น ส่วนลดเข้าชมสนามมวยราชดำเนิน, สวนสัตว์เขาเขียว, Voucher KingPower, บริการห้องพักรับรองพิเศษจาก Central และประกันเดินทางฟรี

 

“ถนนบรรทัดทอง” จากตำนานท้องถิ่นสู่สวรรค์นักชิมนานาชาติ

ท่ามกลางความร่วมมือระดับประเทศ ยังมีเรื่องราวของชุมชนหนึ่งที่น่าสนใจและสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้ นั่นคือ “ถนนบรรทัดทอง” ถนนสายอาหารที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลังโควิด-19 ผ่านมุมมองของ คุณสิทธิฉันท์ วุฒิพรกุล ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง โดยเล่าว่า “บรรทัดทองได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของคนรุ่นใหม่และนักชิม”

จากข้อมูลพบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการบนถนนเส้นนี้ถึงวันละ 20,000 – 30,000 คน โดยประมาณ 30% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้ง จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น และยุโรป นักท่องเที่ยวเหล่านี้ต่างหลั่งไหลเข้ามาลิ้มลองอาหารหลากหลายที่ถนนบรรทัดทอง

ในวันนี้บรรทัดทองจึงไม่ใช่แค่ถนน แต่เป็น “Purity Destination” เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมอาหารที่มีชีวิต จากร้านอาหารเก่าแก่ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นอย่างร้าน “รสดีเด็ด” ที่อยู่คู่จุฬาฯ มากว่า 60 ปี สู่ร้านอาหารสมัยใหม่ที่สร้างสรรค์โดยเชฟรุ่นใหม่ผู้มีความฝัน ซึ่งมองว่าอาชีพทำอาหารคืออาชีพที่มีเกียรติ

การที่ AIS และ ททท. เลือกถนนบรรทัดทองเป็นพื้นที่นำร่องกิจกรรม “อุ่นใจ เช็กอิน ฟินรับพอยท์ @บรรทัดทอง” จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ถนนเส้นนี้เป็นย่านยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายกินและคนรุ่นใหม่ กิจกรรมนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวสแกน QR Code ผ่านแอป myAIS ที่จุดเช็กอินอุ่นใจ 10 จุด เพื่อรับ AIS Points สูงสุด 50 คะแนน และเมื่อเช็กอินครบยังได้รับอาหารจานพิเศษฟรี หรือใช้ 40 พอยท์แลกส่วนลด 40 บาทจากร้านค้ากว่า 100 ร้าน นักท่องเที่ยวสามารถใช้ AIS Points แลกสิทธิพิเศษได้นั้น อาจพัฒนาเป็นสิทธิประโยชน์ระยะยาวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือนบรรทัดทองอีกในอนาคต

สำหรับวิสัยทัศน์ที่ไกลกว่าเดิมของย่านบรรทัดทอง ที่มองว่าอาหารไทยไม่ใช่แค่ “Food Culture” แต่คือ Soft Power ที่ทรงพลัง ในอนาคตอาจได้เห็นแนวคิด “Chef Celebrity” หรือการทำให้เชฟกลายเป็นผู้มีชื่อเสียง และอาหารทุกจานต้องสวยงามน่าถ่ายรูปแบ่งปันประสบการณ์ นอกจากนี้ยังมีแผนยกระดับอาหารด้วยการผสมผสานกับแฟชั่น ผ่านโครงการ “Food Carpet”

โดย Food Carpet จะเป็นกิจกรรมประจำปีที่เปลี่ยนพรมแดงแบบเดิมๆ ให้ผู้คนแต่งกายแบบแฟชั่นเต็มยศชนิดที่หลุดออกมาจากแคทวอล์คมาเดินเฉิดฉายพร้อมลิ้มลองอาหารรสเลิศ เป็นการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและยกระดับมาตรฐานอาหารไทย

ความร่วมมือระหว่าง AIS และ ททท. ในโครงการ “สุขใจ เที่ยวไทย อุ่นใจทุกที่” และการตื่นตัวของชุมชนอย่างถนนบรรทัดทอง คือภาพสะท้อนอนาคตของการท่องเที่ยวไทยที่เทคโนโลยี นวัตกรรม และพลังของชุมชน จะผสานรวมกันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ที่มอบทั้งความสุขทางกายและความอุ่นใจผ่านทุกการเดินทาง


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา